บทที่6
ผู้หญิงเราก็แปลก ทำไมถึงได้คลั่งไคร้ผู้ชายหล่อกันนักนะ หล่อแต่ปากเสียอย่างหมอนั่น ให้ฟรีแถมข้าวอีกกระสอบฉันยังไม่เอาเลย (แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นอมยิ้มรสมะนาวล่ะก็ไม่แน่)
[เอาล่ะจ้ะเงียบๆ หน่อยนักเรียน โปรดอยู่ในความสงบ สติจงกลับมา วิญญาณจงเข้าร่าง]
เสียงน้าจุงโกะถูกกลบด้วยเสียงชะนีฝูงใหญ่ที่ต่างก็ร่วมใจกันพูดสรรเสริญยกยอใบหน้าอันหล่อเหลาของอีตาบ้านั่นที่ยืนยิ้มหน้ามึนอยู่บนเวทีนั่นอย่างไม่ขาดปาก
หมอนั่นมันตัวสร้างความวุ่ยวาย ปากร้ายแถมยังพูดมากอีกด้วย ฉันรู้! แต่คาดว่าฝูงชะนีพวกนั้นจะไม่มีวันรู้..เพราะชะนีเป็นสัตว์จำพวกลา..
[ยูริ! ยัยยูริแกอยู่ไหน] อะ..อ้าวว? แล้วมาเรียกชื่อฉันออกไมโครโฟนทำไมเล่า น้าบ้า!
[ยัยยูริ ถ้าฉันนับ1ถึง3ร่างกายของแกยังไม่โผล่ขึ้นมาบนเวทีฉันจะหักเงินค่าขนมแก 1...2... ]
ฟ้าวววว~~ เสียงร่างกายและวิญญาณของฉันที่พร้อมใจกันล่องลอยขึ้นไปบนเวทีด้วยท่วงท่าที่สง่างาม ฉันยอมที่จะอับอายขายขี้หน้าประชาชีดีกว่าจะยอมเสียค่าขนมไปฟรีๆ โดยใช่เหตุ เดือนนี้ทั้งเดือนฉันถูกหักค่าขนมไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคดีต่างๆ ที่ฉันได้ก่อร่างสร้างเวรเอาไว้ในเดือนนี้ มันได้สร้างความเสียหายจนถึงขั้นฉิบหายวายป่วงให้กับโรงเรียนเป็นอย่างมาก นี่ไม่รู้ว่ามันจะติดลบไปถึงเดือนหน้ารึเปล่านะ
และดูเหมือนว่ายัยพวกชะนีทั้งหลายจะเพิ่งสังเกตเห็นว่าฉันมีตัวตนอยู่ในหอประชุมนี้ด้วยทำให้เสียงกรี๊ดที่ดังจนแก้วหูแทบระเบิดเริ่มค่อยๆ บางเบาลง
“กว่าจะเสด็จมาได้นะย่ะ ยัยหลานบ้า!!” โปรดอ่านเป็นเสียงกระซิบกัน ระหว่างน้ากับหลานเพื่อให้ได้สรรพรสในการอ่าน
“ได้ข่าวว่าเรา มันก็บ้ากันทั้งครอบครัวไม่ใช่เหรอคะน้า”
“ยัยยูริ!นี่แกจะไม่เถียงฉันสักครั้งมันจะตายไหมฮะ!”
“ไม่ถึงกับตายหรอกน้า แค่หายใจติดๆ ขัดๆ ไม่เป็นจังหวะก็เท่านั้น”
“แล้วตายกับหายใจติดๆ ขัดๆ ของแกเนี่ย มันต่างกันตรงไหนฮะ!”
“ต่างสิน้า ต่างมากด้วย คำว่า 'ตาย' เป็นคำพยางค์เดียว มี ย.ยักษ์ เป็นตัวสะกด ส่วนคำว่าหายใจติดๆ ขัดๆ มั...”
“พอๆๆๆ แกจะกวนประสาทฉันไปถึงไหนย่ะ!”
“จนถึงบ้านล่ะมั้งคะ”
“แกอยากนอนนอกบ้านรึไงฮะ! ถ้ายังไม่เลือกกวนประสาทฉัน คืนนี้แกได้นอนนอกบ้านแน่ๆ”
“ไม่กลัว เพราะหนูมีกุญแจสำรอง”
“ยัยหลานดื้อด้าน!”
“คุณน้าขี้บ่น!”
“ยัยยูริ!”
“อะ..เอ่อ ขอโทษนะคะท่าน ผ.อ คะ..คือว่าท่านลืมปิดไมค์ค่ะ” อะจึ้ย นี่เราคุยกันจนจะจบอยู่แล้วเพิ่งจะมารู้สึกตัวเหรอเนี่ย ว่าลืมปิดไมค์น่ะ
เมื่อรู้ดังนั้น...น้าจุงโกะรีบกดปิดไมค์ทันทีที่อาจารย์หน้าแมวกระซิบบอก ไม่บอกซะพรุ่งนี้เลยล่ะเจ๊ เราเกือบจะคุยธุระกันเสร็จอยู่แล้วเนี่ย!
[เอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่า เนื่องจากเรียวตะเพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานจึงไม่รู้กฎระเบียบของโรงเรียนเรา เพราะฉะนั้น ผ.อ จะมอบหน้าที่ดูแลเขาเป็นการส่วนตัวให้กับ..ยูริ มีใครมีปัญหาไหมจ๊ะ] พรึบ! นี่พร้อมใจกันยกมือทั้งหอประชุมเลยเหรอเนี่ย ฉันเองก็อยากจะยกมือด้วยคนนะ แต่พอเหลือบสายตาพิฆาตของน้าจุงโกะในตอนนี้แล้วเอาไว้ค่อยยกมือวันหลังดีกว่า
“หนูไม่มีทางไปดูแลไอ้บ้านี่แน่ // ผมตกลงครับ” ไอ้เสียงแรกน่ะมันของฉัน แต่ไอ้อีกเสียงนึงนี่สิมันของ..ไอ้บ้านั่น!
ตกลงกับผีเถอะย่ะ ให้ฉันไปดูแลไอ้หน้าหล่อแต่นิสัยแย่แถมยังปากร้ายอย่างไอ้หมอนั่นรอให้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วตกทางทิศออกซะก่อนเถอะ!!
“นี่นาย ฉันไม่ตกลงนะ!”
“ตกลง”
“ไม่ตกลง“
“ตกลง”
“ม่ายยย~”
“เธอกลัวจะเผลอใจชอบฉันรึไง”
พูดไม่ออก..มันก็มีส่วนถูกนะ
“ก็อย่างว่าแหละ ฉันเป็นคนหน้าตาดี ไม่ผิดหรอกที่เธอจะเผลอใจชอบน่ะ...จริงไหม” รอยยิ้มที่กวนอวัยวะเบื้องล่างของอีตาบ้านี่ ทำให้สติที่เหลืออยู่น้อยนิดของฉันลัดวงจรออกไปนอกโลก จนเผลอพูดอะไรที่ไม่คิดออกไป...
“ตกลง ฉันจะดูแลนายเองไอ้ผู้ชายปากเสีย” ฉันไม่ได้กลัวคำขู่ของหมอนี่นะ แต่ฉันไม่ชอบให้ใครมาท้าเท่านั้น! แล้วนายจะรู้ว่า สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ที่ฉัน..
[เอาล่ะจ้ะในเมื่อไม่มีใครขัดข้องเรามาเริ่มกะ...]
“หนูขัดข้องค่ะ”
“หนูไม่ยอมมมมม!!”
“ไม่มีทาง ทำไมถึงทำกับฉันด้ายยยย~~”
