บท
ตั้งค่า

10 ความสงสัย

ตลอดระยะเวลาหลายวันที่นั่งทำงานในห้องเดียวกับภคชนท์ฉัตรญาดาก็สังเกตท่าทางและใบหน้าของเขาอยู่ตลอด เธออยากจะเชื่อเหลือเกินว่าผู้ชายคนนี้คือผู้ชายคนเดียวกับคนที่เธอรู้จักเมื่อสิบปีก่อนแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มถามจากตรงไหน ในแต่ละวันงานยุ่งจนเธอไม่มีเวลาส่วนตัวคุยกับเขาเลยจนกระทั่งถึงวันหยุด

ฉัตรญาดาเช็กตารางออกตรวจของหมอภูวริษและเลือกที่จะไปใกล้เวลาเลิกงานของเขาในบ่ายวันเสาร์ซึ่งเขาออกตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

หญิงสาวทำประวัติผู้ป่วยและนั่งรอตรวจอย่างไม่รีบร้อนเพราะคิดว่าถ้าตนเองได้ตรวจเป็นคนสุดท้ายก็จะมีโอกาสคุยกับคุณหมอได้มากขึ้นเมื่อถึงคิวตรวจพยาบาลก็เรียกเธอเข้าไปด้านในห้องตรวจ

“สวัสดีค่ะคุณหมอ” ฉัตรญาดากล่าวทักทายคุณหมอหนุ่ม

“อ้าว....คุณญาดามาได้ยังไงมี ธุระอะไรกับผมหรือเปล่า”

“ฉันมาหาหมอก็ต้องไม่สบายสิคะ”

“เป็นอะไรครับ เชิญนั่งก่อน”

“รู้สึกปวดต้นคอนิดหน่อยค่ะสงสัยจะก้มหน้าทำงานมากเกินไป”

“เพื่อนผมใช้งานหนักขนาดนั้นเลยเหรอครับ”

“เปล่าหรอกค่ะ ฉันไม่เคยทำงานนั่งโต๊ะก็เลยไม่ค่อยชินเท่าไหร่ค่ะ”

“ผมขออนุญาตตรวจนะครับ”

คุณหมอหนุ่มลุกขึ้นตรวจอาการของหญิงสาวไม่นานก็บอกกับเธอว่าอาการที่เธอเป็นอยู่เป็นอาการเริ่มต้นของออฟฟิศซินโดรมและแนะนำให้เธอขยับตัวและออกกำลังกายบริหารต้นคอระหว่างนั่งทำงานบ้าง

“ขอบคุณค่ะคุณ”

“หมอเดี๋ยวผมจะจัดยาทานให้นะครับถ้าหายปวดก็เลิกทานได้เลย แต่ต้องทานยาหลังอาหารทันที คุณอยากได้ครีมทาแก้ปวดไหม”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันขอแค่ยาทานก็ได้” หญิงสาวรีบปฏิเสธเพราะอันที่จริงแล้วเธอไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยเพียงแต่อยากจะมาเจอเขาเท่านั้น

“วันนี้เป็นวันหยุดของคุณใช่ไหมญาดา”

“ค่ะ แต่หมอขยันจังเลยนะคะวันเสาร์ก็ยังมาตรวจ”

“ผมตรวจแค่ช่วงบ่ายวันเสาร์นะครับเบื่อๆ ไม่รู้จะไปไหนก็เลยรับขึ้นเวรที่โรงพยาบาลเพิ่ม กลับจากโรงพยาบาลแล้วคุณญาดามีธุระจะไปที่ไหนหรือเปล่า” ภูวริษมองนาฬิกาและเห็นว่ากำลังจะหมดเวลาออกตรวจของตนเอง

“ก็คงไปหาอะไรทานก่อนกลับคอนโดค่ะ”

“ถ้างั้นก็ดีเลย คุณญาดาหิวหรือยังครับ”

“ยังค่ะ คุณหมอถามทำไมคะ”

“ไปทานอะไรเป็นเพื่อนผมหน่อยดีมั้ยล่ะอีกประมาณ 15 นาทีผมก็จะเลิกงานแล้วก็คงพอดีกับที่คุณได้รับยา”

“ไม่รบกวนคุณหมอจนเกินไปใช่ไหมคะ มาให้ตรวจแล้วยังจะให้พาไปทานอาหารอีก”

“ไม่หรอกผมอยากหาคุณทานข้าวด้วยน่ะ คุณคงไม่ว่าอะไรนะถ้าจะไปกับผมตามลำพังแค่สองคน”

“ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ ถ้างั้นฉันขอไปรับยาก่อนนะคะ เสร็จแล้วจะนั่งรอที่หน้าห้องค่ะ”

“ครับ”

ฉัตรญาดาไปรับยาและกลับมานั่งรอภูวริษที่หน้าห้องตรวจไม่นานเขาก็เดินมาออกมา

“ไปรถผมนะครับ”

“ฉันว่าเอารถไปคนละคันดีกว่าค่ะ ขากลับคุณหมอจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาส่ง เราจะไปทานร้านไหนกันดีคะ”

“ร้านเดิมดีไหมล่ะคุณจำทางได้หรือเปล่า”

“จำได้ค่ะ ถ้างั้นเจอกันที่ร้านนะคะ”

ฉัตรญาดาและภูวริษนั่งทานอาหารไปด้วยคุยกันไปด้วยอย่างไม่เร่งรีบเท่าไหร่

“คุณภูกับบอสรู้จักกันมานานแล้วเหรอคะ” หญิงสาวเริ่มเปิดคำถาม

“ใช่ผมกับเขาเรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยมน่ะ”

“เหรอคะ ฉันนึกว่าบอสเรียนมัธยมที่ต่างประเทศเสียอีกนะคะ”

ภูวริษชะงักเล็กน้อยเพราะเผลอหลุดพูดประวัติของเพื่อนออกไป

“ก็เป็นช่วงมัธยมน่ะครับ คุณญาดาอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเพื่อนของผมใช่ไหม” ภูวริษรู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังสืบอะไรบางอย่างจากเขา และเขาก็จะตามน้ำไปก่อน

“ฉันสงสัยอะไรบางอย่างค่ะ”

“อะไรเหรอบอกผมได้ไหม”

“บอสหน้าตาเหมือนผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันเคยรู้จัก”

“แล้วเขาใช่คนเดียวกันหรือเปล่าล่ะ”

“ฉันไม่กล้าถามหรอกค่ะ เพราะชื่อกับนามสกุลของเขาไม่เหมือนกัน อีกทั้งการศึกษาก็ไม่น่าจะเป็นไปได้” ฉัตรญาดามีสีหน้าเครียดลงอย่างเห็นได้ชัด

“ถ้างั้นคุณยังสงสัยอะไรอีกล่ะ”

“ไม่รู้สิคะยิ่งได้อยู่ใกล้ได้ทำงานกับบอสมันก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกคิดถึงผู้ชายคนหนึ่งเอามากๆ”

“ผู้ชายคนนั้นคงเป็นคนสำคัญของคุณญาดาใช่ไหม เป็นคนรักเก่าใช่หรือเปล่าล่ะ”

“ไม่ใช่นะคะ คุณภูอย่าเพิ่งเข้าใจผิด”

“แล้วตอนนี้ผู้ชายคนนั้นอยู่ที่ไหนล่ะครับ”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ”

“ให้ผมช่วยตามไหมบอกชื่อกับนามสกุลมาสิ พ่อผมเป็นตำรวจอาจจะพอมีเส้นสายสืบเรื่องนี้อยู่บ้าง”

“จริงเหรอคะ ถ้าคุณพ่อคุณภูเป็นตำรวจก็น่าจะพอรู้ใช่ไหมว่าหลังจากนักโทษถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้วพวกเขาจะไปที่ไหนต่อ”

“แต่ละคนก็มีวิถีชีวิตต่างกันไปครับบางคนก็ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่บางคนก็กลับไปทำผิดอย่างเดิมว่าแต่คุณญาดาถามแบบนี้ทำไม”

“ก็ผู้ชายที่ฉันพูดถึงเขาเคยรับโทษอยู่ในเรือนจำค่ะ แต่ฉันติดต่อเขาไม่ได้เลย”

“ทำไมไม่ลองไปถามญาติของเขาดูล่ะครับ”

“เขาไม่มีญาติที่นี่เลยค่ะ ฉันมืดแปดด้านไปหมดไม่รู้จะไปตามเขาที่ไหน”

“ทำไมถึงอยากตามเขาล่ะ”

“ฉันรู้สึกผิดกับเขาค่ะอยากจะเจอเขาอีกครั้ง”

“เวลามันผ่านมานานหรือยังครับ”

“ผ่านมาเกือบสิบปีแล้วค่ะ”

“ผ่านมาตั้งสิบปีแล้วทำไมจู่ๆ คุณถึงอยากจะขอโทษเขาขึ้นมาล่ะ”

“เพราะฉันเห็นหน้าบอสค่ะมันเลยทำให้ฉันคิดถึงผู้ชายคนนั้นคิดถึงช่วงเวลาที่เราสองคนเคยสนุกกันในวัยมัธยมค่ะ”

“ดูท่าทางคุณก็สนิทกับผู้ชายคนนั้นดีนะแต่ทำไมบอกว่าไม่ใช่แฟนล่ะ”

“ก็เขาไม่ใช่แฟนของฉันนี่คะ เขาเป็นคนรักของพี่ฉัน”

“ถ้ายังงั้นคุณก็ลองไปถามพี่สาวคุณสิ”

“ถามไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะเพราะหลังจากที่เขารับโทษไปอยู่ในสถานพินิจพี่สาวฉันก็ไม่เคยสนใจเขาอีกเลย พี่สาวฉันเป็นผู้หญิงที่ใจร้ายมากๆ”

“ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะครับ เธออาจจะมีเหตุจำเป็นอะไรหรือเปล่า”

“ไม่เลยค่ะ ผู้ชายคนนั้นเขาเขียนจดหมายมาหาพี่สาวฉันแต่พี่สาวฉันไม่เคยคิดแม้แต่จะเปิดอ่าน”

“น่าสงสารเขานะครับ”

“ค่ะ ฉันสงสารเขามากๆ ก็เลยตอบจดหมายและให้กำลังใจเขาแต่ฉันก็รู้สึกผิดมากๆ”

“จะรู้สึกผิดทำไมล่ะครับคุณติดต่อเขา เขาก็คงรู้สึกดีที่อย่างน้อยก็ยังมีคนคิดถึงเขาอยู่”

“ใช่ค่ะแต่ตอนนั้นฉันเขียนจดหมายและไม่ได้บอกว่าเป็นตัวฉันที่เขียน คนที่อยู่ด้านในนั้นก็คงคิดว่าพี่สาวของฉันยังมีใจให้เขาอยู่และคงจะรอให้เขาออกมา แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะ ขอโทษนะคะที่ฉันพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย”

“ไม่หรอกคุณญาดาพูดกับผมได้ทุกเรื่องนะผมรู้เรื่องบางเรื่องถ้าเราเก็บไว้ในใจคนเดียวมันจะทำให้เราเครียด ระบายมาเถอะครับถือว่าผมเป็นเพื่อนคนหนึ่งก็แล้วกัน”

“แล้วคุณเขียนจดหมายหาเขานานไหมครับ”

“ฉันเขียนจดหมายติดต่อกับเขาตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่เขาอยู่ที่สถานพินิจแต่พอเขาย้ายเข้าไปในเรือนจำเขาก็ไม่เขียนจดหมายมาอีกเลยและฉันก็ไม่รู้ว่าเขาถูกย้ายไปที่ไหน ฉันเองก็เด็กเกินกว่าที่จะไปตามสืบแล้วตอนนั้นตัวเองก็ต้องตั้งใจเรียนมีหลายอย่างเกิดขึ้นในช่วงที่เขาเข้าไปอยู่ในเรือนจำ”

“น่าเห็นใจทั้งคุณและเขานะครับ”

“สำหรับตัวฉันไม่น่าเห็นใจอะไรหรอกค่ะเพราะฉันใช้ชีวิตได้ตามปกติ ฉันเป็นห่วงก็แต่เขาเท่านั้นไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างจะมีครอบครัวหรือยังจะมีชีวิตที่ดีขึ้นหรือเปล่า เขาจะได้เรียนต่ออย่างที่เขาตั้งใจไว้หรือเปล่า ฉันไม่มีโอกาสรู้เรื่องเขาเลย” หญิงสาวพูดแล้วยิ่งเศร้า

ภูรวริษเห็นท่าทางของเธอแล้วก็รู้สึกเห็นใจและอยากจะบอกให้เธอรู้เหลือเกินว่าผู้ชายที่เธอกำลังพูดถึงและห่วงใยนั้นตอนนี้เขามีชีวิตที่สุขสบายดีแต่ก็ไม่กล้าจะพูดออกไปเขาต้องเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้กับภคชนท์ฟังก่อนจากนั้นก็ค่อยให้ภคชนท์เป็นคนตัดสินใจเองว่าจะบอกเรื่องนี้กับฉัตรญาดาหรือเปล่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel