ตอนที่ 4 ฉันไปส่งไหม
-อากิโตะ-
ร่างคนคออ่อนทรุดลงในอ้อมแขนของเซยะหน้าตาเฉย คราวนี้ชายที่กำลังจะหมั้นยิ่งถึงเนื้อถึงตัวเธอเข้าไปใหญ่ เอวสีขาวเปลือยเปล่าระหว่างบิกินี่ถูกรวบไว้ในแขนกำยำของอีกฝ่ายเต็มๆ
“พันช์โรงแรมหกดาวของนายไม่ได้เรื่องสักนิด ทำลูกค้าวูบแล้วเห็นไหม” เซยะล้อเลียนผมในฐานะทายาทเจ้าของโรงแรม ไหงคนผิดถึงกลายเป็นโรงแรมหกดาวที่ชื่อเสียงไม่เคยด่างพร้อยไปได้? “รสเยี่ยมแต่แรงจนทำสาวสวยน็อคแบบนี้ไม่ไหวหรอก ฉันกดรีวิวหนึ่งดาวในทริปแอดไวเซอร์ให้ดีไหม”
“ลองกดสิแล้วฉันจะจัดงานศพให้นาย ผู้หญิงคนนั้นก็แค่คออ่อนผิดปกติ” บ้าจริง เครื่องดื่มโรงแรมหกดาวจะผิดได้อย่างไร...?
“ทำไมเรียก ‘ผู้หญิงคนนั้น’? เรียกมิกะสิ” ชินจิไม่พอใจ
“เธอไม่ใช่เพื่อนฉัน ไม่รู้จักด้วยซ้ำไป” ผมเอ่ยเย็นชา จะเรียกชื่อที่แปลว่าคืนเดือนมืดนั่นไปทำไม เมื่อบ่ายนี้อยู่เลยที่ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งด่าผมริมสระ เพราะงั้นผมไม่อยากเห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ
“อือ...” คนคออ่อนรู้สึกตัวแล้ว ดวงตากลมโตเปิดขึ้นอย่างประหลาดใจที่เห็นว่าเซยะประคองร่างเธออยู่ มือใหญ่แนบกับเอวและหน้าท้องเปลือยเปล่า “เซยะ...?”
“ฉันไปส่งไหม” คนประคองอาสา สีหน้าเป็นห่วงจนผมอดหงุดหงิดไม่ได้ แล้วนามิคู่หมั้นนายล่ะ?
“ไม่เป็นไร” เธอปฏิเสธ แต่พอเดินเองก็เซอีก “อ๊ะ...”
เป็นอีกครั้งที่เซยะรับร่างนั้นไว้ เหมือนหนังราคาถูกเรื่องหนึ่งเลย ให้ตาย “เธอเดินไม่ได้หรอก เห็นไหม...?”
ดวงตากลมโตลากมองผมที่ยืนอยู่ห่างๆ คล้ายเกรงอยู่เหมือนกันว่าจะถูกผมต่อว่าอีกหรือไม่ เพราะตอนนี้เธอรู้แล้วว่าไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ผิดไปหมด
“ฉันจะไปล้างตัว โดนน้ำเย็นๆ เดี๋ยวก็หาย” ร่างที่เหมือนตุ๊กตาโซเซบอกก่อนเดินผละไปที่ฝักบัวกลางแจ้งอีกด้านของสระ
เธอคงนึกว่าจะจบแค่นี้ คุโรซาวะ มิกะ นางแบบใหม่ที่ทุกคนในวงการพูดถึง ถ่ายแบบให้สินค้าสุดหรูแต่กลับทำตัวติดดินและเรียบง่าย
หากแต่ผมเดินตามไป เพราะเธอทำให้เซยะเพื่อนผมหายใจสะดุดเป็นครั้งที่สองแล้วไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่
-มิกะ-
...ซ่า...
สายน้ำเย็นทำให้ทำให้ฉันตื่นตัว อาการหน้ามืดหายไป
แต่แล้วกลับมึนอีก
...วูบ...
-อากิโตะ-
แขนของผมเคลื่อนรับร่างที่ทรุดเกือบล้มนั้นไว้ได้ทัน ท่ามกลางสายน้ำมือและแขนของผมสัมผัสร่างซึ่งคลุมด้วยผิวขาวละเอียดไร้ตำหนินั้น...
บ้าชะมัด ทั้งที่กะจะมาขู่และไล่ไปห่างๆ แต่กลับต้องกลายเป็นคนมาแตะต้องเนื้อตัวเธอเองเสียได้
มิกะเป็นผู้หญิงที่สวย ไม่ได้โดดเด่นกว่าคนอื่นในเมื่อวงการนี้มีนางแบบสวยมากมาย และในขณะที่หญิงสาวสวยแทบทุกคนมักเฉียดมาใกล้ผมเพื่อส่งยิ้ม...ดูแววตาก็รู้ว่าหวังทอดสะพาน เธอก็อาจจะเป็นหนึ่งในพวกนั้นใช่ไหม
ผู้หญิงก็เหมือนกันหมด ผมผ่านผู้หญิงมามาก ข้ามพ้นค่ำคืนไปกับพวกเธอหลายคน ก็แค่เรื่องการสัมผัส...ไม่เคยสักครั้งที่จะเกี่ยวกับหัวใจ ผมแค่สัมผัสเธอเพราะพวกเธอต้องการ ทำหลายๆ อย่างด้วยวิธีที่ผู้หญิงชอบร้องขอจากผู้ชาย
คืนนี้เธอก็แค่ผู้หญิงอีกคนที่มาวนเวียนใกล้ผม ท่าทางเหมือนหยิ่งและมีศักดิ์ศรี...แต่สุดท้ายแล้วอาจชอบให้ท่าเหมือนนางแบบคนอื่นๆ ก็ได้
ใบหน้าสวยหวานไร้สติ ลำคอ ผิวขาวที่ไร้ตำหนิทั้งเรือนร่าง นิ่มราวกับผ้าไหม
...ผมกำลังมองเธอ…
สวย...และนั่นก็ทำให้ผมหงุดหงิด โกรธด้วยซ้ำไป
ด้วยรูปร่างหน้าตาแบบนี้...ต่อให้ยืนเฉยๆ ก็เหอะอาจทำให้เซยะที่กำลังอินเลิฟกับนามิใจแตกก็ได้…!
-มิกะ-
ลืมตาอีกที...ฉันประหลาดใจที่ร่างตัวเองอยู่ในอ้อมแขนร้อนอีกครั้งท่ามกลางน้ำจากฝักบัวที่ยังสาดสาย...!
อ้อมแขนของใคร...? กำยำ...แผ่นหลังเปล่าของฉันแนบกับเรือนร่างด้านหน้าที่แข็งและร้อนจนทำให้สะท้านแผ่ว และแล้วใบหน้าคมคายที่ดวงตาอันพร่ามัวของฉันค่อยๆ ปรับโฟกัสเห็น...
ดวงตาสีเข้มราวกับค่ำคืนรอบข้างนั้นลอยอยู่ใกล้
“อากิโตะ...?”
เขามาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่...!?
“เลิกให้ท่าผู้ชายได้หรือยัง” ร่างสูงที่ยืนซ้อนหลังเอ่ยหยาบคาย
“ฉันเนี่ยนะ...!? เปล่านี่...!”
“ก็ที่ทำอยู่นี่ไง”
“ทำ...?” สายตาของฉันลากตามดวงตาสิออบซิเดียนต่ำลงไป เรือนร่างเปลือยเปล่าระหว่างบิกินี่ของฉันอยู่ในอ้อมแขนแกร่งที่รัดแน่น เขาเป็นคนแตะตัวฉันเอง ฉันไม่ได้ขอให้เขารับฉันตอนวูบไม่ใช่หรือไง ปล่อยให้ล้มหัวฟาดไปเลยสิ ไม่เห็นจะแคร์...!
...การหน้ามืดทรุดจนทำให้ผู้ชายต้องเข้ามาช่วยพยุงเป็นการให้ท่าใช่ไหม...?
“นาย...!” ฉันสลัดร่างหลุดจากอ้อมแขนแข็งราวกับกรงเหล็กอย่างรวดเร็ว
“เข้าใจแล้วสินะ” ดวงตาเยือกเย็นหรี่ลง “เธอไม่ควรให้ผู้ชายเข้าถึงตัวขนาดนั้นได้ง่ายๆ โดยเฉพาะเซยะ ไม่เช่นนั้นฉันจะไม่ให้อภัย”
“แต่ฉันไม่ได้ให้ท่าเพื่อนนายนะ!”
“มันก็ไม่ต่างกันไม่ใช่หรือไง”
แล้วเป็นอีกครั้งที่ร่างสูงคว้าข้อมือของฉัน ดวงตาหยาบคายไล่มองเรือนร่างของฉันในสายน้ำ ก่อนดึงแรงจนร่างฉันลอยเข้าปะทะกับอีกร่าง...แน่นจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบกัน ราวกับจะตอกย้ำคำข่มขู่นั้นไว้ในหัวใจ...!
“อย่าเข้าใกล้เซยะอีก นี่เป็นการเตือนครั้งสุดท้าย”
ฉันได้แต่กำมือแน่นเมื่อร่างสูงคลายมือและเดินจากไป นึกว่าฉันอยากอยู่ให้สบประมาทเสียๆ หายๆ แบบนี้นักหรือ...!?
ไปก็ได้!
ทันที่ที่กลับถึงขอบสระฉันร้องเรียกฮานาเอะที่แข่งดำน้ำเล่นกับชินจิอยู่ “ฮานาเอะ กลับกันเถอะ ฉันปวดหัวไปหมด อยากไปนอนแล้ว"
“แต่ฉันยังอยู่สนุกอยู่เลยนะ ยังไม่อยากกลับเลย”
“ให้ฉันไปส่งไหม” เมื่อฮานาเอะดื้อเซยะถึงได้อาสาแทน
“ไม่เป็นไร ฉันกลับเอง” ฉันปฏิเสธทันที ทว่าเพียงก้าวเดียวฉันกลับเซอีก
หมับ...! เป็นอีกครั้งที่มือร้อนของเซยะเคลื่อนเข้ารวบร่างของฉันไว้
ฉันไม่ได้ให้ท่าสักนิด ใครก็เป็นพยานได้ทั้งนั้น...! หากแต่ดวงตาสีออบซิเดียนซึ่งจ้องจับผิดอยู่ห่างๆ พลันโกรธเคือง คนแบบนั้นไม่มีวันเข้าใจ
เพราะงั้นร่างสูงนั้นจึงได้เดินเข้ามา ก่อนออกคำสั่งเพื่อน “ปล่อยมือสิ เซยะ”
“แต่มิกะเดินไม่ไหว เพราะน้ำผลไม้โรงแรมหกดาวสุดไม่เอาไหนของนายไง”
“จับเนื้อต้องตัวผู้หญิงอื่นแบบนี้นามิเห็นจะรู้สึกอย่างไร”
“ก็รู้สึกเป็นห่วงไง” เซยะตอบจริงจัง “มิกะน่าสงสารจะแย่แบบนี้นายจะยังยืนขวางอีก หรือนายไม่ไว้ใจฉัน...?”
“งั้นบอกสิว่าฉันเชื่อใจนายได้ไหม”
“มีแต่นายที่คิดเรื่องไร้สาระแบบนั้นในเวลาที่คนป่วยหนักแบบนี้ พูดไปคนอย่างนายก็คงไม่เข้าใจ”
ฉันเห็นด้วยกับเซยะ อีกอย่างฉันมึนและปวดขมับจะแย่แล้ว จะต้องฟังสองคนนี้เถียงกันอีกนานไหม...?
“ฉันจะไปส่งด้วย” อากิโตะเอ่ยขึ้น ฉันจะค้านหัวชนฝาหากแต่สติกลับดับวูบไปเสียแล้ว เกลียดตัวเองจริงๆ ที่คออ่อนเกินไป
อากิโตะต้องหาว่าฉันให้ท่าอีกแน่
และฉันเกลียดเขาจริงๆ ให้ตาย...!
