ตอนที่ 4: สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก
เช้าวันใหม่กับเพจเจอร์เครื่องเดิม
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในเช้าวันเสาร์
แสงแดดอุ่น ๆ ส่องลอดผ้าม่านสีครีมเข้ามาในห้องของนนท์
เขาลืมตาขึ้นช้า ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเพจเจอร์ที่วางอยู่บนหัวเตียง
และทันทีที่เห็นข้อความแจ้งเตือน หัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้น
“ตื่นรึยังคะ? วันนี้อย่าลืมสัญญานะ :) – อัญ”
เพียงแค่ไม่กี่คำ แต่กลับทำให้ใบหน้าของนนท์มีรอยยิ้มทันที
เขาจำได้ว่าก่อนจะกลับบ้านเมื่อคืน อัญชวนเขาไปเดินตลาดนัดที่เปิดเฉพาะวันเสาร์
เป็นตลาดที่เต็มไปด้วยของกิน ของโบราณ และดอกไม้สวย ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่อัญชื่นชอบมากที่สุด
นนท์ตอบกลับข้อความของอัญ...
“ตื่นแล้วครับ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันหน้ามหาวิทยาลัย”
หลังจากนั้น เขารีบลุกจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัว
แต่ก่อนจะออกจากบ้าน เขาแวะหยิบ ดอกกุหลาบสีขาว ที่ซื้อเก็บไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
ดอกกุหลาบที่เขาตั้งใจจะมอบให้อัญในวันนี้โดยไม่บอกล่วงหน้า
บรรยากาศตลาดนัดวันเสาร์
ตลาดนัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ บรรยากาศครึกครื้นไปด้วยเสียงผู้คน เสียงต่อรองราคาสินค้า และกลิ่นอาหารหอมฟุ้ง
ร้านรวงเรียงรายไปด้วยเสื้อผ้ามือสอง เครื่องประดับแฮนด์เมด และดอกไม้สดหลายชนิด
อัญมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย เธอสวมชุดเดรสสีฟ้าอ่อนที่ทำให้ดูสดใสราวกับดอกไม้แรกแย้ม
เมื่อเห็นนนท์เดินเข้ามา เธอยกมือโบกพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“นนท์! ทางนี้”
นนท์เดินเข้าไปหาเธอด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
ทันทีที่มาถึง เขาส่งดอกกุหลาบสีขาวให้โดยไม่พูดอะไร
อัญเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ
“นี่…ให้อัญเหรอ”
นนท์พยักหน้าเล็กน้อย “อืม เห็นอัญชอบดอกไม้ เลยคิดว่าอัญคงชอบมัน”
อัญยิ้มทั้งน้ำตา “ชอบสิ…ขอบคุณนะนนท์”
เธอรับดอกไม้มากอดแน่น ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจ
นั่นเป็นครั้งแรกที่นนท์ให้ดอกไม้กับเธอ
และมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบสดใสขึ้นทันตา
สิ่งเล็ก ๆ ระหว่างทาง
ทั้งคู่เดินชมตลาดด้วยกันอย่างเพลิดเพลิน
อัญแวะดูร้านดอกไม้ทุกครั้งที่ผ่าน และมักจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับความหมายของดอกไม้ให้นนท์ฟัง
“รู้ไหมนนท์ ดอกกุหลาบสีขาวหมายถึงความบริสุทธิ์และรักที่ซื่อสัตย์นะ”
อัญพูดพร้อมถือดอกไม้ขึ้นมาสูดดมกลิ่นหอม
นนท์มองเธอแล้วหัวเราะเบา ๆ “งั้นก็ดีสิ ผมเลือกถูกแล้ว”
เธอหัวเราะตาม ก่อนจะหันไปมองร้านขายตุ๊กตาไม้เล็ก ๆ
“ว้าว…ดูสิ น่ารักจังเลย”
นนท์ยื่นมือไปหยิบตุ๊กตารูปคู่ตายายที่นั่งจับมือกัน
“อัญชอบคู่นี้ไหม”
อัญพยักหน้า “ชอบสิ มันดูอบอุ่นดี เหมือนคู่รักที่อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าเลย”
นนท์ยื่นเงินจ่ายให้แม่ค้าทันที
“งั้นถือว่าเป็นของที่ระลึกของวันนี้ก็แล้วกัน”
อัญมองเขาด้วยสายตาประทับใจ
“เขาเป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียดจริง ๆ”
ช่วงเวลาพักเหนื่อย
หลังจากเดินกันมานาน ทั้งคู่แวะนั่งพักที่ม้านั่งริมน้ำ
ลมเย็นพัดผ่าน ทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย
อัญนั่งกอดดอกกุหลาบในมือ เธอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดเสียงแผ่ว
“นนท์…ถ้าสักวันหนึ่งอัญไม่อยู่ตรงนี้แล้ว นนท์จะทำยังไง”
นนท์หันมามองด้วยความตกใจ
“พูดอะไรแบบนั้นล่ะอัญ อยู่ ๆ ทำไมถึงถาม”
อัญฝืนยิ้ม “ก็แค่…เผื่อไว้เท่านั้นเอง”
นนท์ขมวดคิ้วแน่น “เราไม่อยากคิดถึงวันที่อัญไม่อยู่ เพราะเราอยากให้อัญอยู่ข้าง ๆ แบบนี้ตลอดไป”
คำตอบนั้นทำให้อัญน้ำตาคลอ
แต่เธอรีบหันหน้าไปทางแม่น้ำเพื่อซ่อนมัน
“เราอยากอยู่ข้างเขาตลอดไปเหมือนกัน…แต่ร่างกายเราอาจไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น”
รินกับความสงสัยที่มากขึ้น
ในวันจันทร์ รินสังเกตเห็นว่าอัญดูเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ
ขณะที่กำลังทำรายงานด้วยกัน เธอสังเกตเห็นมือของอัญสั่นเล็กน้อย
“อัญ แกไม่เป็นไรใช่ไหม” รินถามด้วยความเป็นห่วง
อัญฝืนยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอก แค่พักผ่อนไม่เพียงพอ”
รินจ้องหน้าเพื่อนอย่างไม่เชื่อสนิท
“ช่วงนี้แกดูซ่อนอะไรไว้ตลอดเลยนะอัญ มีอะไรเล่าให้ฉันฟังได้ไหม”
อัญส่ายหน้า “ไม่มีจริง ๆ ริน…ขอเถอะนะ อย่าถามเลย”
รินเม้มปากแน่น แม้จะอยากคาดคั้น แต่เธอเลือกจะเงียบ
เพราะเข้าใจว่าเพื่อนสนิทคงยังไม่พร้อมพูด
เหตุการณ์วันฝนตก
เย็นวันหนึ่ง ขณะทั้งคู่กำลังเดินกลับจากห้องสมุด
ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
นนท์รีบถอดเสื้อคลุมของตัวเองคลุมให้อัญ
“มานี่สิ เดี๋ยวจะเปียก”
อัญมองเขาด้วยหัวใจที่อบอุ่น
“แล้วนนท์ล่ะ จะไม่เปียกเหรอ”
“ไม่เป็นไรหรอก เราทนได้” นนท์ยิ้ม
ทั้งคู่วิ่งไปหลบฝนใต้ชายคาร้านกาแฟเล็ก ๆ
เสียงฝนตกกระทบหลังคาดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
อัญนั่งมองสายฝนเงียบ ๆ ก่อนจะพูดเบา ๆ
“อัญชอบเสียงฝนนะ มันทำให้รู้สึกสงบ”
นนท์หันมามองเธอ “เราก็ชอบเหมือนกัน…โดยเฉพาะเวลานั่งฟังกับอัญ”
ทั้งสองสบตากันในความเงียบ
หัวใจของอัญเต้นแรงจนแทบระเบิด
ทันใดนั้น เสียงเพจเจอร์ของนนท์ก็ดังขึ้น
เขาหยิบขึ้นมาดูแล้วพบว่าเป็นข้อความจากตรี
“ไอ้นนท์ อย่าลืมงานกลุ่มคืนนี้นะโว้ย!”
นนท์หัวเราะแห้ง ๆ “ลืมไปเลยว่ามีนัดกับเพื่อน”
อัญยิ้มบาง ๆ “งั้นไปเถอะ อย่าให้เพื่อนรอนาน”
“แล้วอัญล่ะ…กลับบ้านเองได้ไหม” นนท์ถามอย่างเป็นห่วง
อัญพยักหน้า “ได้สิ ไม่ต้องห่วงหรอก”
ก่อนจะแยกกัน นนท์ยื่นมือไปจับมืออัญแน่น
“ระวังตัวด้วยนะอัญ”
อัญมองมือเขาแล้วพยักหน้าเบา ๆ
“อืม…นนท์ก็เหมือนกันนะ”
มุมมองของอัญ — ความลับที่เก็บซ่อน
คืนนั้น อัญนั่งอยู่บนเตียงในห้องของตัวเอง
บนโต๊ะข้างเตียงมียารักษาโรคจำนวนหนึ่งวางเรียงราย
เธอหยิบสมุดไดอารี่ขึ้นมาเขียนข้อความสั้น ๆ
“วันนี้เรามีความสุขมาก แต่ทุกครั้งที่หัวเราะหรือยิ้มกับนนท์
ใจเราก็กลัวว่า…วันหนึ่งเขาจะต้องร้องไห้เพราะเรา”
น้ำตาหยดลงบนหน้ากระดาษ
เธอรีบปาดมันออกก่อนจะปิดสมุดและซ่อนมันไว้ในลิ้นชักลึกสุด
เหตุการณ์พิเศษในมหาวิทยาลัย
วันต่อมา มหาวิทยาลัยจัดงานประจำปี
มีการออกร้านขายของและการแสดงบนเวที
อัญกับรินรับหน้าที่ขายดอกไม้เพื่อนำรายได้ไปบริจาค
นนท์และเพื่อน ๆ มาช่วยงานตั้งแต่เช้า
เขายืนมองอัญที่กำลังยื่นดอกไม้ให้ลูกค้าด้วยรอยยิ้ม
“อัญดูสดใสเหมือนดอกไม้พวกนั้นจริง ๆ”
ตรีแซวทันที “เฮ้ย ไอ้นนท์ อย่ามัวแต่ยืนมองสิ ไปช่วยขนของโน่น!”
นนท์หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเดินไปช่วยงาน
ระหว่างนั้น เขาแอบซื้อดอกทิวลิปหนึ่งดอกจากร้านของอัญ
เมื่อมีจังหวะที่เธอว่าง เขาก็ยื่นมันให้เธอโดยไม่พูดอะไร
อัญรับดอกไม้มาอย่างประหลาดใจ
“นี่…ให้อัญอีกแล้วเหรอ”
นนท์ยิ้มบาง ๆ “แค่อยากเห็นอัญยิ้มก็เท่านั้น”
อัญยืนยิ้มทั้งน้ำตา เธอเริ่มรู้แล้วว่า
ความรักของเขาไม่ได้อยู่แค่ในคำพูด แต่ซ่อนอยู่ใน สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาทำเพื่อเธอเสมอ
คำสัญญาใต้แสงจันทร์
หลังงานเลิก อัญกับนนท์เดินเล่นรอบมหาวิทยาลัย
ท้องฟ้ามีเพียงแสงจันทร์ส่องสว่าง
อัญหยุดเดินแล้วหันไปมองเขา
“นนท์…สัญญากับอัญได้ไหม”
“สัญญาอะไรเหรอ” นนท์ถามอย่างงง ๆ
“สัญญาว่า…ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นนท์จะไม่ลืมอัญ”
นนท์มองตาเธออย่างแน่วแน่
“เราสัญญาอัญ ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป เราก็จะจำอัญได้ตลอดชีวิต”
อัญยิ้มทั้งน้ำตา
เธอไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่คำสัญญานี้ทำให้เธอมีแรงสู้ต่อไป
