EP10
#ทวงคืน(รัก)เมียเก่า(10)
เห็นท่าทีที่ทำเป็นรังเกียจกันของหญิงสาวพาให้หัวใจแกร่งของพีรภัทรสั่นไหวอย่างหนัก กันตาแสดงออกชัดเจนมากว่าไม่อยากอยู่ใกล้หรือพูดคุยกับเขา
พีรภัทรเข้าใจหญิงสาวนะ เขาเข้าใจดีว่าทำไมหญิงสาวถึงได้แสดงท่าทีแบบนี้ต่อเขา เขาไม่คิดโกรธเธอหรอก ไม่เคยโกรธเธอเลยสักนิด เขาจะโกรธเธอได้ยังไงกันในเมื่อหญิงสาวนั้นไม่ได้ผิดอะไรเลย มีเพียงเขาที่ผิด ผิดที่ทิ้งเธอ ผิดที่ทำให้อนาคตของเราสองคนต้องพังลง พังลงด้วยน้ำมือของเขาเอง
“มาแล้ว” เสียงตะโกนของเค้กดังมาแต่ไกลก่อนที่ร่างแบบบางของเธอจะปรากฏตัวขึ้น
“งั้นเฮียขอตัวออกไปสูบบุหรี่ก่อนนะ สาว ๆ คุยกันต่อได้เลย” พีรภัทรที่เห็นเค้กเดินเข้ามาก็รีบปลีกตัวออกมาจากตรงนั้น ความรู้สึกปวดหนึบที่จุกอยู่กลางอกทำให้เขาไม่อาจฝืนทนนั่งอยู่ตรงนี้ได้อีกต่อไป
“อ้าว นั่นเฮียพีจะไปไหนน่ะ” เค้กหันมาเลิกคิ้วถามกันตาเมื่อเห็นว่าพีรภัทรเดินตาแดงออกไปคล้ายคนร้องไห้
“กูจะไปรู้กับเขาไหม” กันตายักไหล่อย่างไม่ยี่หระให้กับคำพูดตัวเอง ทั้งที่เมื่อกี้เธอยังมองตามแผ่นหลังหนาของพีรภัทรตาละห้อยอยู่เลย
เค้กละเบื่อคนปากแข็งอย่างเพื่อนเธอจริง ๆ ปากบอกไม่รักเขาแต่การกระทำสวนทางอย่างสิ้นเชิง
เค้กส่ายหน้าเอือมระอาให้เพื่อนสาวเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงโซฟาตรงข้ามกันกับกันตา เค้กมองหน้ากันตาอย่างไม่วางตามองพินิจพิจารณาอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งคนโดนมองรู้สึกตัวหันมาเลิกคิ้วใส่
“มองหน้าทำไม” กันตาถามด้วยความฉงนเมื่อจู่ ๆ ก็โดนเพื่อนสาวจ้องมองไม่วางตา
“มึงลืมเขาได้จริง ๆ แล้วเหรอ”
“……..” กันตานิ่งงันไปกับคำถามที่ไม่ได้ตั้งตัวของเค้กพลางมองเลยไปยังคนตัวโตที่ออกไปสูบบุหรี่อยู่นอกตัวบ้าน
ลืมเหรอ?
เธอไม่ลืมหรอก ใครจะลืมคนที่เคยรักมาก ๆ ได้กัน เธอไม่ลืม….กลับกันเธอก็ไม่ได้คิดจะจำเขาอีกด้วย
บาดแผลที่พีรภัทรทิ้งไว้ให้เธอมันใหญ่เกินกว่าที่กันตาจะมองพีรภัทรได้เหมือนเดิมอีกแล้ว หัวใจเธอมันเหวอะจนเป็นแผลใหญ่ที่ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะสมานแผลนี้ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้
“ทำไมไม่ลองคุยกันอีกสักครั้ง เฮียพีเขาอาจจะมีเหตุผลจำเป็นที่ต้องทำแบบนั้น” เค้กเกริ่นลองเชิงไม่กล้าลงรายละเอียดในสิ่งที่เธอรู้มามากไปกว่านี้โดยส่วนหนึ่งพีรภัทรขอร้องเธอไว้ว่าไม่ให้บอกกันตา เค้กจึงได้แต่เก็บเรื่องนี้เป็นความลับเรื่อยมาจนถึงตอนนี้ แต่ความจริงแล้วเค้กเองก็เพิ่งรู้เหตุผลจริง ๆ ของพีรภัทรได้ไม่นานหรอก และที่เธอรู้ก็เพราะว่าเธอดันบังเอิญไปได้ยินพวกหนุ่ม ๆ เขากำลังปรึกษากันเข้าพอดี
“ไม่ว่าเหตุผลที่เขาทิ้งกูไปคืออะไร เขาก็ไม่จำเป็นต้องใจร้ายกับกูขนาดนั้น ภาพพวกนั้นยังตามหลอกหลอนกูทุกคืน ไม่มีคืนไหนเลยด้วยซ้ำที่กูจะนอนหลับเต็มตา” ความทรมานพวกนั้นยังตามหลอกหลอนเธออยู่เรื่อยมาไม่ว่าจะเป็นตอนลืมตาตื่นหรือแม้กระทั่งในตอนที่เธอหลับตานอน กันตาก็มักมองเห็นภาพความเสียใจของตัวเอง และความใจร้ายของพีรภัทร ทุกคืนที่กันตาฝันเห็นภาพพวกนั้นเธอก็มักสะดุ้งตื่นขึ้นมานั่งร้องไห้
ไม่มีใครรู้หรอหว่าเธอทรมานขนาดไหนกับการไม่มีเขา
กันตาไม่เคยชินกับการไม่มีพีรภัทรอยู่เคียงข้างเลยสักวัน
และทั้งที่เธอต้องการเขาขนาดนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะทิ้งกันลงอย่างง่ายดาย
********
ขณะนี้ลานหน้าบ้านสุดหรูของเค้กกำลังเต็มไปด้วยความครึกครื้นและสนุกสนาน
หลังจากที่เฮียไคกับเฮียกันต์กลับมาจากซื้อของ ทุกคนก็ต่างพากันตั้งวงทำอาหารอีกทั้งยังดื่มเหล้า เบียร์ พูดคุยสัพเพเหระกันไปในเรื่องราวต่าง ๆ
“อะ กุ้งของโปรดหนูเฮียย่างมาให้” ในขณะที่กันตานั่งเหม่อจานกุ้งจานโตก็ถูกนำมาวางลงตรงหน้าเธอ เป็นพีรภัทรที่ย่างกุ้งมาให้ พีรภัทรจำได้ว่ากันตาชอบกินกุ้งมากขนาดไหน
“ไม่กิน” กันตาปฏิเสธเสียงแข็งดันจานกุ้งออกหากกาย พีรภัทรที่เห็นดังนั้นก็หน้าเจื่อนลงทันที ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยแววตาหม่นเศร้า
“เฮียตั้งใจเอามาให้หนูนะ ไม่คิดจะกินหน่อยหรือไง แบบนี้เฮียก็เสียน้ำใจแย่”
เขามันช่างกล้าพูดไม่อายฟ้า อายปาก หรืออายหมาที่กำลังนั่งมองเขาราวกับเขาเป็นตัวประหลาดพร้อมงับหัวเขาลงคอได้ทุกเมื่อเลยสักนิด
“กินสิตา” กันตาชักสีหน้าเมื่อพีรภัทรคะยั้นคะยอเธอไม่หยุด ดันจานกุ้งเผามาตรงหน้าเธออีกครั้งพร้อมฉีกยิ้มหวานให้กัน
กันตามองหน้าพีรภัทรสลับกับจานกุ้งไปมา
พีรภัทรยิ้มกว้างเมื่อเห็นหญิงสาวยอมหยิบกุ้งที่เขาตั้งใจย่างมาให้ พลันรอยยิ้มของพีรภัทรจางหายไปเมื่อหญิงสาวหยิบกุ้งของเขาป้อนให้หมากิน
เขาถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่พึมพำเรียกชื่อเธอด้วยความสิ้นหวัง
“กันตา”
