Bad love 6 คุณหนูรอง
ฉันรู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่มีคนมาผายปอดช่วยชีวิต ฉันสำลักน้ำออกมาค่อนข้างเยอะ คนที่ช่วยฉันคือผู้ชายคนหนึ่ง ใครกันนะฉันไม่รู้จัก ทว่ามองไปอีกทางฉันเห็นผู้หญิงที่ฉันเคยเจอ ฉันเคยเจอเธอตอนที่จะไปอยู่ที่กระท่อม ตอนนี้เธอกำลังนั่งจับมือฉันด้วยสายตาห่วงใย เธอคือผู้หญิงท้องที่ตัวเล็กน่ารัก
"ชมพูปวดท้อง" ฉันบอกผู้หญิงท้อง
"พี่บาสเฮียนิคม เลือดไหลค่ะโมว่าเราพาเธอไปที่ไร่ดีกว่า" โมเหรอ เธอคนนี้ชื่อโมใช่ไหม
ผู้ชายใบหน้าหล่อเหลาทั้งสองพยักหน้า คนหนึ่งอุ้มฉันในท่าเจ้าสาวกึ่งวิ่งกึ่งเดิน ส่วนอีกคนเดินตาม ฉันหันมองผู้หญิงชื่อโม เห็นเธอเหมือนกำลังพูดคุยกับผู้ชายใจร้ายคนนั้น คนที่จงใจฆ่าฉันให้ตาย ฉันมองเขา มองให้สุดสายตาก่อนที่ฉันจะไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกตลอดไป หลังจากนี้เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วภูผา สติของฉันค่อย ๆ วูบลงอีกครั้งและมันเริ่มมืดดับพร้อมภาพจำสุดท้ายของผู้ชายใจร้าย
ฉันลืมตาตื่นอีกครั้งพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงคล้ายห้องพักของโรงพยาบาลแต่มันไม่ใช่ มันเหมือนเป็นบ้านคนมากกว่า ฉันจำเหตุการ์ณที่ปวดท้องเจ็บท้องได้ดี
หลังจากหมดสติไปมันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันนะ
"ฟื้นแล้วเหรอคะ" ผู้หญิงท้องเดินยิ้มแย้มทักฉัน
"คุณช่วยฉันไว้" ฉันหันมองเธอ
"ฉันชื่อแตงโมค่ะ คุณเจ็บแผลไหมคะ ปวดท้องอยู่ไหม" เธอเดินเข้ามา ยกมือขึ้นปัดปอยผมออกจากใบหน้าของฉัน
"ไม่เท่าไหร่ค่ะ ฉันเป็นอะไรคะ" ฉันเอ่ยสิ่งที่ตรงข้ามกับความรู้สึก เพราะรู้สึกแผลมาก
คำถามของฉันทำให้แตงโมหน้าเศร้า เธอเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างเตียง ยื่นมือมาจับมือฉัน
แตงโมเอ่ยเสียงสั่น "คุณทำใจดี ๆ นะคะ"
"..." พูดแบบนี้แปลว่าเป็นเรื่องไม่ดี
"คุณท้องค่ะ อายุครรภ์ประมาณสี่เดือนได้ แต่ว่าคุณแท้งค่ะ เจ้าตัวเล็กจากไปแล้ว เหตุผลที่แท้งน่าจะเพราะท้องคุณโดนของแข็งกระแทกขณะตกน้ำทำให้ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ตอนที่พี่บาสกระโดดลงไปช่วยก็เกือบจะไม่ทันแล้ว ตอนแรกฉันนึกว่าจะช่วยคุณไม่ทันด้วยซ้ำ พอเรามาถึงบ้านพักคุณเสียเลือดหนัก เฮียนิคมบอกว่าไปโรงพยาบาลคงไม่ทัน จึงจำเป็นต้องผ่าตัดทันที แต่ไม่ต้องห่วงนะคะเฮียเป็นอดีตหมอผ่าตัดมือหนึ่ง คุณปลอดภัยแน่นอนค่ะ ส่วนเรื่องเจ้าตัวเล็กโมเสียใจด้วยนะคะ"
“…” ฉันนอนร้องไห้ไม่มีคำพูดใดหลุดจากปาก
ลูกของฉันไม่อยู่แล้วเหรอ ชีวิตน้อย ๆ จากฉันไปทั้งที่ยังไม่ได้เจอหน้าด้วยซ้ำ เขาฆ่าลูกของฉันอย่างเหี้ยมโหด ต่อไปเราทั้งคู่คงต้องอยู่คนละโลกจริง ๆ
"ไหวไหมคะ" แตงโมเอ่ยถามเมื่อฉันนอนร้องไห้อยู่นานหลายชั่วโมงโดยที่มีเธอนั่งกุมมือและคอยเช็ดน้ำตาให้ฉันตลอดเวลา
"ฉันขอยืมโทรศัพท์มือถือได้ไหมคะ" ถ้าหากฉันเจอไวกว่านี้ฉันคงจะขอความช่วยเหลือได้เร็วกว่านี้ เรื่องคงไม่มาถึงจุดนี้ หนึ่งชีวิตก็อาจจะมีโอกาสได้ลืมตาดูโลก
"ได้ค่ะ" แตงโมยื่นโทรศัพท์มือถือของเธอมาให้ฉัน
ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด…
(สวัสดีค่ะ) เสียงที่ฉันคุ้นหูมาตั้งแต่เด็กรับสาย
"หม่ามี้" ฉันพยายามเรียกคนในสายด้วยน้ำเสียงที่นิ่งที่สุดแต่สุดท้ายก็ยังสั่นอยู่ดี แค่ได้ยินเสียงแม่น้ำตาก็ไหล
(ชมพูเหรอลูก เป็นอะไรลูก เกิดอะไรขึ้นทำไมมี้ติดต่อไม่ได้ เดี๋ยวนี้เหลวไหลเกินแล้วนะ) หม่ามี้เอ่ย
"มี้คะให้เฮียฌอห์ณมารับชมพูหน่อย ชมพูเจ็บเหลือเกิน หม่ามี้ชมพูเสียใจ ฮึก...ฮึก ช่วยชมพูที ฮือ ฮือ…" ฉันร้องไห้ออกมาจนได้ทั้งที่พยายามกลั้นไว้แล้วเชียว
(เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันนะชมพู ฌอห์ณจะไปรับลูกกลับมาภายในห้าชั่วโมงเราต้องได้เจอกัน)
"ป๊าธาม ชมพูขอโทษ ฮือ ฮือ ฮึก…" ผิดไปแล้ว ลูกสาวคนนี้ผิดไปแล้วจริง ๆ ถ้าไม่ดื้อรั้นก็จะไม่ถึงจุดเลวร้ายแบบนี้
(ลูกสาวป๊าห้ามร้องไห้นาน จำที่ป๊าบอกได้ใช่ไหม) น้ำเสียงของป๊าธามบ่งบอกว่ากำลังโกรธมาก
"ชมพูเข้าใจค่ะ ชมพูจะรอเฮียฌอห์ณมารับนะคะ" ฉันกดวางสายและยื่นโทรศัพท์มือถือคืนแตงโม
"คุณจะไปไหนคะ"
"ฉันชื่อ ชมพู บุญญาภิรักษ์ คุณรู้จักนามสกุลนี้ไหมคะ" ฉันเลือกที่จะเอ่ยถามแทนที่จะตอบคำถามของเธอ
"ไม่รู้จักค่ะ" แตงโมส่ายหัว
"เฮียรู้จักนะ เป็นนามสกุลนักธุรกิจดังที่รวยมาก ๆ ในไทย เบื้องหลังเป็นมาเฟียทั้งครอบครัว คุณคือลูกสาวคนรองของประธานแก๊งรุ่นปัจจุบันใช่ไหมครับ" ผู้ชายหน้าหล่อแต่เหมือนเขาไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่เอ่ย เขาเพิ่งเปิดประตูเข้ามา
"ค่ะ" ฉันยิ้มให้เขา
"ยินดีต้อนรับคุณหนูรองของแก๊งหงส์ทองนะครับ" ผู้ชายหน้าหล่อยิ้มทักทาย
"เฮียจะบอกว่าคุณชมพูเป็นมาเฟียเหรอคะ" ดวงตาคู่สวยของแตงโมเบิกกว้าง
"ใช่ เเต่เฮียไม่รู้ว่าทำไมประธานแก๊งถึงปล่อยลูกสาวคนรองมาทนทุกข์ทรมานแบบนี้" ผู้ชายหน้าหล่อหันไปยิ้มให้แตงโม เป็นรอยยิ้มอ่อนโยน
"คงเป็นเพราะรักลูกมากจนต้องยอมมั้งคะ ฉันไม่ชอบวงการมาเฟีย ฉันเบื่อ ฉันอยากใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ทุกอย่างไปได้ดีค่ะ ดีกระทั่งป๊าของฉันไว้วางใจ แต่แล้วมันกลับพลาด การมาที่นี่ทำให้เกิดเรื่องผิดพลาดทุกอย่าง มันมีการสูญเสียที่ฉันยากจะทำใจรับ ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับไปเป็นตัวฉันจริง ๆ สักที" ฉันเล่าถึงเหตุผลที่ป๊าธามยินยอมให้ฉันออกมาใช้ชีวิตมหา’ลัยที่ลำปาง
ทุกอย่างเกิดขึ้นเมื่อฉันอายุ 16 ปี ฉันขอป๊าธามและมี้ลูกหว้าออกมาซื้อบ้านจัดสรร ฉันออกมาอยู่กับป้าแม่บ้านคนสนิท ใช้ชื่อชมพูพรรณ งานโรงเรียนฉันจะให้ป้าแม่บ้านสวมบทบาทแม่ของฉัน ทุกคนรวมทั้งภูผาจึงเข้าใจว่าป้าแม่บ้านคือแม่ของฉัน ทุกอย่างไปได้ดี ไปได้สวย และเมื่อจบมัธยมปลาย ป๊าของฉันจึงเชื่อใจ ป๊าวางใจมากขึ้นเพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ
กระทั่งเรียนจบมหา’ลัยฉันขอป๊าอยู่ที่ลำปางต่อด้วยเหตุผลที่ว่าฉันชอบธรรมชาติของที่นี่ ทั้งที่จริงแล้วฉันแค่อยากอยู่ใกล้ภูผา
แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงพร้อมการสูญเสีย ฉันแทบสูญเสียทุกอย่างที่ชมพูพรรณมี ในเมื่อเขาตั้งใจที่จะให้ฉันตาย ต่อไปนี้เราก็อย่ารู้จักกัน ฉันเกลียดเขาไม่ต่างจากที่เขาเกลียดฉัน
"เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยนะครับ" ผู้ชายหน้าหล่อที่แตงโมเรียกว่าเฮียพูดขึ้น
"ค่ะ จากนี้คงได้แต่คิดถึง ขอบคุณพวกคุณมากนะคะแล้วก็ฝากขอบคุณหมอที่ผ่าตัดให้ฉันด้วย" ฉันยิ้มให้ทั้งสองที่มองแล้วน่าจะเป็นคู่รักกัน
"คนที่รักษาก็ยืนอยู่นี่ไงคะ นี่เฮียนิคมสามีอีกคนของโมเอง" แตงโมหันไปยิ้มให้ผู้ชายหน้าหล่อที่ชื่อนิคม
"สามีอีกคน?" คำพูดของเธอหมายถึงอะไร
"ค่ะ อีกคนก็คนที่ผายปอดช่วยคุณ คนนั้นชื่อบาส เรื่องมันยาวค่ะเอาไว้เราค่อยโทรคุยกันนะคะ โมหวังว่าคุณคงไม่รังเกียจโม"
"ไม่ค่ะ ไม่รังเกียจเลย ชมพูยินดีมาก ว่าแต่ชมพูหลับไปนานไหมคะ"
"หนึ่งอาทิตย์ค่ะ วันนี้ครบหนึ่งอาทิตย์พอดี" แตงโมยิ้มอย่างเป็นมิตร
"ถ้าพี่ชายฉันมาคุณอย่าบอกเรื่องที่เกิดขึ้นนะคะ บอกว่าฉันไม่สบายก็พอ ฉันไม่อยากให้เขาเกี้ยวกราด"
"ได้ค่ะ"
ฉันไม่อยากให้ครอบครัวรู้ว่าฉันผ่านอะไรมาบ้าง ฉันอยากให้ทุกอย่างมันจบลงตรงนี้ ให้มันจบพร้อมชีวิตน้อย ๆ ที่ไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลก
