ตอนที่ 2 ได้อยู่ ได้หยอดน้ำข้าวต้มอ่ะ
พอไอ้ฮาเล่ย์ลับตาไปพร้อมกับความหงุดหงิดที่ไม่สามารถทำอะไรคนอย่างเวกัสได้ ร่างสูงใหญ่อย่างเวกัสจึงมองหน้าเพื่อนและลูกน้องของตัวเองซึ่งตอนนี้สะบักสะบอมไปตามกัน
" ไง ไหวไหมพวกมึง "
ร่างสูงพูดพร้อมกับยกมือหนาขึ้นมาเช็ดคราบเลือดบนมุมปากของตัวเองที่ตอนนี้ใบหน้าหล่อๆของเขาแตกละเอียดยับพร้อมกับทำใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ เมื่อสักครู่เขาทนกัดฟันไม่แสดงอาการเจ็บปวดออกมาให้ศัตรูเห็นเพราะศักดิ์ศรีมันค้ำคอ ไอ้ฮาเล่ย์หมัดมันก็หนักใช่เล่นอยู่เหมือนกัน เจ็บชิบหาย
" เออ พอได้อยู่ ได้หยอดน้ำข้าวต้มไปหลายวันอ่ะ "
ฮ่องเต้บอกพร้อมกับยกมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าของตัวเองที่ตอนนี้แทบไม่เหลือเค้าโครงความหล่อแล้ว มันคงปูดบวมไปหมดตามสภาพนั่นแหละ ยืนยังเซเลยตอนนี้
" หึหึ ยังกวนตีนได้แปลว่าไม่เจ็บมาก "
คราวนี้ขุนเขาเป็นคนพูดขึ้นมา พร้อมกับตัวเขาเองที่แทบจะลุกไม่ขึ้นด้วยซ้ำ พวกเขาเองก็คนมีเนื้อมีหนังเนื้อตัวใช่เหล็กเสียเมื่อไหร่ โดนแบบนี้เข้าไปก็คงนอนเป็นผักอยู่หลายวันเหมือนกัน
" มึงสาบานกับกูว่ามึงไม่เจ็บไอ้ขุนเขา มึงลุกขึ้นยืนตรงให้กูดูก่อนดิ๊ ถ้ามึงทำได้กูจะเชื่อ "
คราวนี้ฮ่องเต้ไม่ยอมแพ้เพราะดูจากสภาพของเพื่อนก็น่าจะหยอดน้ำข้าวต้มไม่ต่างจากเขาไปหลายวันอยู่เหมือนกัน เห็นพวกเขาสภาพนี้พวกมันยิ่งหนักกว่าพวกเขาหลายเท่า สะใจชะมัดแข่งกี่ครั้งๆก็ไม่เคยชนะพวกเขาได้เลยสักที
" ช่างแม่ง เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอกเว้ย กูสะใจมากกว่าที่แม่งพวกมันไม่เคยชนะพวกเราได้เลยทั้งๆที่พวกมันเป็นคนท้าแข่งทุกครั้ง แล้วก็เล่นวิธีสกปรกๆทุกครั้งอีก ดีหน่อยที่ครั้งนี้มันไม่ทำ "
ขุนเขาตอบกลับฮ่องเต้ แม้จะเจ็บตัวแต่ก็ถือว่าคุ้มกับความสะใจที่ได้รับกลับคืนมา ชีวิตนักเลงมาเฟียอย่างพวกเขาก็เป็นแบบนี้แหละ มีเรื่องชกต่อยกันเป็นธรรมดา ลำพังเขาและไอ้เวกัสคงไม่เท่าไหร่แต่ไอ้ฮ่องเต้นี่สิกลับบ้านไปคงโดนเมียบ่นหูชาแน่
" แล้วกลับไปน้องแพรวของมึงจะว่าไงวะ "
เวกัสถามเพื่อนออกไปด้วยความเป็นห่วง ฮ่องเต้สละโสดไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมากับแฟนสาวที่คบกันมานาน แม้จะยังไม่ค่อยพร้อมสักเท่าไหร่แต่ด้วยอายุและหน้าที่การงานก็สามารถทำให้เลี้ยงดูภรรยาได้เป็นอย่างดีและที่มันต้องสละโสดก่อนใครก็แทบไม่ต้องเดาว่าเรื่องอะไร เมียของมันดันมีทายาทให้มันก่อนกำหนดแต่จะโทษใครได้ในเมื่อคนที่สามารถป้องกันเรื่องนี้ได้ก็คือไอ้ฮ่องเต้เองแต่มันดันไม่ทำ มันก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่มันทำน่ะถูกแล้ว
" แทบไม่ต้องเดา สภาพนี้คงโกรธกูไปอีกเป็นเดือน แต่จะทำยังไงได้ก็ใจมันเรียกร้อง "
ฮ่องเต้บอกกับเวกัสออกไปแบบนั้น แม้ว่าจะมีลูกมีเมียแต่เขาก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิมทุกวัน อาจจะเบาลงมาหน่อยเพราะห่วงชีวิตขึ้นมานิดนึงแต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้น
" มึงมีครอบครัวแล้วมึงก็เบาๆลงหน่อยสิวะ พวกกูมีเรื่องมึงก็แค่ยืนดูเฉยๆก็ได้ อยู่ในถิ่นกูมันทำอะไรพวกเราไม่ได้อยู่แล้ว "
เวกัสบอกกับฮ่องเต้พร้อมกับตบบ่าเพื่อนเบาๆแต่ฮ่องเต้ก็ทำเพียงแค่ส่ายหน้าเท่านั้น
" เวร กูจะไม่ยืนอยู่เฉยๆดูพวกมึงโดนต่อยหน้าแหกหรอกนะ "
" พวกกูต่างหากที่ต่อยพวกมัน "
เวกัสสวนกลับทันที แต่ฮ่องเต้ก็ไม่วายอธิบายความจริงตรงหน้าให้พวกมันสองคนได้เห็นชัดๆ
" เหรอ...ดูสภาพตัวเองด้วยครับ พอละ ไปหาแดกเหล้าดีกว่าพวกเรา เป็นแผลหนักขนาดนี้ถ้าไม่ฆ่าเชื้อสักหน่อยแผลมันติดเชื้อได้นะเว้ย "
ฮ่องเต้บอกออกไปพร้อมกับปัดรำคาญด้วยการชวนเพื่อนไปหาแอลกอฮอล์เข้าร่างกายจะได้คลายเจ็บลงหน่อย
" ฆ่าเชื้อห่าอะไรของมึงแบบนี้ "
ขุนเขาบอกออกไปแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อเจ็บตัวทุกครั้งก็เป็นแอลกอฮอล์นี่แหละที่ช่วยให้ความระบมมันลดน้อยลง
" เอ้า ว่าไม่ได้ทำแผลเฉยๆก็ล้างได้แค่ภายนอก แดกเข้าไปเลยแผลจะได้หายไวๆ จบจบ "
ฮ่องเต้บอกออกไปพร้อมกับตั้งท่าเตรียมจะเดินไปอย่างที่บอก
" ก็จริงของมัน ไปผับกูแล้วกันไปตอนนี้เลยดึกๆค่อยแยกย้าย กูเลี้ยงเองถือซะว่าเป็นค่าทำขวัญพวกมึง "
เวกัสบอกกับเพื่อน หลังจากที่เขาชนะไม่ใช่แค่รถยนต์คู่ใจของไอ้ฮาเล่ย์เท่านั้นที่เขาได้มายังมีพริตตี้สาวสวยพร้อมกับเงินสดอีก 10 ล้านบาท ที่เขากับมันพนันกันเอาไว้เพียงแค่สองคน
" เออแบบนี้ค่อยคุยกันง่ายหน่อย ว่าแต่มึงจะหิ้วของรางวัลมึงไปด้วยเลยหรือเปล่า "
ขุนเขาถามออกไป แอบเสียดายนิดๆเพราะแอบจ้องพริตตี้ตัวท็อปคนนี้เอาไว้ ไว้คราวหน้าเขาไม่พลาดแน่
" ไปด้วยเลย จะได้ไปต่อกันให้มันเสร็จๆ ไหนๆของรางวัลก็เด็ดขนาดนี้พลาดได้ไง "
เวกัสบอกออกไป ไม่ใช่เพียงแค่เขาที่หมายตาพริตตี้สาวคนนี้แต่ยังเป็นทุกคนที่นี่เพราะเธอดูสวยเด่นพร้อมใช้งานเอามากๆ และเธอก็รู้จักบริหารเสน่ห์เสียด้วยสิ ไม่แปลกใจที่ผู้ชายทั้งหมดในนี้จะมองเธอเป็นตาเดียว และยิ่งเธอเป็นของรางวัลด้วยแล้วทุกคนก็ยิ่งอยากเอาชนะไม่เว้นแม้กระทั่งเขา
" หึหึ เด็ดจริง อย่าให้กูชนะบ้างนะมึง "
คราวนี้ฮ่องเต้เป็นคนบอกออกมา ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเธอคนนี้คือตัวท็อปของที่นี่ สามารถเรียกลูกค้าได้หลายคนเลยล่ะ ถ้าเขาไม่มีเมียกับลูกเขาก็คงจ้องจะงาบเธอเหมือนกัน
" พอเลยมึง เมียอุ้มท้องรออยู่ที่บ้านหาเรื่องให้กบาลแยกอีกแล้วนะมึง "
ขุนเขาที่ช็อตฟิวส์เพื่อนขึ้นมาเสียดื้อๆ ทุกคนหัวเราะให้กับมันเพราะรู้ดีว่ามันเองก็คงหมายตาพริตตี้สาวสวยคนนี้ไว้เหมือนกัน
" ฮ่าๆ กูก็ปากดีไปอย่างนั้นแหละ ตั้งแต่กูมีน้องแพรวกูเคยไปมีใครที่ไหน ทั้งสวยทั้งน่ารักทั้งเซ็กซี่ขนาดนั้น กูไปไหนไม่รอดแล้วล่ะ พวกมึงก็แย่งกันไปแล้วกัน "
ฮ่องเต้บอกออกไปอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก พร้อมกับพริตตี้สาวสวยที่เดินมาหาไอ้เวกัสผู้ชนะของวันนี้
" พ่อคนคลั่งรัก กูละเกลียด อย่าให้กูเห็นนอกลู่นอกทางนะมึง กูจะอัดคลิปส่งให้น้องแพรวดู "
เวกัสบอกกับเพื่อนออกไปพร้อมกับส่งรอยยิ้มมีเลศนัยไปให้ เขายอมรับมันเลยว่าคนเจ้าชู้ไก่แจ้แบบมันสามารถรักเดียวใจเดียวได้จริงๆ นับถือใจของมันเหมือนกันเด็ดเดี่ยวจนตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทำได้แบบมันหรือเปล่า
" หวังดีประสงค์ร้ายอีกแล้วนะมึง ไม่มีทางมีวันนั้นหรอก กูมั่นใจ ไว้พวกมึงมีคนที่ใช่เมื่อไหร่มึงจะเข้าใจความรู้สึกของกูเอง ปรึกษาพี่ได้พี่อาบน้ำร้อนมาก่อนครับน้อง "
ฮ่องเต้บอกกับเพื่อนออกไปกวนๆ ในตอนนี้พวกมันยังไม่เจอคนที่ใช่ก็พูดได้ ถ้าเจอแล้วจะพูดไม่ออกก็คงอาการเดียวกันกับเขานี่แหละ
" เหอะๆ ไม่มีวันนั้นหรอก กูไม่มีทางหาเหาใส่หัวแน่ๆ "
เวกัสส่ายหน้าเบาๆกับคำพูดของเพื่อนสนิท
" หึหึ กูจะคอยดู อย่าให้กูเห็นคนใดคนหนึ่งครางเป็นหมาร้องหาเมียนะเว้ย กูจะขำให้ "
เวกัสไหวไหล่อย่างคนไม่ทุกข์ร้อน พร้อมกับโอบเอวพริตตี้สาวสวยแล้วพูดทิ้งทวนยักคิ้วกวนประสาทกับเพื่อนก่อนจะพาพริตตี้สาวสวยคนนั้นขึ้นรถสปอร์ตคันหรูสีแดงเพลิงของตัวเองเพื่อทะยานไปที่ผับสุดหรูใจกลางเมือง
" หึหึ รอขำชาติหน้าเถอะมึง "
