พิษรัก 5 ฉันไม่ได้ขายตัว!
ฉันหันมองผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อ หูฉันไม่ได้ฝาดไปใช่มั้ย?
พี่องศาลวนลามฉันจากนั้นก็เอาเงินฟาดหัว ทำราวกับว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ซื้อได้ด้วยเงิน แบบนี้มันไม่เป็นการดูถูกกันเกินไปหน่อยหรือไง!
พรึ่บ!
ฉันหยิบเงินก้อนนั้นโยนใส่หน้าพี่องศา ทำเอาเจ้าตัวหันขวับกลับมาถลึงตาดุดันใส่
“มีนไม่ได้ขายตัว!” ฉันพูดกระแทกเสียงพร้อมจ้องกลับอย่างไร้ความเกรงกลัว “ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ มีนจะคิดว่าตัวเองทำทานก็แล้วกัน!”
พูดจบฉันก็เปิดประตูเดินลงจากรถทันที ฉันจะนั่งแท็กซี่กลับบ้านเอง จะให้ฉันทนนั่งรถไปกับผู้ชายคนนี้ฉันทำไม่ได้จริงๆ
ทีแรกฉันคิดว่าพี่องศาจะตามมารั้งฉันกลับไปซะอีก แต่ผิดคาด เขาไม่ได้ตามมา ทว่ากลับขับรถออกไปจากคอนโดด้วยความเร็ว
ดูเหมือนว่าพี่องศาเองก็ตั้งตัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ทันเหมือนกัน
เหอะ! ทั้งที่ตัวเองเป็นคนเริ่มเองแท้ๆ แล้วฉันล่ะต้องรู้สึกยังไง!
“ลงมาทำอะไรคนเดียวดึกๆ ดื่นๆ” เสียงดุของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง ฉันหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นลอว์
“ลอว์ นะ…นายตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่”
ไม่รู้ว่าทำไมพอเห็นสีหน้าของลอว์แล้วฉันถึงได้รู้สึกแปลกๆ มันแอบกลัวว่าลอว์จะเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับพี่องศาเมื่อกี้นี้
“ฉันไม่ได้หลับ”
คำตอบของลอว์ทำให้ฉันรู้สึกหวั่นใจ อย่างที่บอกว่าปกติลอว์จะพูดคำหยาบ แต่หากเมื่อไหร่ที่เขาจริงจังหรือซีเรียสเขาก็มักจะเปลี่ยนคำพูดอย่างเช่นในตอนนี้
“อ๋อ งะ…งั้นฉันกลับก่อน” ฉันรีบบอกแล้วหันหลังทำท่าจะเดินไปอีกทาง แต่ก็ถูกลอว์คว้าข้อมือรั้งเอาไว้
ฉันจึงหันกลับไปมองเป็นเชิงถาม แล้วก็ได้เห็นว่าสายตาที่เคยเย็นชาของเขาในตอนนี้มันกำลังแสดงออกถึงความกังวล
ลอว์มองฉันเหมือนอยากจะถามอะไร แต่สุดท้ายเขาก็เงียบ และค่อยๆ คลายมือออกจากข้อมือฉันในที่สุด
“เดี๋ยวไปส่ง”
วันต่อมา
ฉันเดินย่องลงจากบันไดช้าๆ พลางเหลือบมองซ้ายขวาเพื่อดูว่าพี่องศายังอยู่ในบ้านหรือเปล่า
เมื่อคืนพอกลับมาถึงฉันก็รีบวิ่งขึ้นห้องไปทันที ไม่ได้พบเจอหรือพูดคุยอะไรกับเขา และฉันก็ไม่อยากที่จะเจอหน้าพี่องศาด้วย
บอกตรงๆ ว่าฉันยังโกรธกับการกระทำของเขามาก
ฉันเดินย่องลงมาจนถึงชั้นล่าง ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ ด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าพี่องศาไม่ได้อยู่ในบ้าน
“ขอบคุณนะคะที่เมื่อคืนโอมตามใจซอลทั้งคืน ไม่ว่าซอลจะอยากได้อะไร…หรืออยากทำท่าไหนโอมก็ไม่ขัด” เสียงแหลมแสบแก้วหูของผู้หญิงคนนึงดังขึ้น ทำให้ฉันชะงักฝีเท้าที่กำลังจะเดินออกไปขึ้นรถ
แล้วที่มากไปกว่านั้นคือชื่อที่ผู้หญิงคนนั้นพูด โอม มันคือชื่อเล่นของพี่องศาที่เขาไม่อนุญาตให้ใครเรียกแม้แต่ฉันกับพี่นิน
แต่กับผู้หญิงคนนี้เขาไม่ว่าอะไรสักคำ
ฉันค่อยๆ หันหลังกลับไปดูก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังยืนกอดพี่องศาจากด้านข้าง แถมเธอยังซบอกเขาราวกับอยากจะสิง
ทั้งคู่ต่างมองฉันอย่างเย้ยหยัน ทำเอาหัวใจดวงน้อยรู้สึกเหมือนมีเข็มเล็กๆ ทิ่มต่ำหลายจุด
“สวัสดีค่ะคุณเจ้าของบ้าน ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เมื่อคืนมานอนเอา อุ๊ย โทษทีค่ะ เอาใหม่ๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เมื่อคืนมานอนโดยไม่ได้บอก”
