บทที่ 13 ฝากดูแล
"พี่เรย์..."
นริสาตกใจที่เห็นคิเรย์ยืนรอเธออยู่ที่หน้าห้องน้ำ เขามองเธอพลางยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเดินเข้ามาหา ชายหนุ่มหยุดมองเธอ ยกมือขึ้นเกลี่ยปอยผมที่ติดใบหน้าสวยออก
"สวยจังเลยค่ะ"
คิเรย์ชม แต่คำชมนั้นไม่ได้ทำให้นริสาดีใจเลยแม้แต่นิด เธอน้ำตารื้นขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นหน้าเขา
"พี่เรย์...."
นริสาเรียกชื่อเขาก่อนจะโผเข้ากอดชายหนุ่มแน่น น้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมาจากดวงตาสวยอีกครั้ง ไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกอะไร เสียใจ รู้สึกผิด หรืออะไรกันแน่
"ร้องไห้ทำไมคะ? วันนี้วันดีนะ ไม่ร้องไห้สิ"
คิเรย์ยิ้มพลางลูบหัวหญิงสาวที่ซบอยู่ที่อกเขา นริสาสะอื้นหนักขึ้นเมื่อสัมผัสถึงท่าทีอ่อนโยนของคิเรย์ แขนเล็กกระชับกอดร่างสูงแน่นเหมือนกลัวว่าเขาจะหนีไป
"ไม่ร้องนะคะ เดี๋ยวเครื่องสำอางเลอะนะ เจ้าสาวหน้าเลอะได้ไงล่ะ หืม?"
"เจ้าสาวร้องไห้วันแต่งงานก็เรื่องปกติอยู่แล้วนี่คะ..."
นริสาพูดพลางสะอื้น คิเรย์ยิ้มกับเสียงดื้อดึงนั้น เสียงที่อาจจะไม่ได้พูดคำว่ารักให้เขาฟังทุกวันอีกแล้ว...
"พี่ไม่ได้มาเพื่อให้สาร้องไห้นะ พี่มาเพราะอยากมาอวยพรให้สานะคะ อยากให้สายิ้มมากกว่านะ ไม่ร้องสิ"
คิเรย์บอก ริสาคลายกอดเขาออกมาเพื่อเช็ดน้ำตา กลัวจะทำเครื่องสำอางเลอะสูทตัวสวยที่คิเรย์สวมอยู่
ชายหนุ่มเช็ดน้ำตาที่เลอะใบหน้าสวยตรงหน้าอย่างอ่อนโยน สายตาเก็บรายละเอียดคนตรงหน้าเหมือนกับอยากจะจดจำเธอตลอดไป ราวกับว่าเขาจะไม่ได้เห็นหน้าเธออีกแล้ว
เสียงดนตรีภายในงานดังออกมาถึงตรงที่ทั้งสองยืนอยู่ คิเรย์วางช่อดอกไม้ไว้ที่โต๊ะใกล้ ๆ ก่อนจะขยับเข้าไปหาร่างบาง
"เต้นรำกันไหมคะ...?"
คิเรย์ถาม นริสาหน้างงทันที
"สาเต้นรำไม่เป็นนะคะพี่เรย์"
"เดี๋ยวพี่สอน"
คิเรย์บอกก่อนจะใช้สองมือจับที่เอวบาง หญิงสาวใช้ทั้งสองมือจับที่บ่าเขา ก่อนที่ทั้งสองจะขยับตัวช้า ๆ ไปตามจังหวะเพลง
สายตาทั้งคู่จ้องมองกันเหมือนกับไม่ได้เห็นคนตรงหน้ามานานแสนนาน แต่จริง ๆ แล้วต่างฝ่ายต่างเพียงแค่ต้องการจดจำคนตรงหน้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะหลังจากวันนี้เป็นต้นไป นริสาจะกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของศิวาแล้ว แม้เธอจะคบกับคิเรย์มาก่อน และต่อให้คบกันมานานแค่ไหนก็ตาม...ก็ต้องแพ้คนที่ถูกต้องอยู่ดี
ไม่รู้เนิ่นนานเท่าไหร่ที่ทั้งคู่ต่างมองกันและกัน มือหนาเชยคางมนขึ้นมาก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนใบหน้าเข้าไปหาหญิงสาวอย่างช้า ๆ ชายหนุ่มประกบริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากบางนุ่ม ดวงตาของทั้งคู่หลับลงเพราะต้องการจะซึมซับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหลังจากนี้คิเรย์คงไม่มีสิทธิทำมันอีกแล้ว...
มือบางจับต้นแขนทั้งสองข้างของชายหนุ่มแน่น สัมผัสจากริมฝีปากของคิเรย์ทำเอาเธออยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง
ทำไมถึงไม่เป็นงานแต่งงานของเธอกับคิเรย์.... ทำไมถึงไม่ใช่เขาที่เป็นเจ้าบ่าวของเธอในวันนี้
คิเรย์ถอนริมฝีปากออกมาอย่างช้า ๆ เขายิ้มออกมาพลางจับแก้มนุ่มตรงหน้า
"พี่มีความสุข...ถ้าเห็นสามีความสุขนะคะ ถ้าสาไม่มีความสุข พี่ก็ไม่มีความสุขไปด้วย เพราะงั้นสาต้องยิ้มเยอะ ๆ มีความสุขเยอะ ๆ นะรู้ไหม" คิเรย์บอก "สาเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเท่าที่พี่เคยเห็นมาเลยค่ะ"
"ถ้าพี่เรย์เป็นเจ้าบ่าว พี่เรย์ก็คงเป็นเจ้าบ่าวที่หล่อที่สุดเหมือนกันค่ะ"
"จะได้เป็นรึเปล่าไม่รู้..."
คิเรย์ยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขาทำให้ริสารู้สึกแย่ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งคิเรย์ก็พอรู้ เขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องพูด
"พรุ่งนี้พี่ต้องไปทำงานที่ญี่ปุ่น คงไปหลายวันเลย ยังไงพี่ขอให้สามีความสุขมาก ๆ กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้นะคะ ดูแลตัวเองด้วย พี่มาคอยตามใจตลอดเวลาไม่ได้แล้วนะ"
"สัญญานะคะว่าพี่เรย์จะส่งข้อความมาหาสา จะโทรมาหาสา ถ้ามีเวลาเราจะมาเจอกันเหมือนเดิม สัญญานะคะ"
"โห นี่เท่ากับพี่เป็นชู้กับเมียชาวบ้านเลยนะ ฮ่ะๆ"
คิเรย์หัวเราะ แต่นริสาหน้ามุ่ย
"ไม่ใช่เมียนะคะ อาจจะแค่ทางนิตินัย แต่ทางพฤตินัยไม่ใช่สักหน่อย"
"จะทางไหนก็เถอะค่ะ สังคมรู้ไปแล้วว่าสาแต่งงานกับศิวา เพราะฉะนั้นสาคือภรรยาเขา ถึงพี่จะมาก่อนก็จริง แต่ถ้าพี่ยังคุย ยังส่งข้อความ ยังบอกรักผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว พี่ก็เป็นชู้ดี ๆ นี่เอง"
คิเรย์พูดน้ำเสียงจริงจัง เพราะเขามองว่ามันไม่ได้มีทางไหนดีเลยถ้าสังคมรู้ขึ้นมาว่าขาแอบคุยกับนริสา ดีไม่ดีอาจจะขุดคุ้ยเรื่องการแต่งงานครั้งนี้ของเธอว่าเป็นการแต่งงานลวงโลก มีแต่จะเสียหายกันทุกฝ่าย
นริสานิ่งไปกับสิ่งที่คิเรย์พูด เธอคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเลยในเมื่อเธอกับคิเรย์คบกันก่อน รักกันก่อน แต่เธอดันตัองมาแต่งงานกับศิวา คิเรย์เลยต้องกลายเป็นคนที่ถอยออกไป ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด...
"ไม่ต้องห่วงนะคะ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมีเหตุผลเสมอ ถ้ามันใช่ก็คือใช่ ถ้ามันไม่ใช่ก็ไม่ใช่ เวลาจะให้คำตอบกับทุกอย่างเอง" คิเรย์ยิ้มพลางจัดชุดให้หญิงสาว "เอาล่ะ เจ้าสาวกลับเข้างานได้แล้วค่ะ เดี๋ยวเขาคิดว่ามีคนลักพาตัวเจ้าสาวกันพอดี"
"แล้วพี่เรย์ล่ะคะ?"
"พี่คงต้องกลับก่อนค่ะ พรุ่งนี้พี่บินแต่เช้าเลย"
"งั้นสาเดินไปส่งที่รถนะคะ"
"อย่าเลยค่ะ เดินลำบากจะตาย ดูสิ ใส่ส้นสูงซะขนาดนี้ ชุดยาวพะรุงพะรังอีก ส่งพี่แค่นี้ก็พอนะ"
คิเรย์บอกอย่างเป็นห่วง เขารู้ว่าคนตัวเล็กนี่ไม่ค่อยถนัดกับส้นสูง ใส่ทีไรบ่นเมื่อยบ่นปวดเท้าตลอด เรื่องเดินไม่ต้องพูดถึง แค่ใส่ยืนเฉย ๆ ได้ก็เก่งมากแล้ว
"สา...รักพี่เรย์นะคะ"
นริสาบอก พาเอาน้ำตารื้นขึ้นมาอีกครั้ง คิเรย์กลืนก้อนสะอึกที่จุกอยู่ที่ลำคอก่อนจะยิ้มออกมาบาง ๆ
"พี่ก็รักสาค่ะ คนเก่งของพี่"
พูดจบก็ดึงเธอเข้าไปกอดแน่นเพราะกลัวจะร้องไห้ออกมาให้เห็น ชายหนุ่มพยายามไล่น้ำตาที่ทำเอาขอบตาเขาร้อนผ่าว เขาจะต้องไม่ร้องไห้ให้ริสาเห็นเด็ดขาด...
นริสาหลับตา พยายามซึบซับสัมผัสนี้ของคิเรย์ไว้ ไม่รู้จะได้กอดเขาอีกเมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าถึงมีโอกาสได้ทำ เธอก็ไม่รู้ว่าควรทำหรือเปล่า
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชายหนุ่มผละออกจากอ้อมกอดช้า ๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ
"ครับ ... โอเคครับ เดี๋ยวผมออกไปแล้ว"
คิเรย์พูดใส่โทรศัพท์ก่อนจะวางสายไป ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะยิ้มให้หญิงสาวอีกครั้ง
"รถมารอแล้วค่ะ พี่ต้องไปแล้ว"
คิเรย์พูด หญิงสาวถอนหายใจออกมาก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ
"พี่เรย์ดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ ยังไงสาก็ยังเป็นห่วงพี่เรย์เหมือนเดิมนะคะ"
"สาก็เหมือนกันนะ ถ้ามีอะไรไม่สบายใจบอกพี่ได้นะคะ พี่ยังอยู่ข้าง ๆ สาเสมอนะ"
ร่างสูงจับแก้มคนตรงหน้า นริสายกมือขึ้นจับมือนั้นไว้ เธอไม่อยากให้เขาไปเลย....
"พี่ไปก่อนนะคะ"
คิเรย์บอกครั้งสุดท้ายก่อนจะหยิบช่อดอกไม้ที่ได้รับจากนริสาในงานแล้วหันหลังเดินออกมาทันที ชายหนุ่มแหงนหน้าขึ้นพลางกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
อย่าร้องนะคิเรย์ อย่าร้อง....
คิเรย์รีบเดินไปที่รถ เขาอยากจะหนีออกจากที่นี่ให้ไวที่สุด ถ้าอยู่ต่อเขาต้องร้องไห้แน่ ๆ ภาพนริสาในชุดเจ้าสาวสวยมากสำหรับเขา แต่ก็ทำให้เขาเศร้ามากเช่นกัน
"คุณคิเรย์ครับ"
เสียงเรียกคิเรย์ดังขึ้น ทำเอาชายหนุ่มหยุดเดินแล้วหันไปมอง คนที่เรียกเขาเดินเข้ามาหาช้า ๆ
"ผมขอคุยด้วยหน่อย"
ศิวาบอก สีหน้าของเขาดูเศร้าเล็ก ๆ
ใช่...เขาเห็นทุกอย่าง ทั้งจูบและกอดที่ทั้งสองมีให้กัน เขาได้ยินทุกคำที่ทั้งสองพูด
แปลกมากที่มันทำให้ใจเขารู้สึกหวิวจนเกือบจะหมดแรงได้ขนาดนี้...
"ครับ?"
คิเรย์รับคำก่อนจะเดินเข้าไปหาศิวา ในใจก็แอบหวั่น ๆ กลัวจะโดนศิวาต่อยคืนจากวันนั้นเหมือนกัน
"ผมอยากบอกคุณว่า...คุณไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ถ้าเรื่องทุกอย่างเงียบสนิทเมื่อไหร่ ผมจะหย่ากับริสาทันที และผมกับริสาเรามีข้อตกลงกันไว้ ผมจะไม่ทำอะไรเธอ คุณไม่ต้องเป็นห่วง"
ศิวาพูดน้ำเสียงจริงจัง จากสิ่งที่เห็นทำให้รู้ว่าเขาไม่ควรรั้งริสาไว้นาน อยู่กับเขาเธอคงไม่มีความสุขเท่าอยู่กับคิเรย์แน่นอน
"ขอบคุณนะครับ แต่คุณก็ไม่ต้องกังวลเหมือนกัน ผมเองก็มีชื่อเสียงที่ต้องรักษา คุณเองก็มีภาพลักษณ์บริษัทให้ต้องดูแล และที่ผมห่วงที่สุดคือริสาและครอบครัวของเธอ ผมจะไม่ทำอะไรให้เธอเสื่อมเสียแน่นอน การที่ริสาเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณก็เท่ากับว่าผมคือคนนอก ผมจะไม่ทำอะไรที่มันทำลายครอบครัวคนอื่นหรอกครับ"
คิเรย์บอก และเขาคิดแบบนั้นจริง ๆ เขาจะไม่ทำลายนริสาโดยการแอบคุย แอบเจอ แอบกอด แอบจูบกันเหมือนชู้รักในละคร ถึงเขาเองจะรู้อยู่แก่ใจว่าเขาทั้งสองยังรักกัน แต่ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเสี่ยงทำลายอนาคตของทุกคนแบบนั้น
"แต่ริสารักคุณมากนะ เขาแคร์ความรู้สึกคุณมากด้วย อยู่กับผมเขาคงไม่มีความสุขเพราะมันคือการแต่งงานแบบคนไม่ได้รักกัน..."
ศิวาพูดเสียงเศร้า คิเรย์หัวเราะออกมาเบา ๆ ศิวาหันไปมองอย่างสงสัย
"คุณจำวันที่ผมต่อยคุณได้ใช่ไหมครับ?" คิเรย์ถาม ศิวาพยักหน้า "วันนั้นริสาไม่ได้วิ่งมาตามผม แต่เธอเลือกที่จะเข้าไปดูแลคุณที่โดนต่อย ผู้หญิงน่ะไม่ได้ซับซ้อนหรอกนะครับ ห่วงใครมากกว่าก็อยากดูแลคนนั้น แค่นั้นเอง"
คิเรย์บอกด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ แม้สายตาจะเศร้าอย่างเห็นได้ชัด เขาก็พอสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างตั้งแต่วันนั้นแล้วแต่แค่ยังไม่แน่ใจ และยังไม่อยากเชื่อว่ามันคือความเปลี่ยนแปลงจริง ๆ
"คงเป็นมารยาทมากกว่าครับ แล้วริสาคงรู้ว่าคงหาทางอธิบายกับคุณได้..."
"เรื่องงานแต่งนี้อีก ผมว่าแค่ไม่กี่อาทิตย์คุณคงรู้แล้วล่ะว่าริสาดื้อและเอาแต่ใจแค่ไหน ถ้าไม่อยากแต่ง เอาอะไรมาลากเธอก็ไม่แต่งหรอกครับ"
"ผมว่าริสาคงเห็นแก่พ่อแม่มากกว่า คงปฏิเสธไม่ได้น่ะครับ เพราะพ่อแม่เราสองคนก็เป็นเพื่อนกัน น่าจะกลัวเสียผู้ใหญ่กันด้วย"
ศิวาพยายามแก้ เขาไม่อยากเข้าข้างตัวเองมากว่าริสาเองก็รู้สึกอะไรเหมือนกัน เพราะเขาเองก็จะได้ห้ามตัวเองไม่ให้คิดอะไรมากไปกว่านี้
"ถ้าคุณไม่เชื่อสิ่งที่ริสาแสดงออกก็ไม่เป็นไรครับ เชื่อความรู้สึกตัวเองก็ได้ ผมเห็นสายตาคุณที่มองริสานะ" คิเรย์พูด ทำเอาคนฟังคิ้วขมวด "...มันคือสายตาเดียวกับที่ผมมองเธอ"
"ผม...ผมว่า..."
ศิวาอึกอัก แก้ตัวให้ตัวเองไม่ถูก คิเรย์พูดต่อ
"แล้วข้อสุดท้าย คนไม่รู้สึกอะไรต่อกัน เขาไม่จูบกันหรอกนะครับ"
"แต่...ริสาจูบคุณ..."
"แต่คุณเองก็จูบริสาเหมือนกัน ผมถึงรู้ไง ว่าคุณรู้สึก..."
สิ่งที่คิเรย์พูดทำเอาศิวาตกใจกับตัวเอง คิเรย์เป็นคนที่สองแล้วที่พูดแบบนี้ เหมือนกับที่พ่อเขาบอกว่าเขากำลังตกหลุมรัก
นี่เขารู้สึกอะไรกับริสาจริง ๆ หรือ...?
"แต่...คุณไม่ต้องกลัวหรอกครับ ถึงผมจะรู้สึกจริง ๆ แต่ริสาก็รักคุณมาก เขาคงไม่รู้สึกอะไรหรอก..."
"เวลาจะเป็นคำตอบให้ทุกอย่างเองครับ" คิเรย์บอกพลางตบแขนศิวาเบา ๆ "ยังไงผมก็ต้องฝากคุณดูแลยัยตัวแสบแทนผมด้วยนะครับ ผมคงไม่มีโอกาสแล้ว" เขาพูดต่อก่อนจะก้มมองนาฬิกาข้อมือ "ผมไปก่อนนะครับ"
คิเรย์ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเดินออกไป ศิวายืนนิ่งมองตามไป สมองคิดทบทวนกับสิ่งที่คิเรย์พูดทั้งหมด
ถึงเขาจะรู้สึก แต่หากนริสาไม่รู้สึกมันก็คงไม่มีประโยชน์อะไร อีกอย่างข้อตกลงทุกอย่างก็ยังมี เขาคงฝ่าฝืนอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คงต้องรอวันที่เรื่องทุกอย่างเงียบ แล้วจัดการเรื่องหย่าให้นริสาได้อยู่กับคิเรย์อย่างที่เธอต้องการจริงๆ...
