บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 พบเจอ

บทที่ 1 พบเจอ

ห้องสีขาวสะอาดตาภายในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่ค่ารักษาแพงหู่ฉี่ กลุ่มคนจำนวนสามคนยืนคุยอยู่ข้างเตียงคนไข้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในขณะที่คนบนเตียงกำลังนอนหลับตาพริ้มหลังจากที่สลบไปจากการถูกรถชนจนได้รับบาดเจ็บที่แขนและตามร่างกายส่วนอื่นๆ

"ขอบคุณพ่อแบงค์มากนะที่ช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้พู่มัน" ชายวัยกลางคนเอ่ยอย่างนอบน้อมคนตรงหน้า

"ไม่เป็นไรลุง เรื่องแค่นี้"

"ฉันขอบคุณพ่อแบงค์จริงๆนะ ดูสินอกจากจะพาพู่มันมาโรงพยาบาลแล้วยังออกค่ารักษาให้อีก"

"ช่วยๆกันน่าป้า ผมเห็นตอนพู่วิ่งตัดหน้ารถพอดี จะเข้าไปช่วยก็ช่วยไม่ทัน ถ้าผมวิ่งไวกว่านี้พู่คงไม่เจ็บหนัก" เสียงเข้มเอ่ยพร้อมกับทำหน้าเสียใจก่อนจะหันไปมองร่างบางบนเตียงคนไข้ด้วยความเป็นห่วง

"โธ่ พ่อพระจริงพ่อคุณ"

"คนดีจริงๆเลยพ่อแบงค์"

ร่างบางที่นอนหลับใหลขยับตัวขึ้นเล็กน้อยดวงตาหวานค่อยๆลืมตาขึ้นมาทำให้ทั้งสามคนเดินเข้าไปหาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย มือสากลูบที่ศีรษะของหลานสาวที่ตอนนี้มีร่องรอยฟกช้ำตามร่างกายอีกทั้งแขนข้างขวาก็หักต้องดามเฝือกเอาไว้เพื่อให้ขยับเขยื้อนน้อยลง

"พู่เอ้ย ฟื้นแล้วหรอลูก" คนเป็นป้าเอ่ยถามเสียงแผ่ว ขอบตาเริ่มร้อนผ่าวเมื่อเห็นหลานสาวเพียงคนเดียวต้องมาเจ็บตัวแบบนี้

เธอไม่รู้ว่าสาเหตุที่หลานสาวของเธอนั้นวิ่งตัดหน้ารถเพราะอะไรแต่พอมาเห็นสภาพคนแก่วัยห้าสิบปีอย่างเธอก็ใจตกวูบเหมือนดิ่งลงเหว เธอรักและดูแลหลานสาวคนนี้มาเป็นอย่างดีเหมือนกับลูกแท้ๆ

"ป้า...ลุง..." รอยยิ้มจางๆปรากฏก่อนเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กแต่ทว่ากลับต้องเก็บมันไว้ดังเดิมเมื่อเธอเห็นร่างสูงของคนที่จะทำร้ายเธอเมื่อคืนอยู่ที่นี่ด้วย

"...พี่แบงค์!" ร่างบางยันกายขึ้นโดยไม่ทันระวังก็ต้องชะงักเมื่อรู้สึกเจ็บที่แขนอย่างจัง

"ระวังสิพู่ ค่อยๆลุก"

"พี่แบงค์! พี่มัน...!"

"อะไรกันพู่ เห็นหน้าพี่แล้วดีใจขนาดนั้นเลยหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมกับมองหน้าเธออย่างยียวน

แบงค์เป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องมาเจ็บตัวนอนรักษาที่โรงพยาบาลแบบนี้ เนื่องจากเมื่อคืนแบงค์เมามากและตรงเข้ามาจะทำร้ายเธอแต่เธอหลบหนีไปได้เสียก่อน ร่างบางวิ่งไม่คิดชีวิตจนกระทั่งวิ่งตัดหน้ารถคนอื่นเข้า

"พี่เขาช่วยเราไว้นะ แถมยังจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้อีกด้วย ใจดีจริงๆเลย"

"พี่แบงค์นี่แหละป้าที่เป็นคนทำให้พู่เจ็บตัวแบบนี้!" เสียงเล็กเอ่ยด้วยสายตาแข็งกร้าว ทั้งลุงทั้งป้าต่างมองด้วยความตกใจที่หลายสาวเอ่ยอย่างมั่นใจ

"อะไรกันพู่กัน...พี่จะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง" ขายาวก้าวเข้าไปหาร่างบางด้วยรอยยิ้มเลือดเย็น

"ออกไป! ออกไปเลยนะ!! ป้า...เมื่อคืนพี่แบงค์ อื้อ!!" มือหนาตรงเข้าไปปิดปากเล็กเมื่อเธอจะพูดเปิดโปงความจริง ในตอนนี้เขากำลังทำตัวเป็นพ่อพระใจดีอยู่แท้ๆ

"อื้อ!!"

"อะไรกันสองคนนี้ แปลกๆนะ"

"ไม่มีอะไรหรอกน่า ลุงกับป้าออกไปก่อน ผมขอคุยกับพู่หน่อยนะ"

"เอ่อ..."

"บอกให้ออกไปก่อนไง!" เสียงเข้มตวาดลั่นทำให้ทั้งสองคนรีบพยักหน้าและเดินออกจากห้องไป

สายตาหญิงสาวจดจ้องคนตัวโตอย่างเอาเรื่อง เธอยังจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ดีว่าเขาจะทำอะไรเธอแต่เธอดันหนีรอดมาได้เสียก่อน เธอยอมโดนรถชนแขนขาเดี้ยงดีกว่ายอมให้ผู้ชายเลวๆอย่างเขาย่ำยี

"นี่ พู่กัน...พี่เป็นคนช่วยเราไว้นะ ถ้าไม่ได้พี่ป่านนี้พู่ตายไปแล้ว" คนตัวโตปรับน้ำเสียงให้เย็นลง ใบหน้าคมคายก้มลงใกล้ชิดกับคนตัวเล็กทำให้ลมหายใจเป่ารดที่แก้มใส

"ออกไป!!"

"เมื่อคืนพี่เมา พี่ไม่ได้ตั้งใจ"

"ไอ้สารเลว!" เธอไม่ต้องการรับฟังคำพูดใดๆที่ออกมาจากปากผู้ชายสารเลวอย่างเขาอีกแล้ว แค่การกระทำที่ต่ำช้าเมื่อคืนก็ทำให้เธอตาสว่างว่าเขาก็ไม่ต่างจากไอ้คนชั่วช้าเลยสักนิด

"พู่กัน!" มือหนาจับหมับที่ใบหน้าเล็กก่อนจะออกแรงบีบจนเธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด หยาดน้ำตาเริ่มไหลรินออกมาข้างแก้มเมื่อเธอไม่สามารถต่อกรกับคนตรงหน้าได้เลยสักนิด

"อึก! เอามือสกปรกของพี่ออกไป!!"

"พู่คิดว่าบอกเรื่องเมื่อคืนให้คนอื่นรู้แล้วจะทำอะไรพี่ได้งั้นหรอ" เสียงเข้มเอ่ยพรางยกยิ้มร้ายอย่างเหนือกว่า เพราะเขารู้ดีว่าคนธรรมดาฐานะปานกลางที่หาเช้ากินอย่างครอบครัวเธอจะไปทำอะไรกับลูกชายคนเล็กของเจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือหน้าตลาดอย่างเขาได้

คนตีตนว่าเหนือกว่ายิ้มเย้ยหยัน หากเทียบกับคนอื่นฐานะของครอบครัวเขาก็ออกจะธรรมดาแต่หากเทียบกับเด็กสาวนักศึกษาอย่างเธอที่ต้องอาศัยกับลุงกับป้าที่หาเช้ากินค่ำรับจ้างไปวันๆอย่างนั้นก็คงจะเทียบหรือสู้อะไรไม่ได้เลย

"พี่มันเลว!" หญิงสาวกัดฟันและจ้องคนตรงหน้าอย่างไม่ลดละ เธอก็เป็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่งไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องมาเจอกับเรื่องราวเลวร้ายแบบนี้

"ถ้ายอมดีๆก็คงไม่เจ็บตัวแบบนี้ ดูสิ...ผิวสวยๆแบบนี้ต้องมาเจ็บตัวมีรอยช้ำ น่าสงสารจริงๆ" มือสกปรกลูบที่ผิวเนียนพร้อมกับสายตาหยาบคายที่จดจ้องร่างบางด้วยความต้องการ

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

เสียงเคาะประตูทำให้ร่างสูงขยับตัวออกและหันไปมองกับคนที่เข้ามาใหม่ พยาบาลสาวถือแฟ้มประวัติคนไข้เดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

"ขออนุญาตนะคะ"

"ตามสบายเลยครับ..." เสียงเข้มเอ่ยก่อนจะปรายสายตามองคนตัวเล็ก

"...เดี๋ยวกลางวันพี่มาเยี่ยมใหม่นะ หายไวๆล่ะคนดีของพี่" มือเล็กกำเข้าหากันแน่น หากเธอหายดีเธอสัญญาว่าจะตรงเข้าไปกระชากคนๆนั้นมาคุกเข่าขอโทษเธอให้ได้!

หลายชั่วโมงผ่านไป

ร่างบางเดินออกจากห้องด้วยความยากลำบากแม้ว่าขาของเธอจะไม่ได้ถูกกระแทกแรงมากแต่ยังไงก็รู้สึกปวดอยู่ไม่น้อย จากการถามไถ่กับป้าของเธอก็ทำให้ทราบว่าเธอถูกรถชนที่แขนอย่างจังทางแบงค์ก็เคลียร์กับเจ้าของรถคันนั้นให้เรียบร้อยและพาเธอมาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้

ลุงกับป้าขอตัวกลับเพราะต้องไปทำงานหลังจากที่ขอลากะทันหันครึ่งวัน เธอเองก็ยินดีเพราะการอยู่คนเดียวนับว่าเป็นเรื่องชินชาสำหรับเธอไปแล้ว

สายตาหวานกวาดมองไปรอบๆโรงพยาบาลด้วยความแปลกตา เธอเคยไปแต่โรงพยาบาลรัฐบาลที่มีผู้คนพลุกพล่านแต่ที่นี่กลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง หรูหราอย่างกับโรงแรม ห้องและโซนต่างๆถูกจัดแบ่งอย่างเป็นระเบียบ

ขาเล็กก้าวสั้นๆไปที่ลิฟต์โดยไม่ทันสังเกตถึงคนตรงหน้า

ตุ้บ!

"โอ๊ย!" หญิงสาวร้องขึ้นเมื่อความไม่ระมัดระวังของเธอทำให้เดินไปชนกับใครคนหนึ่งเข้า

"อ๊ะ...คุณ...ขอโทษนะคะ" คนที่ถูกชนเอ่ยขอโทษด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

"มะ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินไม่ดูทางเองค่ะ" พู่กันรีบโค้งศีรษะลงทันที เธอเองต่างหากที่ผิดเดินไม่มองทางจนทำให้เกิดเรื่องแบบนี้

"คุณจะไปไหนคะ ให้ฉันช่วยดีกว่านะคะ"

"ฉันจะออกไปเดินเล่นน่ะค่ะ"

"ให้ฉันพาไปนะคะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ" เธอรับปฏิเสธอย่างนึกเกรงใจเพราะคนตรงหน้านั้นถือข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือ เธอเองก็ไม่อยากรบกวนเวลาของเธอคนนั้นอีกด้วย

"คุณไปไหวแน่นะคะ ให้ฉันเรียกพยาบาลดีกว่านะคะ"

"จูน มีอะไรรึเปล่า" เสียงเข้มของใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินเข้ามา พู่กันชะงักไปเล็กน้อยเมื่อคนๆนั้นน่าตาคล้ายกับบุคคลที่เธอเคยเห็นในโทรทัศน์

"เมื่อกี้จูนเดินชนคุณเขาน่ะค่ะ เห็นว่าจะออกไปเดินเล่นจูนเลยอยากพาไปค่ะ"

"ฉันไม่เป็นไรจริงๆค่ะ เป็นฉันเองที่เดินไม่ดูทาง" พู่กันปฏิเสธเมื่อได้สติ แม้ว่าเมื่อครู่เธอจะเผลอหลงใหลกับใบหน้าหล่อเหลาของบุคคลที่เข้ามาใหม่ก็ตาม

"ไหวแน่นะคะ"

"ไหวค่ะ^^ ไม่ต้องเป็นห่วงพรุ่งนี้ฉันคงกระโดดตบวอลเลย์ได้สบาย" เธอตอบด้วยรอยยิ้มสดใส ที่จริงแล้วเธอก็ไม่ได้บาดเจ็บหนักเท่าไหร่เพียงแค่แขนหักในข้างที่ถนัดก็เท่านั้น

"จูนเข้าไปหาไอ้คินเถอะ เดี๋ยวพี่พาเขาไปเอง" ประโยคนั้นทำเอาหญิงสาวสองคนนิ่งไปโดยเฉพาะพู่กัน เธอเบิกตากว้างความจริงแล้วเธอแค่รู้สึกเบื่อกับการนอนอยู่บนเตียงเฉยๆก็เลยอยากออกมาเดินเล่นเท่านั้น

"คะ...เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะ" เสียงตะกุกตะกักพยายามปฏิเสธคนตัวโต

"ไม่ต้องเป็นห่วงนะจูน ไปเถอะ" เธอเม้มปากแน่นอย่างทำตัวไม่ถูก การที่คนแปลกหน้าอาสาจะพาเธอออกไปเดินเล่นมันก็คงแปลกไม่ใช่น้อย

เธอไม่ได้กลัวว่าเขาจะทำร้ายแต่เธอแปลกใจมากกว่าว่าทำไมเขาถึงต้องใจดีกับเธอขนาดนี้

ยิ่งมองเธอก็ยิ่งมั่นใจว่าผู้ชายตรงหน้าคือคนที่เธอเห็นบ่อยๆในโทรทัศน์แน่ๆ เขาคือ 'ภูริ' นักแข่งรถชื่อดังที่มีอายุเพียงยี่สิบห้าปีเท่านั้น เจ้าของรอยสักรูปกวางที่แขนซึ่งบ่งบอกลักษณะนิสัยส่วนตัวเขาเป็นอย่างดี ใบหน้าหล่อเหลาผิวขาวจัดส่วนสูงมากกว่าเธอหลายเซนติเมตรเพียงแค่เข้าใกล้ก็ได้กลิ่นน้ำหอมสะอาดราคาแพงจากตัวของเขา ใบหน้าที่เรียบนิ่งแต่กลับทำให้คนที่มองอยากเข้าไปค้นหาความเย็นชานั้น

"มองอะไร" เสียงทุ้มเอ่ยและมองใบหน้าหวานนิ่งทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งหลุดจากภวังค์

"คะ? เอ่อ...ปะ...ไปเดินเล่นค่ะ เดินเล่นที่สวนด้านบน" มือเล็กชี้สะเปะสะปะอย่างไม่รู้ทิศทาง เธอเห็นใบประกาศอยู่ในห้องว่าชั้นบนของตึกมีสวนเล็กๆอยู่ด้านบนด้วยก็เลยอยากออกมาสูดอากาศสักหน่อย

"เดินไหวไหม"

"ไหวค่ะ^^ สบายมาก" ไม่ว่าเปล่าคนที่ถูกถามก็กระโดดโชว์ไปหนึ่งที เธอแค่รู้สึกปวดที่ต้นขาเล็กน้อยเท่านั้นการเดินอาจจะช้ากว่าคนปกติแต่ก็ไม่ถึงกับเดินไม่ได้

"อืม" คนตัวโตพยักหน้าก่อนจะเดินไปกดลิฟต์ หญิงสาวผ่อนลมหายใจออกมาเมื่ออยู่ๆหัวใจของเธอก็เต้นผิดปกติ เธอไม่ได้เป็นแฟนคลับตัวยงของเขาแต่เธอติดตามผลงานของเขาอยู่ตลอด ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะมาเจอตัวจริงใกล้ๆแบบนี้

ร่างบางเดินดุ่มๆไปยังสวนดอกไม้ขนาดเล็กด้วยใบหน้ายิ้มร่า สวนดอกไม้สีหวานปลูกอยู่ด้านบนของโรงพยาบาลแถมยังสามารถมองวิวได้รอบเมืองหลวงถึงสามร้อยหกสิบองศาอีก แม้ว่าจะเป็นช่วงบ่ายที่แดดจัดแต่ก็ยังมีที่นั่งพักพิงร่มรื่นสำหรับการนั่งชิลล์อีกด้วย

พู่กันไปหันไปหาคนข้างๆที่เอาแต่ยืนนิ่งสีหน้าเรียบ เธอไม่รู้ว่าเขากำลังคิดหรือรู้สึกอะไรการที่เขาพาเธอมาแบบนี้จะเป็นการสร้างความลำบากให้เขารึเปล่า

"ขอบคุณคุณมากนะคะ เอ่อ...ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะค่ะ คุณไปเถอะ" เธอไม่รู้ว่าจะพูดกับเขายังไง

"นี่คือไล่?"

"คะ? ปะเปล่านะคะ! ฉะ...ฉันแค่เกรงใจ" พู่กันปฏิเสธทันควัน เธอไม่ได้มีความคิดนั้นเลยด้วยซ้ำเธอแค่เกรงใจเขาต่างหาก

คนตัวโตเงียบไปทำให้เธอเม้มปากแน่นอย่างทำตัวไม่ถูก อยากจะตบปากตัวเองดังๆสักสองทีที่พูดอะไรไม่เข้าหูเขา การได้อยู่ใกล้ชิดคนดังที่ชื่นชอบมันก็ดีสำหรับเธอแล้ว แต่ดันมาเจอในสภาพที่ร่างกายเธอเดี้ยงแบบนี้นี่สิ

พู่กันเคยไปดูเขาที่สนามแข่งรถอยู่ครั้งสองครั้งก็รู้ว่าเขานั้นมีแฟนคลับเยอะแค่ไหน ฝีมือของเขาก็เป็นอันดับต้นๆของประเทศทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

คนตัวโตเลิกคิ้วก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่สั่นจากสายที่โทรเข้ามา เขาเดินเลี่ยงออกไปรับสายทำให้พู่กันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

"เห้อ...คนอะไรเนี่ยเย็นชาชะมัดเลย"

คนตัวเล็กเดินไปที่แปลงดอกไม้สีชมพูอ่อน เธอย่อตัวลงสัมผัสมันอย่างเบามือ อย่างน้อยเรื่องราวเลวร้ายเมื่อคืนก็จบลงแม้ว่าเธอจะต้องแลกกับการเจ็บตัวก็ตาม เธอไม่รู้ว่าคู่กรณีคือใครแต่ทางนั้นก็คงจัดการเคลียร์ให้แล้ว คงจะรีบเคลียร์ทุกอย่างเพราะไม่อยากให้เธอเปิดโปงความเลวต่างหาก

"อยู่นี่เอง พี่หาตั้งนาน" เสียงของคนที่เธอเพิ่งด่าทออยู่ในใจก็ดังขึ้นด้านหลัง คนตัวเล็กลุกขึ้นและหันไปเผชิญหน้าอย่างนึกรังเกียจ

เธอกับแบงค์รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆเธอรู้ดีว่าแบงค์นั้นรู้สึกอย่างไรกับเธอแต่เธอคิดกับเขาเป็นเพียงพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น และไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าทำเรื่องชั่วช้าอย่างเมื่อคืนกับเธอได้!

"มาทำไม!"

"หึ ปากดีจริงๆเลยนะพู่กัน อยากจะรู้จริงๆว่าปากจะหวานด้วยรึเปล่า" คนตรงหน้าเดินตรงเข้ามาหาเธอทำให้คนตัวเล็กถอยหลังหนีจนแผ่นหลังไปชนกับกำแพง

"ออกไปนะ!"

"หยิ่งจริงๆเลยนะ คิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหน"

"ถ้าพี่ไม่ออกไปพู่จะตะโกนให้คนช่วย!" หญิงสาวพยายามเอ่ยเสียงแข็งกร้าวแม้ว่าในใจจะสั่นสะท้านมากแค่ไหนก็ตาม ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนผุดขึ้นมาในหัวของเธออีกครั้ง

"เอาสิพู่...เอาเลย"

"พะ พี่แบงค์...ถอยออกไปนะ พู่จะแจ้งตำรวจจะบอกกับทุกคนว่าพี่ทำอะไรกับพู่!"

"หึ!"

หมับ!

"อ๊ะ!" คนตัวเล็กนิ่วหน้าเมื่อมือหนาบีบกรามของเธอแน่น

"ใครมันจะไปเชื่อคำพูดของพู่ หึ! อย่าโง่ไปหน่อยเลย"

"อึก! สารเลว!"

"ก็คิดเอาว่าคนอย่างพู่จะทำอะไรพี่ได้"

"แถวตลาดมีกล้องวงจรปิด ยังไงพู่ก็มีหลักฐานแน่นอน!" พู่กันตอบกลับไปเสียงแข็ง เธอจะไม่ยอมอีกแล้วในเมื่อคนตรงหน้ายังตามราวีเธอไม่เลิก

"มึงกล้ามากนะ!"

"อ๊ะ! อึก!"

พลั่ก!

อยู่ๆร่างสูงตรงหน้าพู่กันก็ถูกผลักออกไปอีกทาง คนตัวเล็กเบิกตากว้างเมื่อคนๆนั้นคือภูริ เธอคิดว่าเขากลับไปแล้วเสียอีก

"คะ...คุณ"

"มึงเป็นใครวะ!"

"..." ใบหน้าหล่อเหลาเรียบนิ่งมองคนตรงหน้าด้วยความเย็นขาแต่แฝงไปด้วยความดุดัน

"กูถามว่ามึงเป็นใคร!! เข้ามาเสือกเรื่องผัวเมียทำไมวะ!!"

"เป็นพ่อมึงมั้ง" คนตัวโตตอบกลับไปทำเอาคนตรงหน้าถึงกับเดือดดาลและทำท่าจะพุ่งตรงเข้ามาเอาเรื่อง

"นี่มึง!"

"หยุดนะ! พู่รับรองว่าครั้งนี้พี่ได้ถูกลากออกไปแน่ๆ"

"คิดว่ากูจะกลัวรึไงวะ!"

"ก็เอาสิ! ที่นี่มีกล้องวงจรปิด และภาพก็ชัดเจนว่าพี่เข้ามาหาเรื่องพู่ก่อน..."

"...และพู่จะแจ้งตำรวจเรื่องเมื่อคืนนี้ด้วย ถ้าคิดว่าพู่ไม่กล้าก็ลองดู!!"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel