บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 นิทานวงเหล้า ʕっ◕ᴥ◕ʔっ

หลังจากคุยงานจนได้เรื่อง เรื่องใหญ่ชะด้วย เพราะผมต้องมาทำรายงานด้วยเรื่องทำโซนห้องสัมมานาและผับใต้ดินที่ทำเสร็จไปแล้วเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ไอ้เสือให้พี่ใหม่โยนงานนี้มาให้ผม อีห่ารากทำไมไม่ให้พรี่ใหม่ทำเองให้เสร็จแล้วก็จะรู้เรื่องนี้ด้วยไหม อิเวง

ผมกลับมาออฟฟิศพร้อมกับไอ้เสือ ส่วนไอ้เสือเข้าไปในห้องทำงาน วันนี้มันยังไม่ได้อ่านรายงานการประชุมย่อยของการตลาด พี่เจมส์จึงส่งรายงานทั้งหมดให้มัน แล้วให้หัวหน้าฝ่ายเข้าพบ

ส่วนผมเดินเข้ามายังแผนกเลขานุการ พวกพี่ๆ เตรียมเก็บของกับบ้าน เพราะตอนนี้สี่โมงครึ่งแล้ว วันนี้เรามีนัดกันไปบาร์ซิกตี้นายเพื่อฉลองการทำงานกับผม เห็นบอกว่ามันเป็นประเพณีสืบทอดกันมา เหมือนกับรับน้องนั้นแหล่ะ

“ไอ้อุ่น ไปกับพวกกูไหมจะได้ไม่ต้องเปลืองน้ำมัน ไอ้เจมส์ ไอ้ใหม่ไปกับกู เดี๋ยวไปหารค่าน้ำมันกัน” พี่ก้องเอ่ยบอกพวกมัน

“มึงนี่ยังคงงกตามเคย เอ่อกูไปก็ได้ เดี๋ยวเงินออกแล้วจะคืนให้” พี่ใหม่บอกด้วยน้ำเสียงขบขัน

“กูไปด้วย กูไม่ได้เอารถมา” พี่เจมส์บอกพวกมัน

“ส่วนกู กูขับรถไปเอง เดี๋ยวไปเจอที่หน้าผับแล้วกัน”

ชีวิตของหนุ่มออฟฟิศแล้วยังเป็นหนุ่มโสดมันก็ดีแบบนี้ อยากไปไหนก็อยากไป เสียอย่างเดียวไอ้มีนไม่ได้ไปด้วย มันไปไม่ได้นี่หว่า มันเรียนมออยู่เลย และอายุยังไม่ถึงอีกด้วย ไอ้มีนโตว่าจะพาพ่อราตรีสักหน่อย

มันใช่เหรอวะ พาน้องเที่ยวผับ ไอ้อุ่นมึงเป็นพี่แบบใด...

ผมจอดรถแล้วเดินเข้าไปในซิกตี้นายคลับที่คุ้นเคย เพราะตอนที่ผมอยู่มหาวิทยาลัยผมก็มาทำงานอยู่ที่นี่สี่ปีเต็ม วันนี้ได้กลับมาอีกครั้ง เหมือนมารื้อฟื้นที่เดิมๆ ที่เคยจากมา ผมจอดรถเข้าซอง ผมบิดดับเครื่อง และก้าวลงจากรถ ยังกลุ่มพี่ๆ ที่ออฟฟิศที่ยืนรอผมอยู่ ผมสังเกตว่าสาวแต่ละคนมองผมเหลียวหลัง แต่ละสิคนมันหล่อ มีใครหลงตัวเองแบบผมบ้างไหมนะ ฮาฮ่าฮ่า

“มาถึงนานยังครับ” ผมเอ่ยถามพี่ๆ ขณะที่ผมเดินไปถึง

“ไม่เกินสามนาที” พี่ก้องเอ่ยบอก

“ไอ้อุ่น สาวมองมึงเหลียวหลังเลยนะ” พี่เจมส์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้นิดๆ

“พื้นที่ตรงนี้อดีตเคยเป็นของผมมาก่อน” ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ ทำให้พี่ๆ รู้สึกหมั่นไส้

“เคยมาเยี่ยวรอบที่นี่เหรอ” พี่ใหม่ถามด้วยน้ำเสียงกวนตีน

“เคยทำงานที่นี่ต่างหาก” ผมเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม เพราะผมหันไปมองสาวๆ ที่หันมามองผม

“เข้าไปข้างในเถอะ หมั่นไส้คนเชคเรทติ้ง” พี่ก้องมองด้วยความหมั่นไส้ แล้วกอดคอผมก้าวเดินเข้าไปพร้อมกัน ผมมองผู้จัดการร้านที่ยืนอยู่หน้าร้าน เขาชื่อพี่นัย ผมเดินไปหาเขาเอาบัตรประชาชนให้ดู

“แหม่แก่ปูนนี้แล้ว ไม่ต้องโชว์บัตรก็ได้มั้ง” พี่นัยบอกผมด้วยรอยยิ้ม

“ใหญ่ยาวขนาดนี้ไม่แก่ง่ายๆ หรอก” ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงกวนตีน

“พาเพื่อนเข้าไปเถอะ โต๊ะสิบห้าหน้าเวทีโชว์จำได้ใช่ไหม จะได้ไม่ต้องพาไป” พี่นัยบอก

“จำได้ ไปกัน” ผมเอ่ยบอกพี่ๆ แล้วก้าวเดินเข้าไปในผับ มองแสงสีเสียงกระหึ่มจัดเต็มของผับนี้ไม่เป็นสองรองผู้ใด อีกทั้งยังมีดีเจต่างประเทศมาบ่อยลูกค้าเลยเยอะไปด้วย ถึงราคาคอกเทลและมิกซ์เซอร์จะแพงหูฉีกก็เถอะ แต่คนมีตังค์ก็ยอมจ่ายเพื่อความสุข ที่สำคัญที่นี่มีกาสิโนใต้ดิน และมีทางออกทั้งหมดแปดทาง ทุกทางจะมีบอดี้การ์ดของผับยืนเฝ้าประตูละสองคนและยังแต่งตัวเป็นชาวบ้าน เพื่อให้ดูต้นทาง

“มึงๆ กูมีเรื่องผีมาเล่าให้พวกมึงฟัง” เสียงของพี่ใหม่เอ่ยบอก ผมที่กำลังมองสาวๆ รูดเสาอยู่หันกลับมามองพี่ใหม่

“ผีเหี้ยอะไร ผีเหล้าเหรอ” พี่เจมส์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้หลังจากที่พวกเราดื่มไปประมาณสามสี่แก้วแล้ว

“พวกมึงไม่เคยฟังหรอกเรื่องนี้” พี่ใหญ่เอ่ยบอก

“มาผับจะมาเล่าเรื่องผีอะไรวะ” พี่ก้องเอ่ยบอก

“เล่ามา ถ้าอยากเล่า” ผมเอ่ยบอก

“กาลละครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพระราชวังใหญ่โตเนื้อที่หลายร้อย หลายพันเอเคอ แต่ว่าปราสาทหลังนี้ใช่ว่าจะเห็นกันง่ายๆ แต่ว่าพ่อค้าคนหนึ่งนะ เข้าไปในปราสาทหลังนั้น เขาเข้าไปเจอกับโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ และยังมีอาหารมากมาย เขาก็เลยดื่มกินจนหน่ำใจแล้วค่อยกลับออกไป ก่อนออกไปนั้นเขาเห็นดอกกุหลาบที่โชว์หลากลางห้องเว้ย เขาจึงเอื้อมมือเพื่อไปเอาดอกกุหลาบดอกนั้น เขากลับเห็นชายร่างสูงใหญ่ใบหน้าหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนปีศาจ มันทำให้เขารู้สึกตกใจและหวาดกลัว ปีศาจตัวนี้ต้องการให้เขาเป็นทาสรับใช้ในปราสาท แต่พ่อค้าขอกลับไปลาลูกเพื่อมาอยู่กับเขา ปีศาจตัวนั้นก็ตกลงให้เขาไป เมื่อชายชรากลับมาบ้านก็เล่าเรื่องนี้ให้ลูกสาวทั้งสามฟัง ลูกสาวหนึ่งในสามมีหน้าตางดงามขอไปแทนพ่อ เพื่อไปอยู่กับปีศาจอสูรตัวนั้น...” พี่ใหญ่ยังไม่ทันพูดจบ พี่ก้องพูดขึ้นมา

“นี่มันโครงเรื่อง ‘บิวทีแอนด์เดอะบีสต์’ นี่หว่า” พี่ก้องเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“มึงรู้ได้ไงวะ กุยังไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยนะ” พี่ใหญ่เอ่ยบอกด้วยความสงสัยจริงจังหนักมาก ผมเองก็รู้แต่ไม่อยากท้วงปล่อยให้พี่แกเล่าให้จบนั่นแหละ จะได้เช็คสติด้วย

“เมื่อคืนเมียกูก็พึ่งอ่านให้ลูกกูฟัง” พี่ก้องเอ่ยบอกแล้วกระดกเหล้าอีกแก้ว

“ยายกูบอกว่า เรื่องนี้ยายเล่าให้กูฟังเป็นคนแรกเลยนะ” พี่ใหม่เอ่ยบอก

“คนเขาฟังกันจะทั่วโลกแล้วมึง” ผมเอ่ยบอก

“เอ้าเหรอ” พี่ใหม่บอกดูสีหน้างงดุแล้วตลกอะ จนก้องระเบิดหัวเราะออกมา

“พี่อุ่นๆ มีคนให้เอาฝากเหล้าแก้วนี้มาให้พี่อะ” เสียงของไอ้มิ้งผมจำเสียงนี้ได้ดี เพราะเราเคยทำงานร่วมกันก่อนออกจากร้านหนึ่งเดือน ผมจึงหันไปหาเขาที่ยื่นแก้วเหล้าให้ผม

“โต๊ะไหนฝากมา” ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย ผมจึงกวาดตามองไปรอบร้าน ผมเห็นว่าผู้หญิงโต๊ะสี่มองใบหน้าผมด้วยสายตาเร่าร้อนและยั่วยวน ผมจึงเผยรอยยิ้มเพื่อเป็นการขอบคุณ

“เยสเข้ มีผู้หญิงส่งเหล้าให้กินด้วย มึงสอนกูบ้างดิวะ” พี่เจมส์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“มึงมีเมียอยู่ทั้งคน จะให้ไอ้อุ่นสอนทำไมวะ” พี่ก้องเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงขบขัน ส่วนพี่ใหญ่นั้นนอนฟุบคาโต๊ะไปแล้ว ผมยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดแก้วไปรวดเดียว

“ตอนนี้มึงอยู่กับใครวะ ไอ้อุ่นหรือมึงอยู่กับน้องแค่สองคน” พี่ก้องเอ่ยถามผม

“อยู่คนเดียว ไอ้มีนมันนอนอยู่โรงเรียนประจำ ส่วนกูนั้นก็เลยอยู่คนเดียว” ผมเอ่ยบอก

“ลำบากเลยอะสิ” พี่ก้องเอ่ยบอก ผมกลับรู้สึกเวียนหัวเหมือนกับโลกหมุนๆ เหมือนปวดหัวเป็นไข้ หรือว่าผมจะเมาแล้วจริงๆ แต่ผมไม่เคยเมานี่หน่า ทำไมมันรู้สึกไม่สบายตัวร้อนขึ้นมาแบบนี้ละ หรือว่าผมจะเป็นไข้จริงๆ นะ

“เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมดูหน้าซีดๆ ต่างจากเมื่อกี้” พี่เจมส์ถามผมด้วยความสงสัย

“เดี๋ยวผมออกไปสูบบุหรี่แปบหนึ่ง เดี๋ยวกลับมา” ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที

“ให้กูไปด้วยดีไหม” พี่ก้องถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นอะไร ไปเองได้” ผมเอ่ยบอกแล้วก้าวเดินออกไปจากตรงนี้ทันที

ผมก้าวเดินออกมาแล้ว ทำไมยังรู้สึกปวดหัวตุบๆ แล้วยังร้อนรุ่มไปทั้งตัว มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ทั้งที่ดื่มยังไม่ถึงสามแก้วด้วยซ้ำ มันไม่ได้ร้อนแบบปกติด้วยเหมือนมันวูบวาบไปทั้งตัว ล้างหน้าสักหน่อยเดี๋ยวก็คงหาย

ผมเดินไปยังหน้าห้องน้ำ ผมรู้สึกทรงตัวไม่อยู่เหมือนโลกหมุนเร็วขึ้น ขาของผมทรุดลงทั้งสองข้าง ผมรู้สึกว่าควยของผมแข็งอย่างไม่ทราบสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร ผมจึงพยุงตัวลุกขึ้นยืนเพื่อเข้าไปในห้องน้ำ ตอนนี้ผมอยากเอาน้ำออกสุดๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ผมกลับเห็นผู้ชายสองคนก้าวเดินตรงมาหาผมสีหน้าดุดัน ผมจึงถอยหนีตามสัญชาตญาณในการป้องกันตัว แต่ทว่าผมกลับทรุดลงอีกครั้ง หนึ่งในสองเข้ามาล็อคตัวผม

“มึงเป็นใคร ปล่อยกูนะ” ผมดิ้นรนสุดแรงเพื่อให้หลุดจากพันธนาการ แต่ผมกลับไร้เรียวแรงอย่างที่ไม่เคยเป็น

“มึงต้องไปกับกู นายกูรอมึงอยู่” มันเอ่ยบอกผมด้วยน้ำเสียงดุดัน

“กูสงสัย นายจะเอามันไปทำไมวะ” เสียงของอีกคนเอ่ยถาม

“ก็เหมือนคนก่อนไงเล่า” มันบอกเพื่อนของมัน

“ปล่อย...ปล่อยกู...” ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ม่านตาของผมค่อยๆ ปิดลงด้วยความง่วง

................................

เรื่องนี้ไม่เน้นเนื้อหา เน้นเย็ดดุๆ เน้นกระแทกจุกๆ นะ สาววาย

อย่าลืมเข้ามาคอมเม้นท์และกด ❤️ น้อยๆ

เพื่อเป็นกำลัง ❤️ ให้ด้วยนะฮะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel