บท
ตั้งค่า

7 อยากรู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง

ภคชนท์พาฉัตรญาดามายังร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งคนที่เขานัดมาเจอในวันนี้ก็คือภูวริษ เมื่อมาถึงเขาก็พาหญิงสาวไปยังโต๊ะที่จองเอาไว้ล่วงหน้าและเพื่อนของเขาก็มารออยู่ก่อนแล้ว

“มาแล้วเหรอรถติดมากใช่ไหมล่ะ” ภูวริษที่นั่งอยู่ก่อนทักทายผู้มาใหม่

“ติดมากเลยแหละ นายมานานหรือยัง”

“สักพักแล้วล่ะ”

“ญาดานี่ภูวริษเพื่อนของผม”

“สวัสดีค่ะคุณภูวริษ”

“สวัสดีครับ คุณญาดาเรียกภูเฉยๆ ก็ได้ เชิญนั่งก่อนครับ”

“ขอบคุณค่ะ”

“นายสั่งอะไรมาหรือยังภู” ภคชนท์ถามคนที่มาถึงร้านก่อน

“สั่งไปแล้วของโปรดของเรานั่นแหละ แล้วคุณญาดาอยากทานอะไรก็สั่งเพิ่มได้เลยนะครับ” ภูวริษส่งเมนูอาหารให้กับหญิงสาวที่นั่งตรงข้ามกับเขา

“ฉันทานได้ทุกอย่างค่ะคุณภู เอาไว้อาหารมาแล้วไม่พอค่อยสั่งอีกครั้งก็ได้นะคะ”

“ทำงานกับเพื่อนผมเป็นยังไงบ้างครับ เขาใช้งานคุณหนักไหม”

“ไม่เท่าไหร่คะ บอสเป็นเจ้านายใจดีค่ะ” หญิงสาวตอบพลางหันมองหน้าเจ้านายที่เหมือนกำลังรอคำตอบ

“นายชนท์เนี่ยนะใจดี คุณญาดาเข้าใจผิดอะไรไปหรือเปล่าปกติเขาเป็นคนเคร่งเครียดกับการทำงานมากนะ” ภูวริษรู้ว่าเวลาทำงานภคชนท์จะจริงจังมาก

“สงสัยเพราะฉันเพิ่งเข้าไปทำงานมั้งคะ บอสก็เลยยังไม่ค่อยเข้มงวดกับฉันเท่าไหร่”

“ก็ดีนะครับที่เขารับผู้ช่วย ที่ผ่านมาเขาทำงานหนักมาตลอดพอมีคุณญาดามาช่วยงานก็คงทำให้เพื่อนผมเหนื่อยน้อยลงเยอะเลยครับ”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าจะทำให้บอสเหนื่อยน้อยลงหรือจะเป็นการเพิ่มภาระของบอสเพราะฉันไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน”

“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณญาดาทุกอย่างมันฝึกกันได้ ว่าแต่ก่อนหน้านี้คุณญาดาทำงานอะไรมาเหรอครับ” ภูวริษถามทั้งที่ตัวเองก็รู้มาจากภคชนท์แล้วว่าก่อนหน้านี้เธอเคยทำงานเป็นพยาบาลมาก่อน

“ฉันทำงานเป็นพยาบาลมาสามปีค่ะ”

“แล้วนึกยังไงถึงลาออกมาทำงานเป็นผู้ช่วยล่ะครับ ”

“ฉันอยากลองทำอะไรที่มันแปลกใหม่ออกไปค่ะ แล้วก็โชคดีมากบริษัทของบอสให้โอกาสกับคนที่ไม่มีประสบการณ์”

“ผมหวังว่าคุณจะชอบงานใหม่และทำงานกับเพื่อนของผมนานๆ นะครับ”

“ค่ะคุณภู”

บทสนทนาหยุดลงเพียงแค่นี้เมื่ออาหารจากทางร้านกำลังทยอยมาเสิร์ฟ

“อาหารน่าทานมากๆ เลยค่ะ บอสกับคุณภูมาทานที่นี่บ่อยไหมคะ”

“ผมกับเพื่อนชอบมาทานร้านนี้กันเป็นประจำ”

“อีกหน่อยคุณญาดาก็คงเป็นแขกประจำเหมือนกับเรานั่นแหละ เพราะเป็นผู้ช่วยนายชนท์ก็คงต้องไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด”

“ค่ะ”

หญิงสาวพยักหน้าจากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มรับประทานอาหารกันเงียบๆ ฉัตรญาดาสังเกตว่าเจ้านายของตัวเองนั้นเขี่ยต้นหอมและผักชีออกมาวางตรงขอบจานมันทำให้เธอนึกไปถึงผู้ชายคนหนึ่งไม่ได้

“แล้วมาทานข้าวด้วยกันอีกนะครับคุณญาดา”

“ถ้าบอสชวนมาฉันก็มาค่ะ”

“ถ้าเขาไม่ชวนเรามากันสองคนก็ได้ คุณมีเบอร์กับไลน์ของผมแล้วนี่ ติดต่อมาได้ตลอดเลย ถ้าเจ้านายใช้งานหนักก็โทรมาบอกผมได้นะ ผมจะช่วยจัดการให้เอง”

“ค่ะคุณภู”

“ไปกันเถอะญาดา คุณต้องไปเอารถที่บริษัทอีกนะ”

“ฉันไปก่อนนะคะคุณภู ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”

ฉัตรญาดาเดินตามเจ้านายมาที่รถเพื่อให้เขาขับไปส่งเอารถที่บริษัท

“บอสคะบอสมีพี่น้องมั้ยคะ” หญิงสาวถามขณะนั่งรถของเขากลับมายังบริษัท

“ผมเป็นลูกคนเดียวถามทำไมเหรอ”

“ก็หน้าตาของบอสเหมือนผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันเคยรู้จักค่ะ ท่าทางก็เหมือนแถมยังไม่ชอบทานต้นหอมผักชีเหมือนกันอีกด้วยนะคะ” ฉัตรญาดาไม่อยากเก็บความสงสัยไว้อีกต่อไปก็เลยคิดว่าถามไปเลยจะดีกว่า

“ญาดาคนไม่ชอบทานต้นหอมผักชีบนโลกนี้มีเยอะแยะเลยนะ ผมคงไม่ใช่คนที่คุณเคยรู้จักหรอกเพราะถ้าอย่างนั้นเราก็คงจะจำกันได้แล้วใช่ไหมล่ะ”

“ค่ะ แต่ฉันคุ้นกับหน้าตาและท่าทางของบอสมากนะคะ บอสคล้ายกับเขามากจริงๆ ค่ะ เพียงแต่ชื่อนามสกุลต่างกันอีกอย่างบอสก็เรียนจบมาจากต่างประเทศ ส่วนเขาคนนั้นฉันไม่รู้เลยว่าได้เรียนจนจบหรือเปล่า”

“อ้าว...คุณพูดเหมือนคุณรู้จักผู้ชายคนนั้นแล้วทำไมถึงไม่รู้ล่ะว่าเขาเรียนจบหรือเปล่า”

“มันมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาค่ะ”

“ทำไมคุณไม่ถามเขาล่ะว่าเรียนจบไหมหรือไม่กล้าถาม”

“ฉันอยากถามเขามากค่ะและก็อยากรู้ข่าวคราวของเขามากๆ แต่เขาขาดการติดต่อไปเลย”

“ตอนนี้นี้มีสื่อโซเชียลเยอะแยะนะถ้าเราจะตามหาใครสักคนมันไม่ยากเลยนะญาดา”

“ฉันรู้ค่ะว่ามันไม่ยากแต่ฉันก็ติดต่อเขาไม่ได้จริงๆ”

“ถ้าติดต่อตัวเขาไม่ได้ก็ลองกลับไปถามครอบครัวเขาสิ คนเราต้องมีครอบครัวมีญาติพี่น้องอยู่แล้ว”

“ฉันถามแล้วค่ะ แต่ญาติพี่น้องของเขาก็ตอบว่าไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหนฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องเป็นหรือเพราะเขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นกันแน่”

“ผู้ชายคนนั้นเขาทำอะไรเหรอญาติถึงไม่อยากยุ่งเกี่ยวหรือว่าเขาเป็นคนไม่ดีล่ะญาดา”

“พี่วัชร์เขาเป็นคนดีค่ะ เป็นคนดีมากๆ”

“เป็นคนดีมากอย่างนั้นเหรอ”

“ค่ะ ถึงคนอื่นจะมองเขาไม่ดีแต่สำหรับฉันแล้วเขาเป็นคนดีมากๆ ฉันไม่เคยลืมเขาได้เลยถึงแม้ว่าจะไม่ได้ติดต่อกันนานสิบปีแล้วก็ตาม” น้ำเสียงที่ฉัตรญาดาพูดถึงผู้ชายในอดีตนั้นเต็มไปด้วยความเศร้า

ภคชนท์ไม่รู้จะถามอะไรหญิงสาวต่อเขาอยากจะบอกว่าผู้ชายที่เธอพูดถึงก็กำลังขับรถให้เธอนั่งอยู่แต่คิดว่ามันยังเร็วไปถ้าจะถามว่าทำไมพี่สาวของเธอถึงเลิกติดต่อกับเขา

“ผู้ชายที่คุณพูดถึงเป็นแฟนคุณหรือเปล่า”

“เปล่าหรอกค่ะ เขาคบกับพี่สาวของฉัน”

“ผมว่าพี่สาวของคุณน่าจะรู้ดีกว่าใครนะครับว่าตอนนี้ผู้ชายที่คุณพูดถึงอยู่ที่ไหน”

“พี่สาวของฉันเป็นคนสุดท้ายที่ฉันจะถามค่ะ” เมื่อพูดถึงพี่สาวน้ำเสียงของฉัตรญาดาก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชาและดูห่างเหินอย่างเห็นได้ชัด

“คุณมีปัญหากับพี่สาวเหรอญาดา”

“ทำไมบอสคิดอย่างนั้นล่ะคะ”

“ผมฟังจากน้ำเสียงน่ะ มันจริงใช่ไหม”

“จริงค่ะ”

“แก้ไขมันสิ”

“มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกค่ะ”

“แล้วคุณไม่อยากเจอผู้ชายคนนั้นเหรอ”

“อยากเจอค่ะ แต่พี่สาวฉันก็คงไม่รู้หรอกว่าเขาอยู่ที่ไหนและฉันก็ไม่ได้ติดต่อกับพี่สาวมานานแล้ว”

“ทำไมล่ะ”

“เรื่องมันซับซ้อนค่ะบอส ตอนนี้พี่สาวของฉันเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลไปแล้วและฉันเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่สาวของฉันอยู่ที่ไหน”

ภคชนท์ตกใจกับคำตอบที่ได้ยินแต่ก็ยังทำตัวเป็นปกติและชวนเธอคุยต่อ

“ถ้ารู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนคุณจะทำยังไงต่อเหรอญาดา”

“ก็ไม่ทำอะไรหรอกค่ะ ฉันไม่อยากเกี่ยวข้องกับเธออีกแล้ว”

“แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะ”

“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ บางทีฉันอาจจะเจอเขาแล้วแต่เวลามันผ่านมานานสิบปีฉันอาจจำเขาไม่ได้และเขาเองก็คงจำฉันไม่ได้เหมือนกัน”

“ผมไม่รู้จะช่วยเรื่องนี้ได้ยังไง”

“แค่บอสฟังที่ฉันเล่าก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ”

ภคชนท์อยากจะชวนฉัตรญาดาคุยต่อแต่ตอนนี้เขาก็ขับรถมาถึงบริษัทแล้ว

“ขอบคุณนะคะบอส”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel