
บทย่อ
หนูไม่เคยเจอใครโรคจิตเท่าคุณเลย หนูเกลียดคุณ!! หรอ? ฉันก็ยังไม่เคยเจอใครน่าแกล้งเท่าเธอเหมือนกัน สนุกดี!! เขาที่คิดว่าถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด Noสน Noแคร์ พอเธอหงายการ์ดใบสุดท้ายเท่านั้น สเตรทฟลัช!!!
ตอนที่ 1 แพ้แล้วพาล
ฟรื่น!! ฟรื้น!! ฟรื้น!!!
เสียงเหยียบคันเร่งจนแทบมิดเข็มไมล์ของคนในสนามแข่งรถที่เรียงรายกันถึง 10 คัน วันนี้มีแมตช์หยุดโลกระหว่างศัตรูคู่ขนานกันอย่างเวกัสและฮาเล่ย์ ซึ่งทั้งสองคนนี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยจนตอนนี้ก็ล่วงเลยมา10 กว่าปีแล้วก็ยังไม่มีใครลงให้ใครก่อนสักครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน เพราะของเดิมพันระหว่างทั้งสองคนในวันนี้เป็นของรักของหวงของทั้งคู่
" เฮ้ย! ไอ้เวย์ มึงคิดว่าครั้งนี้มันจะเล่นตุกติกกับเราไหมวะ ครั้งก่อนรถมึงแม่งเกือบคว่ำดีนะมึงหักหลบทัน "
ฮ่องเต้เพื่อนสนิทของเวกัสตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยจนถึงตอนนี้เป็นคนเอ่ยถามขึ้นมาเพราะทุกครั้งที่มีการแข่งขันไอ้ฮาเล่ย์มันไม่เคยสักครั้งที่จะโปร่งใสสักที เรียกได้ว่าโคตรโกงแบบหน้าด้านๆเลยล่ะ
" ไม่เหลือหรอก แต่ยังไงซะกูก็ไม่มีทางยอมแพ้มัน พวกมึงก็ด้วยอย่ายอมแพ้มันเด็ดขาด "
เวกัส วรเชษณ์กิจสุวรรณ์ ชายหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยหาตัวจับยาก ใบหน้าคมเข้มตามฉบับลูกเสี้ยวหลายประเทศผสมผสานกัน เพราะแด๊ดของเขาเป็นลูกครึ่งไทยอเมริกาและมัมของเขายังเป็นลูกครึ่งไทยเยอรมัน เขาจึงกลายเป็นลูกเสี้ยวไทยอเมริการวมถึงเยอรมันทำให้หน้าตาของเขาดูหล่อเหลาในแบบฉบับที่หาตัวจับยากชนิดที่ว่าพระเอกดังๆหลายคนยังเทียบเขาไม่ติดด้วยซ้ำ จมูกโด่งเป็นสันรับกับกรอบหน้า อีกทั้งดวงตาที่แสนมีเสน่ห์นั้นอีก รวมไปถึงคิ้วของเขาที่ดูแลจนได้ทรงในแบบฉบับที่เขาต้องการ มีรอยขีด 2 ขีดบนหางคิ้วด้านขวาแสดงถึงความดิบเถื่อนของเขา อีกทั้งรูปร่างที่สูงใหญ่ด้วยความสูง 190 เซนติเมตรและผิวของเขายังขาวออร่าตามแบบฉบับของชาวต่างชาติอีกด้วย
เวกัสบอกออกไปแม้จะไม่อยากต้อนรับให้ไอ้ฮาเล่ย์มันเข้ามาในถิ่นของเขาที่สนามแข่งแห่งนี้แต่ก็คงจะห้ามไม่ได้เพราะเมื่อมันเข้ามาเมื่อไหร่ก็กลายเป็นสีสันให้สนามแข่งของเขาได้ฮือฮาตลอดเช่นกัน แต่มันเป็นคนสันดานเสียไม่รู้ว่าเขาจะอดทนได้อีกถึงเมื่อไหร่
" ระวังโค้งอันตรายด้วยล่ะ ไอ้เวรนี่มันชอบเล่นทีเผลอ ครั้งก่อนมึงก็เกือบเสียท่าให้มัน "
ขุนเขาเพื่อนสนิทอีกคนของเวกัสบอกหลังจากที่ตอนนี้เขาและไอ้ฮ่องเต้ขนาบข้างรถสปอร์ตคันหรูสีแดงของไอ้เวกัส อยู่ข้างๆเขาตอนนี้ก็เป็นรถของไอ้ฮาเล่ย์ที่ตอนนี้มันจ้องมองพวกเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเสียให้ได้
" อืม พวกมึงก็ระวังด้วยแล้วกัน "
เวกัสเตือนเพื่อนทุกคนออกไป พวกเขามีกันอยู่ 3 คนที่สนิทมากจริงๆจนถึงขั้นตายแทนกันได้ สนิทกันมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยปีแรกจนตอนนี้คบกันเกือบจะ 20 ปีแล้วมั๊ง
ปัง!!
เสียงปืนดังขึ้น 1 นัดเป็นสัญญาณให้รถทุกคันออกตัวจากจุดสตาร์ทได้ ซึ่งไอ้ฮาเล่ย์ก็ออกตัวไปก่อนใคร ฮาเล่ย์ต้องการชนะเพราะของเดิมพันมันคือสิ่งที่เขาอยากได้และเขาต้องได้เพื่อเป็นการข่มขวัญให้ไอ้เวกัสกลัวหลังจากที่เขาพ่ายแพ้มันมาถึง 5 นัดรวดก่อนหน้านี้ มันน่าเจ็บใจชะมัด!
เวกัสที่ตามหลังฮาเล่ย์รวมถึงตามหลังฮ่องเต้และขุนเขามาติดๆเขาอยู่ในลำดับที่ 4 ซึ่งเขาต้องการให้มันเป็นแบบนี้ สำหรับเขาคนชนะจริงๆไม่จำเป็นต้องชนะตั้งแต่เริ่มต้นหรอก เกมส์ยังไม่จบยังไม่ต้องนับศพทหาร
ผ่านไปหลายโค้งก็ยังคงเป็นฮาเล่ย์ที่นำโด่งจนมาถึงโค้งสำคัญซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายที่ทุกคนจะต้องแตะเบรคไม่อย่างนั้นก็ต้องเลยโค้งอย่างแน่นอน ซึ่งแน่นอนว่ารถทุกคันทำแบบนั้นแต่ยกเว้นกับเวกัสที่เขากลับเหยียบคันเร่งให้รถมีสมรรถนะที่เร็วขึ้นแล้วก็แซงไอ้ฮาเล่ย์และทุกคนได้ในที่สุด โค้งนี้คือโค้งปราบเซียนต้องเป็นคนที่ไม่กลัวตายเท่านั้นถึงจะไม่ยอมยกคันเร่งออกซึ่งเขามันเป็นคนใจเถื่อนและเป็นหนึ่งในไม่กี่คนนั้น
" เยส!! วู้ว!!"
เสียงเวกัสที่เอ่ยออกมาด้วยความดีใจ เขารอจังหวะนี้มาตั้งแต่เริ่มต้นและเขาก็ทำมันได้นั่นหมายความว่าเส้นชัยอยู่ตรงหน้าอีกไม่ไกลแล้ว
" เวรเอ้ย! บัดซบ!! "
ฮาเล่ย์สบถออกมาด้วยความหัวเสียพร้อมกับมือหนึ่งที่เสียสมาธิตบพวงมาลัยไปหนึ่งครั้งด้วยความโมโห ตอนนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่าเขาแพ้มันแน่ๆเพราะไอ้เวกัสเพิ่งเข้าเส้นชัยไปเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมาเฉือนชนะเขาไปเพียงแค่ไม่ถึง 3 วินาทีด้วยซ้ำ ส่วนเขาตามมาเป็นคันที่ 2 และตามด้วยไอ้ขุนเขาและไอ้ฮ่องเต้เพื่อนสนิทของมัน ส่วนลูกน้องของเขาที่เหลืออยู่อีกตั้งไกลแทบไม่เห็นฝุ่น
" โคตรเก่งเลยเพื่อนกู "
ขุนเขาเปิดประตูรถสปอร์ตคันหรูสีน้ำเงินของตัวเองออกมาพร้อมกับยื่นมือเข้าไปจับและกอดเบาๆแสดงความยินดีกับเวกัส
" เจ๋งโคตร ไม่เสียหมาแล้วมึงวันนี้ 6 นัดรวด "
คราวนี้เป็นฮ่องเต้ที่เปิดประตูรถสปอร์ตคันหรูสีขาวของตัวเองออกมาบ้างพร้อมกับยื่นมือไปจับแสดงความยินดีแล้วกอดเบาๆให้กับเพื่อนสนิทของตัวเองที่สามารถทำสถิติไม่แพ้ไอ้ฮาเล่ย์มันเลยสักครั้ง ป่านนี้มันคงเสียหน้าแทบแย่แล้ว
" ขอบใจเว้ย "
เวกัสบอกกับเพื่อนทั้งสองคนพร้อมกันกับที่ฮาเล่ย์เดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับลูกน้องของมันที่เพิ่งเข้าเส้นชัยไปหมาดๆ
" ไง อย่าลืมของเดิมพันกูล่ะ ยังจำได้ใช่ไหมเพราะมึงเป็นคนเรียกร้องข้อเสนอนี้เอง "
เวกัสทวงถามข้อเสนอออกไปเขาไม่ได้อยากได้ของของมันหรอกแต่อยากได้ความสะใจมากกว่า อยากเห็นน้ำหน้ามันตอนที่มันเสียของรัก สะใจดี
" เอาไป! "
ฮาเล่ย์โยนกุญแจรถสปอร์ตคันหรูสีดำไปให้กับเวกัสอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก เพราะเขากับมันพนันกันสองคนว่า หากใครคนใดคนหนึ่งแพ้จะต้องมอบรถที่ขับในวันนี้ให้กับอีกคนทันทีซึ่งเขาแน่ใจว่าจะต้องชนะเพราะออกตัวลอยลำมาตั้งไกลเลยไม่คิดที่จะใช้แผนที่คิดกันไว้ แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างกลับผิดพลาดไปหมดจนต้องมาเสียรถแบบนี้ แต่เขาเองก็เป็นถึงลูกรัฐมนตรีแค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก
" หึ ขอบใจ ถ้าอย่างนั้นก็เสียใจด้วยนะที่วันนี้มึงไม่ได้สาวสวยคนนั้นกลับไปนอนกอด กูรู้ว่ามึงมองเธอมาตั้งนานแล้ว เสียใจด้วยนะที่คืนนี้เธอเป็นของกูว่ะ กูจะจับกระแทกให้หนำใจเลย "
เวกัสยั่วอารมณ์ฝั่งตรงข้ามอีกครั้งเมื่อวันนี้มีพริตตี้สาวสวยอย่างมินนี่ซึ่งเป็นตัวท็อปในสนามแข่งแห่งนี้เป็นของรางวัล และไอ้ฮาเล่ย์มันก็จ้องสาวน้อยคนนี้เอาไว้ แต่มันดันไปไม่ถึงฝั่งฝันพริตตี้สาวสวยคนนี้จึงต้องตกมาเป็นของเขาแทนเพราะเขาคือผู้ชนะ
" มึงจะเอาไงวะ อยากมีเรื่องใช่ไหม "
ฮาเล่ย์พูดออกมาอย่างคนฟิวส์ขาด เขารู้ว่ามันตั้งใจยั่วโมโหเขา และมันก็ได้ผลเมื่อเขาฟิวส์ขาดจริงๆ จึงพยายามเข้าไปต่อยใบหน้าหล่อๆของไอ้เวกัสให้มันเสียโฉมสักทีจึงเกิดการตะลุมบอนกันขึ้นและกินเวลาไปยาวนานกว่าครึ่งชั่วโมงและมีเพียงหมัดแลกหมัดเพราะทุกคนเพิ่งออกมาจากสนามแข่งจึงไม่มีอาวุธติดตัวกันสักคน จนท้ายที่สุดเป็นฝ่ายของฮาเล่ย์ที่ต้องหยุด เพราะตอนนี้ใบหน้าปูดบวมช้ำไปหมดแทบมองอะไรไม่เห็นด้วยแรงหมัดของเวกัส และตัวของเวกัสเองก็ใบหน้าแตกยับไปไม่ต่างกัน จมูกของเขาที่ใส่จิวเล็กๆเอาไว้ตอนนี้มันเปลี่ยนจากสีเงินกลายเป็นสีแดงเรียบร้อยแล้วแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังยืนไหวไม่เหมือนกับไอ้ฮาเล่ย์ที่นั่งลงไปกองกับพื้นแล้ว
" พอ วันนี้กูฝากไว้ก่อนเถอะ "
ฮาเล่ย์รีบลุกขึ้นพร้อมกับร่างกายที่สะบักสะบอมด้วยแรงหมัดของเวกัส คนบ้าอะไรทั้งตัวใหญ่ทั้งแรงเยอะ เขาที่สูงแค่ 180 ลมแทบจับ ถ้าเทียบกับคนอื่นเขาก็คงเป็นผู้ชายตัวใหญ่ล่ำบึกคนหนึ่งแต่ถ้าเทียบกับไอ้เวกัสเขาก็ดูตัวเล็กไปถนัดตา มันชวนให้เจ็บใจได้ทุกเรื่องเสียจริงๆ
" อย่าลืมมาเอาคืนล่ะ "
