BAD NIGHT - คืนร้ายพ่ายรัก | 10
“เย็นนี้ฉันไม่อยู่” ฉันพูดขึ้นเมื่อเปิดประตูห้องเขามาเจอเขานั่งอยู่กลางห้อง
“พอดีฉันก็ไม่อยู่ห้องเหมือนกัน” ฉันภาวนาว่าเขาจะไม่ไปห้องพี่พายุเหมือนกับที่ฉันจะไปเพราะสายตาของเขามันฟ้อง
“หวังว่านายจะไม่ไปที่เดียวกับฉัน”
“โทษที พอดีคืนนี้ฉันมีดูบอล” ฉันยกเลิกนัดกับแพรตอนนี้จะทันไหม คิดได้แบบนั้นฉันก็รีบกดโทรศัพท์โทรหาแพรทันที
“กูไปไม่ได้แล้ว” ฉันพูดขึ้นทันทีเมื่อแพรรับสาย
“ไปไม่ได้เหี้ยอะไรกูออกมาแล้ว รีบมาค่ะไม่เกินครึ่งชั่วโมงกูถึง” มันพูดขึ้นทันทีก่อนจะตัดสายฉันไปเสียดื้อๆ
“ฉันหวังว่านายจะไม่ลืมที่ฉันบอกเมื่อกลางวัน” ฉันพูดกับพี่คิมหันต์ที่นั่งอยู่เพื่อเป็นการย้ำเตือน
“ถ้าเธอไม่พยศ ก็จะไม่มีใครรู้เรื่องของเรา”
“เอาไงขึ้นไปเลยไหม”
“อีขิง อีขิง อีน้ำขิง”
“หะ...ห่ะ” ฉันเอ่ยขึ้นอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงของแพรตะโกนขึ้นมา
“เป็นอะไรเหม่อขนาดนี้”
“เปล่าๆ ขึ้นไปกันเหอะ” ฉันว่าขึ้นก่อนจะรีบตรงเข้าในไปที่ลิฟต์
ที่ฉันเหม่อเพราะฉันมัวแต่คิดถึงเรื่องของฉันถ้าเขามาแน่นอนเขาไม่มีทางปิดมันไว้แน่
“มึงโทรดิ” ฉันบอกแพรขึ้นทันทีส่วนมันก็กดโทรศัพท์โทรหาเจ้าของห้อง
“ไม่รับวะ”
“อีกที”
“เอากับผัวอยู่ไหมไม่รับแบบนี้อะ” แพรพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับฉันที่กำลังเอาหูแนบประตู
“มึงก็เกิน เปิดลำโพงด้วยนะเผื่อมันรับ” ฉันพูดขึ้นทันทีเพราะอยากรู้เหมือนกันที่ไม่ออกมาเปิดประตูแบบนี้กำลังทำอะไรอยู่
“อ่าาา…ช้าหน่อย” เสียงโมจิดังออกมาจากโทรศัพท์ของแพรที่กำลังถืออยู่
“ช้าเหี้ยไรของมึงอีโม มาเปิดประตูสักทีกูอยู่หน้าห้องมึง” ทันทีเมื่อโมจิพูดจบ เจ้าของโทรศัพท์อย่างแพรก็สาดคำด่าออกไป
“รอก่อน” เสียงของพี่พายุพูดขึ้นมาก่อนที่สายจะถูกตัดไป
“เขาจะปล่อยให้กูกับมึงยืนอยู่แบบนี้หรอ” แพรพูดขึ้นต่อทันทีก่อนจะลงมือเคาะประตูห้องอีกครั้ง
“ถ้าพี่พายุออกมาฆ่ามึง กูไม่เกี่ยวนะ” ฉันพูดพร้อมยกมือขึ้นเป็นการบอกว่าฉันไม่เกี่ยวและไม่รับรู้อะไร
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“อีโมจิถ้ามึงยังไม่ออกมา กูกับน้ำขิงจะเปิดเข้าไปดูหนังสดมึงกับผัว” เสียงแพรพูดตะโกนขึ้นทันที
“เบาๆ อีห่า” ฉันพูดขึ้นเพราะต่อให้ทั้งชั้นจะเป็นของพี่พายุแต่เราก็ควรเก็บเสียงไว้หน่อย
“มาทำไม” โมจิออกมาพร้อมสภาพผมยุ่งเหยิงและผ้าขนหนูพันรอบตัวผืนเดียว
“มาให้มึงเลือกเพลงไง” แพรพูดขึ้นทันที
“มึงดูเวลาบ้าง” มันพูดขึ้นพร้อมชูโทรศัพท์ให้พวกฉันดูเวลาแค่เกือบสองทุ่มมันยังไม่ดึกไหม
“ทำไมกูมาขัดเวลามึงเอากับผัวหรอ” แพรพูดขึ้นต่ออีกครั้ง
“เออ” มันตอบกลับทันที
“มึงเป็นไรอะน้ำขิง” อาการฉันออกขนาดนั้นเลยหรอที่โมจิมันทักฉันขึ้นแบบนี้
“ไม่ได้เป็นไรสักหน่อย” ฉันรีบตอบกลับทันทีโดยไม่ทำให้ตัวเองเลิ่กลั่กเพราะพวกมันจะสงสัยเอาได้
“เดี๋ยวพวกเพื่อนพี่พายุจะตามมาด้วย” แพรพูดขึ้นต่ออีกครั้งแต่มันรู้เรื่องนี้ได้ยังไง
“พวกพี่เขาตามมาทำไม” โมจิถามขึ้นอีกครั้ง
กูกับน้ำขิงมาให้มึงเลือกเพลงส่วนพี่ๆเขามาดูบอล” แพรพูดตอบกลับไปทันที
“ขึ้นมายังไงกัน” พี่พายุที่เดินออกมาถามขึ้นทันที
“หนูเก่งค่ะต้องขอโทษพี่พายุด้วยนะคะที่มาขัดจังหวะ รอบหน้าสัญญาจะบอกก่อนมา” แพรพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษส่วนฉันก็ต้องรีบยกมือไหว้ขึ้นทันที
“ได้ยินว่าพวกเพื่อนพี่จะมา” พี่พายุพูดขึ้นอีกครั้ง
“เห็นบอกว่าจะมาดูบอลและจะซื้อของกินเข้ามาด้วย ยังไงคืนนี้หนูกับน้ำขิงฝากท้องไว้ที่นี่นะคะ”
ยิ่งได้ยินแบบนี้ฉันก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรหรือแม้แต่พูดอะไรเพราะฉันกลัวว่าคนอย่างเขาจะปิดปากไม่มิดในเรื่องของเรา
“ตามสบาย ไปแต่งตัวได้แล้ว” ประโยคแรกพูดกับพวกฉันส่วนประโยคที่สองหันไปพูดกับโมจิ
เราทั้งหมดเดินเข้าห้องมาในห้องของพี่พายุหลังจากโมจิแต่งตัวเสร็จเพื่อที่จะเลือกเพลง
“เป็นอะไรก็บอกมานะ มึงเงียบแปลกๆ ตอนแรกก็บอกกูว่าจะไม่มา” แพรถามฉันขึ้นทันทีด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
กูไม่สบาย” ฉันพูดโกหกออกไปเพราะดูเหมือนอิพวกนี้จ้องจะจับผิดฉันอยู่ตลอดเวลา
“ตอแหลตอนบ่ายยังดีๆ” โมจิพูดขึ้นอย่างไม่เชื่อและฉันก็ดูออกว่ามันไม่เชื่อจริงๆเพราะหน้าตาของมันมีแต่ความสงสัย
“ตกลงเลือกเพลงได้ยัง ชาบูพร้อมกินแล้ว” พี่พายุที่เปิดประตูเข้ามาก็พูดขึ้น
ถ้าชาบูพร้อมกินแบบนี้แน่นอนว่าเพื่อนของพี่พายุต้องมากันแล้ว
“ไปค่ะ พร้อมกิน” โมจิพูดขึ้นพร้อมกับรีบลุกออกมาคนแรกตามด้วยฉันกับแพรที่เดินตามออกมา
“อีแพรมึงไปนั่งตรงนู้น” ฉันพูดขึ้นทันทีและชี้ให้แพรไปนั่งตรงที่ว่างข้างพี่คิมหันต์เพราะฉันไม่อยากนั่งข้างเขา
“กูได้ที่แล้วมึงอะไปนั่งเลย” แพรพูดขึ้นต่อพร้อมกับดันฉันไปทางที่ว่างข้างพี่คิมหันต์
“น้ำขิงทำไมมึงนั่งข้างพี่คิมหันต์ไม่ได้ นั่งๆไปเหอะเขาไม่กัดมึงหรอก” กัดแน่นอน
“กูไม่อยากนั่งตรงนี้” ฉันพูดขึ้นพร้อมแสดงออกอย่างชัดเจนว่าฉันไม่ต้องการนั่งข้างผู้ชายที่ชื่อคิมหันต์
“นั่งเถอะครับพี่ไม่กัดหรอก” เขาพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมขยับให้มีที่ว่างมากกว่าเดิม
“เป็นอะไรถึงนั่งไม่ได้” คราวนี้เป็นแพรที่พูดขึ้น
“กูนั่งก็ได้วะ” สุดท้ายฉันก็จำใจนั่งลงอย่างขัดไม่ได้เพราะทุกคนกำลังมองมาที่ฉัน
“เธอเกือบทำทุกคนไม่ได้กินเพราะความเรื่องมากของเธอ”
“เพราะฉันไม่อยากนั่งข้างนาย แค่นี้ทุกคนก็สงสัยมากพอแล้ว”
“เพราะเธอทำตัวเรื่องมากเอง”
❤️
ก็คนเขาเกลียด เขาก็ไม่อยากนั่งข้าง
