ตอนที่ 18 คนใจง่าย
EP 18
"นายไม่ได้เป็น..." นํ้าเสียงถูกกลืนหายไปในลำคอ เมื่อเจอเข้ากับสายตายากจะคาดเดาของแทนไทที่มองมา เชอร์รีนถอนหายใจออกมาหนักๆแล้วปล่อยให้ชายหนุ่มทำแผลให้
"ไม่ได้เป็นอะไร พูดให้มันจบสิ"
"ไม่พูดแล้ว นายรีบทำแผลเถอะ"
"หึ..."
มีเพียงเสียงเค้นหัวเราะตามหลังออกมา มือหนาเอื้อมไปหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาทำแผลให้เธอ จนเชอร์รีนเผลอเกร็งตัวกัดริมฝีปากแน่นความแสบจากแอลกอฮอล์ทำให้เธอต้องหันหน้าซุกเข้าอกแกร่งเรียวแขนเผลอกอดเอวสอบเอาไว้แน่นอย่างลืมตัว
"กี่ขวบแล้ว"
"นายถามฉันหรอ" เชอร์รีนตอบกลับเสียงอู้อี้
"ก็อยู่ด้วยกันสองคนให้ฉันถามใคร"
"ฉันโตแล้วนะ.."
"โตแต่อย่างอื่น นิสัยเหมือนเด็กสามขวบ" แทนไทเอ่ยด้วยนํ้าเสียงเรียบนิ่งพอทำแผลเสร็จชายหนุ่มก็วางมันลงถาดเปล่าเล็กๆ ตามด้วยผ้าพันแผลขึ้นมาแล้วดันศรีษะเธอออกจากอกแกร่ง ดวงตากลมโตจึงแอบลอบมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ริมฝีปากบางเผลอคลี่ยิ้มออกมาอย่างลืมตัว การกระทำตรงหน้ามันทำให้เธอแอบหวั่นไหวลืมความป่าเถื่อนเสียหมด จนความเหนื่อยล้าและพิษไข้ที่สะสมมาทั้งคืนเข้าเล่นงานเปลือกตาคู่สวยจึงปิดลง ใบหน้าหวานซุกเข้าอกแกร่ง ความมืดเข้าครอบงำไปในที่สุด...
"หมดฤทธิ์แล้วสินะ..." แทนไทบ่นพึมพำออกมาเบาๆแล้วตวัดอุ้มคนตัวเล็กเดินมาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงนอนที่ถูกเปลี่ยนผ้าปูแล้วในตอนเช้า ขนตาแพงอนที่โอบล้อมดวงตากลมโตทำให้ชายหนุ่มนึกอยากให้มันมองมาที่เขาเพียงคนเดียว พอสมองคิดว่าเธอมองผู้ชายใครต่อใครบ้าง ลมหายใจหนักๆก็ถูกถอนออกมา ร่างหนาเดินหยิบบุหรี่เดินออกมาจุดสูบที่นอกระเบียง พลันสายตาก็ดันไปสะดุดกับรถยี้ห้อดังที่ไม่เคยมีใครขับมาบริเวณนี้ อีกทั้งยังมีรถตู้สีดำสนิทอีกสองคนขับตามมาติดๆ สายตาคมกริบจึงหรี่มองด้วยความสงสัย...
เอี๊อด !
"รถราคาเฉียดห้าสิบล้านมันขับดีแบบนี้นี่เอง" บาสพูดออกมาในขณะที่เลี้ยวรถแลมโบว์สีเหลืองดำเข้ามาจอดในโรงรถของหอพักเล็กๆพอดี เรียกสายตาทุกคู่ให้หันมามองด้วยความสนใจ มือหนาสอดประสานหนุนท้ายทอยตัวเองด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แล้วหันไปมองคนข้างกายที่นั่งกวาดสายตาสำรวจบริเวณรอบๆอยู่
"มาคัสอยู่ที่นี้มาตลอดหลายปีงั้นหรอ" นํ้าเสียงเรียบนิ่งเอ่ยถามออกไป
"พึ่งอยู่ตอนปีหนึ่ง แต่ช่วงก่อนหน้านี้ไม่ได้พักที่นี้"
"มันดูอำนวยความสะดวกไม่ทั่วถึง" มิกซ์พูดออกมาดั่งใจคิด
"มันต้องปิดบังตัวเองไง จะทำตัวให้คนจับตามองไม่ได้"
"ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว ในเมื่อคนที่พวกเราต้องการจะปิดบังมันรู้ความจริงว่ามาคัสอยู่ที่นี้"
"หมายความว่าพี่จะให้มันย้ายไปอยู่ที่อื่นหรอ"
"มาคัสไม่ควรลำบากขนาดนี้" มิกซ์หันไปมองหน้าน้องชายแท้ๆแล้วหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวมมือหนาเปิดประตูลงจากรถคันหรูแล้วกระชับเสื้อเชิ้ตตัวเองให้เข้าที่ ตามมาด้วยบาสที่ลงจากรถมาติดๆ
"พวกนายกลับไปก่อน ถึงเวลาที่ฉันต้องการจะเรียก" มิกซ์บอกกับการ์ดชุดดำมากมายที่ยืนรายล้อมพวกเขาอยู่เป็นภาษาอังกฤษ การ์ดชุดดำชาวยุโรปมากมายจึงก้มหัวเคารพเดินหายขึ้นไปในรถตู้คันสีดำสนิทแล้วขับเคลื่อนออกไป..
"ห้องมาคัสอยู่ไหน" เขาหันไปถามกับบาส
"ตามมาก็แล้วกัน" บาสตอบแล้วเดินล้วงถุงกางเกงมาหยุดยืนที่หน้าห้องของมาคัส
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! มือหนาเคาะประตูห้องเรียกคนข้างใน
เอี๊อด ! ไม่นานเจ้าของห้องก็เดินมาเปิด สายตาหยุดมองที่มิกซ์สลับกับบาสอย่างต้องการคำตอบ
"มาทำไม" นํ้าเสียงเรียบนิ่งถามออกไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ฉันควรจะชินใช่มั้ย กับการที่นายเย็นชาขนาดนี้" มิกซ์พูดแล้วแทรกตัวเข้ามาในห้องสายตากวาดมองรอบๆเช่นเคย จนไปสะดุดอยู่ที่ร่างของเชอร์รีน แววตาต้องการคำตอบจึงหันมามองบาส แต่เขากลับยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้
"เจคส่งมาสินะ"
"ประมาณนั้น"
"แล้วที่นู้นใครดูแลเจค" แทนไทเอ่ยถาม ชายหนุ่มเดินไปหาคนตัวเล็กที่เพลียหลับไม่รู้ตัวมือหนาหยิบผ้าห่มนวมขึ้นคลุมไหล่กลมกลึงเอาไว้ทั้งร่างแล้วเดินนำสองหนุ่มมานั่งที่โซฟา
"เอเดนกับโซเฟียหน่ะ" มิกซ์ตอบแล้วหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟา
"อืม" แทนไทขานรับแล้วเบือนหน้ามองเชอร์รีนบนเตียง ปกติชายหนุ่มจะไล่มิกซ์กลับเหมือนที่เคยทำกับบาส แต่ตอนนี้เขาต้องการคนคอยคุมคนบนเตียงจึงยินดีจะให้มิกซ์อยู่
"แล้วบนเตียงนั้นคืออะไร" มิกซ์ถาม
"อะไร"
"แฟน?"
"ไม่ใช่ ก็แค่ไว้แก้ขัด"
"ปกติเอาแล้วไล่กลับไม่ใช่รึไง ทำไมคนนี้ถึงได้สิทธิพิเศษกว่าคนอื่น" บาสที่หายเข้าไปหยิบกระป๋องเบียร์ในโซนครัวเดินกลับมาพิงขอบโต๊ะหรี่ตาจับผิด
"สภาพหน้าสมเพชไง เดี๋ยวตื่นกูก็ไล่กลับแล้ว"
"หนักเลยดิ ถึงขนาดมีผ้าพันแผล" บาสยิ้มแซว
"สรุปเธอคือใคร?"
"รู้แค่ว่าอย่ายุ่งก็พอ ดูทรงคนแถวนี้จะหวงกว่าแฟนเก่าซะอีก" คำตอบของบาสยิ่งทำเอามิกซ์งงกว่าเดิม แต่ชายหนุ่มก็เลือกที่จะเงียบแล้วหันไปมองเชอร์รีน..
"หวงห่าอะไร" แทนไทตอบปัดๆ
"แล้วสาเหตุเพราะ?" บาสเลิกคิ้วถาม บีบเค้นให้แทนไทพูดออกมาให้ได้
"กูแค่สั่งสอน"
"ดูทรงคงจะเข็ดอีกยาว" บาสส่ายหัว
"ส่งคนตามประกบยัยนี้ด้วย แล้วถ่ายรูปรายงานกูตลอด.." แทนไทหันไปสั่งมิกซ์
"ทำไมต้องตามประกบ โจทย์มันน่ากลัวขนาดนั้น?"
"ไอ้ไคล์ นอกจากมันคิดจะฆ่ากูแล้ว เรื่องยัยนี้มันก็ไม่เว้น กูไม่ปล่อยมันไว้แน่" แทนไทตอบ ชายหนุ่มนิ่งเฉยมานานแล้วเพียงเอาตัวรอดไม่ได้ตอบโต้อะไร พอมาถึงเรื่องนี้เขาก็ไม่จำเป็นต้องทนอีกต่อไป...
"หื้ม? อย่าบอกนะว่ามันชอบยัยนี้" บาสเลิกคิ้วถาม
"ก็ได้แค่ชอบ เพราะอะไรที่มันเป็นของกูแล้ว คนอื่นไม่มีสิทธ์แตะต้อง" แทนไทตอบ ลำพังผู้หญิงสองคนที่เขารักสุดหัวใจก็ทิ้งเขาไปหมดแล้ว ผู้เป็นมารดาก็ตายอย่างปริศนา ส่วนแฟนคนแรกเขาก็ต้องเสียเธอไปให้อดีตเพื่อนรัก ถึงคราวของเชอร์รีนถึงเธอจะไม่ใช่คนรักแต่ร่างกายของเธอก็สามารถทำให้ชายหนุ่มมีความสุขในช่วงเวลานั้นได้
"หมายถึงร่างกายหรือหัวใจ.."
"สำหรับยัยนี้ กูไม่ได้ต้องการหัวใจ"
"ฉันเข้าใจนายนะ ว่านายเคยเสียคนที่รักไปถึงสองคน ถ้าต้องการแค่เรื่องบนเตียงจากเธอเพื่อลืมเรื่องแย่ๆ ก็ควรรักษาระยะห่างให้มากกว่านี้..." มิกซ์พูดแล้วปรายตามองเธอ
"....คนที่หวั่นไหวก่อนคงไม่ใช่ฉัน" เพราะในใจของเขาตอนนี้มันมีแค่ลูกพีช..
"ฉันแค่เตือน ส่วนเรื่องที่สั่ง เดี๋ยวจัดการให้" มิกซ์เพียงทำตามคำสั่งของแทนไท หลังจากที่เชอร์รีนตื่นขึ้นมาเขาก็ต้องส่งคนไปประกบไม่ให้เธอรู้ตัว อีกอย่างเขายังไม่แน่ใจว่าเชอร์รีนเป็นใครกันแน่ ไว้ใจได้มากแค่ไหน...
"จะว่าไปก็นานเเล้วนะ ที่มาดามจากไปอย่างปริศนา" บาสพูดขึ้น ดึงความสนใจให้แทนไทหันกลับไปมอง เรื่องการตายของไอยรา หรือ แอนนาในชื่ออังกฤษผู้เป็นมารดาของชายหนุ่มยังเป็นฝันร้ายที่ฝังอยู่ในใจมาตลอด..
"จะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกทำไม" มิกซ์หันไปพูดกับบาส ด้วยสายตาบ่งบอกว่าให้เขาหยุดพูด
"พูดเถอะ ความจริงแล้วกูก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่คิดไว้จะใช่มันไหม"
"นายคิดจะทำอะไร" ผู้ต้องสงสัยที่ทุกคนคิดเอาไว้คือคานอส...แต่ยังไม่สามารถหาหลักฐานอะไรมาเอาผิดเขาได้ อีกอย่างเจคเคยขอร้องให้ทุกคนหยุดสืบเรื่องนี้ การตายของไอยราจึงไม่กระจ่างมาถึงทุกวันนี้ "เจคเคยขอร้องว่าอย่ายุ่งเรื่องนี้"
"เจคจะยอมมันไปถึงไหน แล้วทำไมถึงไม่ยอมบอกว่าเพราะอะไรถึงได้ห้ามขนาดนั้น หรือมันมีอะไรที่ขัดแย้งกันมากกว่าผลประโยช์น?"
"....." สองพี่น้องนิ่งเงียบแล้วมองหน้ากัน
"ถ้าหาคำตอบไม่ได้ หยุดห้ามกู พวกมึงไม่รู้หรอกว่าการเกิดคำถามอยู่ในใจมาหลายปีมันอึดอัดแค่ไหน กูจะไม่ยอมทนอยู่แบบนี้อีกต่อไปแล้ว.."
"ในเมื่อห้ามอะไรไม่ได้ฉันก็จะไม่ห้ามนาย ขอแค่ระวังตัวเองดีๆก็พอ"
"หมดธุระที่จะพูดแล้วใช่ไหม"
"นายคงจะไล่พวกเรากลับสินะ"
"อืม รู้แล้วก็กลับไป"
"เฮ้อ นี้เราอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งที มึงไม่คิดจะเลี้ยงฉลองต้อนรับหน่อยรึไง"
"กูไม่มีอารมณ์" นํ้าเสียงเรียบนิ่งเอ่ยตอบแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาพาดบ่าเตรียมตัวจะเดินเข้าไปอาบนํ้า เพื่อให้ร่างกายมันผ่อนคลายและเลิกคิดเรื่องบ้าๆที่ยังคงวกวนอยู่ในสมอง
"กลับเถอะ ไว้วันหลังฉันจะมาหานายไหม่" มิกซ์พูดขึ้นแล้วหยัดกายลุกขึ้นจากโซฟา เขาไม่ได้นึกโกรธอะไรแทนไท กลับเข้าใจและปล่อยให้ชายหนุ่มได้อยู่กับตัวเอง จึงตัดสินใจกลับ
"โอเค กลับก็กลับ"
ปั้ง ! ไม่ทันที่สองหนุ่มจะได้บอกลาก่อนกลับคอนโด ร่างหนาก็หายเข้าไปในห้องนํ้าพร้อมปิดประตูเสียงดัง
แทนไทปล่อยให้สายนํ้าจากฝักบัวไหลชะโลมร่างกาย เปลือกตาปิดลงแล้วนึกย้อนเหตุการณ์ตอนที่ไอยรายังอยู่เขาเคยมีความสุขมากกกว่านี้ แล้วมันควรจะเป็นแบบนั้นต่อถ้าเธอไม่จากไปก่อน ยิ่งคิดในใจมันก็ยิ่งห่อเหี่ยวคิดถึงผู้เป็นแม่สุดหัวใจ...
หลายนาทีต่อมา...
-เชอร์รีน-
แกร๊ก ! ทันทีที่ได้ยินเสียงประตูห้องนํ้าเปิดออกฉันก็ต้องรีบปิดเปลือกตาลงทันที ที่จริงแล้วฉันแค่เผลอหลับไม่กี่นาทีก็รู้สึกตัวขึ้นมาก่อนเพราะเสียงคนคุยกัน ใช่...ฉันได้ยินมันดีทุกอย่างทุกคำที่พวกเขาพูดกัน ถามว่าเจ็บไหม ก็เจ็บ แต่ใจฉันมันไม่จำ สิ่งที่เขาทำคือมีฉันไว้เป็นที่ระบายตอนมีเรื่องแย่ๆ ไม่ได้ต้องการหัวใจ ต้องการแค่ร่างกาย ทุกคำพูดเหมือนฉันไม่มีความรู้สึกจนนํ้าตาแห่งความน้อยใจมันไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้..
"อื้อ.." ฉันแกล้งครางออกมาเหมือนคนนอนตื่นไหม่แล้วกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง ก่อนที่สายตาคมกริบจะหันมามอง ฉันจึงลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายตัวเองมาคล้องบ่า
"จะไปไหน?"
"ฉัน...อยู่ห้องนายนานแล้ว"
"นั่งลง" คนตรงหน้าฉันกดเสียงตํ่าออกคำสั่ง
"หมดหน้าที่ของฉันแล้วนิ นายจะให้ฉันอยู่ต่อเพื่ออะไร" ฉันตอบพร้อมกับเบือนหน้าหนี ทุกคำพูดมันยังวกวนอยู่ในสมองอยู่เลย พอเห็นแบบนั้นร่างหนาที่สภาพผมเปียกชุ่มก็เดินมารั้งร่างฉันจากด้านหลังเข้าไปกกกอดเอาไว้ กลิ่นกายหอมๆก้มลงมาที่ลำคอฉัน..
"ก็ไม่ให้ไปไง.."
"นายอย่าทำแบบนี้ได้ไหม.." ฉันใจอ่อนซํ้าแล้วซํ้าเล่าทุกที..
"หรือจะแอบไปหาใคร.." นํ้าเสียงแหบพร่ากระซิบถาม
"ฉันต้องยอมตอบนายทุกอย่างหรอ"
"แล้วทำไมถึงไม่ยอมเหมือนตอนอยู่บนเตียงบ้าง...น่ารักกว่าเยอะเลย"
.
.
.
น้องยอมหน่อยนี้เอาใหญ่เลยนะ!
Next..
"ตอนนี้ฉันสนคนตรงหน้ามากกว่า.."
