บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 มือชงอันดับหนึ่ง (*^▾^*)

พี่ก้องเปิดประตูห้องผมก้าวเดินเข้าไปภายในห้อง แต่ยังไม่เข้าไปในห้องผมกลับสะดุดพรมหน้าห้อง ทำให้ผมเสียหลักล้มลง น่าอายชะมัด ทำไมพี่ก้องไม่จับผม ผมหันไปมองพี่ก้องที่ยืนกั้นขำ ถ้าเป็นเพื่อนคงโดนผมด่าแล้ว พี่ก้องเขายังมีใจยื่นมือให้ผมประคองตัวเองลุกขึ้นยืน ผมจึงจับมือเขา แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

“ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยบอกพี่ก้อง แต่ทว่ามือหนาที่ประคองผมกลับเป็นมือหนาของอีกคน ซึ่งไม่ใช่มือของพี่ก้อง ผมจึงมองใบหน้าของผู้มีพระคุณ เขาก็คือ

“เชี่ย...” ผมร้องอุทานออกมาเบาๆ เมื่อเห็นใบหน้าคนที่ชนรถผม และด่ามันอย่างหนักก่อนถึงบริษัท มันกลับเป็นคนประคองผมลุกขึ้นยืน

หรือว่ามันจะเป็น...

“กูเสือ แล้วมึงชื่ออะไร” มันบอกผมเสียงดังฟังชัดก้องเข้าไปในหัวของผม เจ้านาย มันคือเจ้านายของผม ผมอยากออกไปจากตรงนี้

“แนะนำตัวสิ” มันถามผม

“ผม จักรพรรณ พชรภมรมงคลครับ” ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงกัดฟัน

“เข้ามาสิ ไอ้ก้องเอาใบสั่งซื้อของบริษัทเจพีอินเตอร์มาให้กูด้วย” มันเอ่ยบอกผมด้วยน้ำเสียงเรียบ แล้วหันหน้าก้าวเดินเข้าไปในห้อง

“ครับท่าน” พี่ก้องบอกมันด้วยน้ำเสียงจริงจัง แล้วหันมาพยักหน้าเบาๆ ให้ผม ผมอยากเดินออกจากตรงนี้ให้พ้นๆ ไป แต่ก็ทำไม่ได้ --

ใครมาเห็นหน้าผมตอนนี้ คงคิดว่าผมกำลังอมขี้อยู่แน่นอน

“จะยืนถึงเช้าของอีกวันหรือไง” ไอ้ตัวเชี่ยมันถามผม ขณะที่มันนั่งหลังโต๊ะทำงาน ในมือของมันมีเอกสารอยู่ ผมจึงก้าวเดินไปในห้องกว้าง ผมทอดสายตาเห็นว่าห้องนี้เป็นกระจกทั้งหมด ซึ่งเป็นกระจกที่ภายในเห็นภายนอก แต่ภายนอกไม่เห็นด้านใน มันยังเห็นทั้งชั้นรวมไปถึงแผนกที่ผมต้องทำงาน และยังวิวรอบกรุงเทพจากด้านใน

“นั่งลง” มันบอกผมอีกครั้ง ผมจึงนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะตรงข้ามกับมัน ผมเห็นว่าบนโต๊ะของมันมีแฟ้มรายงานประวัติของผมรวมไปถึงเรซูเม่หนึ่งชุดที่ผมทำเอาไว้

“แนะนำตัวเองใหม่สิ” มันบอกผมด้วยน้ำเสียงเรียบ ดูหยิ่งๆ ความจริงแล้วมันก็ถามผมไปแล้วเรซูเม่ก็มี มึงจะถามหาหอกอะไรไม่ทราบ

“ผมจักรพรรณ พชรภมรมงคล” ผมเอ่ยบอก

“ชื่อเล่น”

“น้ำอุ่น”

“น้ำอุ่น ไม่ใช่น้ำร้อนสินะ” มันบอกด้วยน้ำเสียงกวนตีน แล้วเลิกคิ้วขึ้นมองใบหน้าผม ถ้าเป็นเพื่อนกูถีบยอดหน้าไปแล้ว ใจเย็นไว้น้ำอุ่นนั้นเจ้านายมึงนะ เย็นไว้ ใจร่มๆ 

“น้ำอุ่นครับ” ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“จบคณะนิเทศ คะแนนสามจุดเก้าแปด คะแนนสูงที่สุดของคณะ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เคยทำงานพาร์สไทม์ที่ซิกตี้นายน์สามปี พ่อและแม่เสียชีวิตแล้ว มีน้องชายคนเดียว เสียใจด้วยนะเรื่องพ่อแม่” มันร่ายยาวแล้วมาจบด้วยเสียใจเรื่องพ่อแม่ผม

“ครับ” ผมเอ่ยบอก

“อยากได้เงินเดือนเท่าไหร่” มันถามผมด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายหลังชิดพนักเก้าอี้ มองใบหน้าผมและเอียงคอเล็กน้อยมองผมไม่วางสายตา เหมือนชายหนุ่มมองหญิงสาว ทำให้ผมรู้สึกขนลุกสู้ไปทั้งตัว

“ขอไม่ต่ำกว่าสองหมื่นได้ไหมครับ” ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“สามหมื่น” มันเอ่ยบอกผมด้วยน้ำเสียงเรียบ สามหมื่นเลยเหรอวะ เกินคาดวะ ไม่คิดว่าจะได้มากขนาดนี้มาก่อน คิดว่าอาจจะได้หมื่นแปดหรือสองหมื่นเท่านั้น แต่นี่ให้ถึงสามหมื่น หรือว่าเรื่องที่ผมด่ามันที่มันชนรถผมนะ ผมควรจะขอโทษดีไหม ผมเองก็ไม่อยากมีปัญหาภายหลัง

“คือว่า...”

“ชงกาแฟมาให้หน่อย” มันสั่งผมให้ไปชงกาแฟทั้งที่ผมยังพูดไม่จบ

“คือ...”

“กาแฟสาม น้ำผึ้งหนึ่ง น้ำครึ่งแก้ว”

มึงฟังคนเขาพูดก่อนได้ไหม สัส...

ผมก้าวเดินออกมาจากห้องของไอ้เสือ ไอ้เสือสินะ เห็นพี่ๆ เขาเรียกมันแบบนั้น พูดถึงเสือมันไม่น่าจะเสือ น่าจะเป็นหมาขี้เรื้อนมากกว่า ดูจากทรงไม่ไม่ค่อยจะฟังใคร และดูเอาแต่ใจ แน่สิมันเป็นเจ้านายนิ

“เลขาคนใหม่ใช่ไหมคะ” เสียงของหญิงวัยกลางคนเอ่ยถามผม ผมจึงหันไปหาเธอด้วยรอยยิ้ม เห็นว่าเธอสวมใส่ชุดยูนิฟอร์มสีเขียวเข้มแถบปกเสื้อและแถบแขนเสื้อเป็นสีขาวของแม่บ้าน

“สวัสดีครับ ผมน้ำอุ่นครับฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” ผมเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม และยกมือไหว้ตามมารยาท เธอเองจึงยกมือไหว้กลับ

“ป้าชื่อนวลนะจ๊ะ คุณน้ำอุ่น คุณจะมาชงกาแฟให้คุณเสือหรือคะ” เธอเอ่ยแนะนำตัวและถามผมเรื่องกาแฟ

“ใช่ครับ เรียกผมว่าน้ำอุ่นเถอะครับ” ผมเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม แล้วเธอก็หยิบแก้วกาแฟพร้อมกับจานรองแก้วสีขาวแถบสีทองเขียวเข้มเหมือนเสื้อของป้านวล

“ได้จ้ะ น้ำอุ่น นี่แก้วกาแฟของคุณเสือ คุณเสือและคุณสิงห์จะเป็นแก้วแบบนี้ ใต้แก้วและจานรองแก้วจะมีชื่อเขียนเอาไว้เพื่อไม่ให้สับสน” เธอเอ่ยบอก แล้วยกจานรองแก้ว และแก้วกาแฟขึ้นเพื่อหงายให้ผมดู

“ครับ ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยบอก

“กาแฟสาม น้ำผึ้งหนึ่ง น้ำครึ่งแก้วนะ” เธอเอ่ยบอกผมอีกครั้ง

“คุณเสือ แกบอกผมแล้วครับ” ผมเอ่ยบอกแล้วผมจึงเปิดฝาโหลกาแฟออก ตักผงกาแฟสามช้อน คิดไปคิดมาห้าช้อนดีไหมวะ เอาห้าช้อนให้แม่งตาค้างไปเลย อย่าดีกว่าเดี๋ยวแม่งไล่กูออก ทำงานวันแรกอย่าพึ่งมีปัญหากับแม่งเลยดีกว่า ผมจึงใส่ผงกาแฟไปสามช้อน แล้วมองไปยังโหลใส่น้ำผึ้งที่อยู่ไม่ไกล เปิดฝาออกใช้ช้อนคนกาแฟตักน้ำผึ้ง ใส่น้ำผึ้งไปในแก้วกาแฟ และคนให้เข้ากัน ป้าแกจึงเอาขนมเค้กชิ้นเล็กซึ่งเป็นเค้กดาร์กช็อกโกแลต โรยผงโกโก้

“คุณเสือไม่กินหวาน ดูท่าว่าเช้านี้แกคงยังไม่ได้กินข้าวเช้ามาตามเคย ป้าฝากเอาเค้กดาร์กช็อกไปให้แกด้วยนะ” ป้าเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม แล้วเดินออกจากห้องกาแฟไปยังห้องน้ำ

“ได้ครับ”

เดี๋ยวนะ! ไม่กินหวานเหรอ?

เดี๋ยวกูจัดให้...

ผมเคาะประตูสามครั้ง กลับไม่มีเสียงตอบกลับ ผมจึงก้าวเดินเข้าไปในห้องของไอ้เสือ ผมเห็นว่าไอ้เสือมันอยู่ในห้อง ผมจึงก้าวเดินไปที่โต๊ะทำงาน ผมได้ยินเสียงประตูเปิด ซึ่งเสียงนั้นมาจากห้องน้ำ ผมเห็นว่าไอ้เสือมันก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำ ขณะที่กำลังสวมใส่เข็มขัด

“หอมจัง” มันบอก แล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้ หยิบแก้วกาแฟร้อนรุ่นขึ้นมาดมเพียงชั่วครู่ ยกขึ้นดื่มเพียงแค่คำเดียว มันก็พ้นกาแฟออกมาทันที ทำไมรู้สึกสะใจฉิบหาย

“กูบอกว่าน้ำตาลสามช้อน นี่มึงใส่น้ำตาลกี่ช้อนห๊ะ” มันถามผมด้วยน้ำเสียงโกรธจัด แล้วโยนแก้วกาแฟทิ้งทันที

“ก็คุณเสือบอกผมว่าน้ำผึ้งหนึ่งช้อน ผมก็ใส่แค่หนึ่งช้อนจริงๆ แต่เป็นช้อนโต๊ะ” ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงยียวนกวนส้นตีน

“มึงกวนตีนกูใช่ไหม” มันถามผมด้วยน้ำเสียงเดือดดาล

“ผมผิดตรงไหนครับคุณเสือ” ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ไปไกลๆ ตีนกูเลย” มันบอกผมด้วยน้ำเสียงดุดัน

“คร๊าบบบบบ คุณเสือ” ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงกวนตีน แล้วหยิบแก้วกาแฟเดินออกไปทันที

คำขอโทษที่มึงชนรถกูมึงก็ไม่ได้พูดออกจากปาก ไอ้เวร

.................................

เจอกันแล้วเป็นไงบ้างทุกคน ความบันเทิงไม่ได้มีเพียงเท่านี้แน่นอน

เม้นมาบ้างนะคะเม้นท์เงียบมากเลยเค้าเหงานะ

เรื่องนี้ไม่เน้นเนื้อหา เน้นเย็ดดุๆ เน้นกระแทกจุกๆ นะ สาววาย

อย่าลืมเข้ามาคอมเม้นท์และกด ❤️ น้อยๆ

เพื่อเป็นกำลัง ❤️ ให้ด้วยนะฮะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel