ตอนที่4 ไฟสวาท
ณ สถานบันเทิงหรูย่านใจกลางเมืองที่ผู้คนหนุ่มสาวนิยมออกมาท่องราตรีที่นี่ และคืนนี้ไอรดาก็เลือกที่จะนัดเพื่อนมาดื่มในสถานที่นี้ด้วยเหมือนกัน เพราะเธอเครียดเรื่องที่ทุกอย่างไม่เป็นดั่งหวัง ไหนช่วงนี้จะถูกสามีหมางเมินไม่พอ เงินที่คิดว่าจะได้เอามาลงทุนทำธุรกิจก็ยังไม่ได้อีก
“ฉันมีอะไรจะให้แกดู”
“อะไร” ไอรดาสะดุ้งเฮือกขณะกำลังนั่งดื่ม เพราะจู่ๆ วาวาเพื่อนรักเพื่อนสนิทของเธอก็พุ่งพรวดเข้ามานั่งข้างๆ และยื่นมือถือใส่ในมือของเธอเอาไว้
“ดูสิ”
ไอรดาตาเบิกตาโพลงเพราะรูปในมือถือของวาวาที่โชว์หลาตรงหน้าของเธอคือรูปของวีรพงษ์กับผู้หญิงคนอื่นและมันก็ไม่ใช่แค่รูปเดียวเสียด้วย
“แกเห็นที่ไหน แล้วเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ฉันไม่ได้เห็น เพื่อนพี่สาวฉันเป็นคนส่งมาให้ ผัวแกพาผู้หญิงคนนี้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารเพื่อนพี่ฉันทุกอาทิตย์เลย ตอนแรกพี่ฉันก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องนี้แต่เห็นว่ามันบ่อยเกินก็เลยให้ฉันมาบอกกับแก” วาวาเพิ่งๆได้เห็นรูปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้เหมือนกัน
“ถึงว่าล่ะ เดี๋ยวนี้ทำท่าทางหงุดหงิดใส่ฉันตลอด” ไอรดานั่งกำมือแน่นจนเล็บสวยของเธอแทบจะจิกเข้าเนื้อของตัวเอง เพราะพอจะรู้สาเหตุที่สามีหมางเมินตัวเองแล้ว เธอให้โอกาสวีรพงษ์มาครั้งแล้วครั้งเล่าจนตัวเองดูเป็นคนโง่และครั้งนี้เธอจะไม่ยอมอีกต่อไป
ไอรดาเดินเข้าบ้านมาเห็นวีรพงษ์นั่งดื่มอยู่กับเพื่อนฝูงกลุ่มใหญ่ ท่าทางของเขาตอนนี้ดูสนุกสนานจนเธออดหมั่นไส้ไม่ได้ ทำความผิดปกปิดเธอเรื่องผู้หญิงแล้วยังมีหน้ามาลอยหน้าลอยตามีความสุขไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“อีนี่เป็นใคร?” เธอพุ่งเข้ามาโชว์รูปผู้หญิงที่กลางวงสังสรรค์ของวีรพงษ์จนเหล่าหนุ่มๆ ที่เฮฮากันอยู่ต่างก็นิ่งเงียบไปตามๆ กัน
“เอารูปพวกนี้มาจากไหน” วีรพงษ์รีบลากไอรดาไปคุยกันที่หลังบ้าน
“ถามว่ามันเป็นใครก็ตอบมาสิ เมียน้อยใช่ไหม?” ไอรดาเริ่มสติหลุดอาละวาดลั่นบ้าน
“มันมีเรื่องอะไรกันวะ”
“ช่างแม่งเหอะ ดื่มต่อดีกว่า สองคนนี้มันก็ทะเลาะกันประจำอยู่แล้ว” เพื่อนๆ ในกลุ่มต่างไม่สนใจ และไม่คิดที่จะห้าม เพราะเห็นเป็นภาพคุ้นชินที่ไอรดาและวีรพงษ์ทะเลาะกัน
“อย่าทำตัวงี่เง่าได้ไหมวะ” วีรพงษ์ยกมือเท้าเอวเบือนหน้าหนีภรรยาเพราะไม่อยากจะอธิบายอะไรกับเธอทั้งนั้น
“ถูกนอกใจจะไม่ให้ไองี่เง่าได้ยังไง” ไอรดากระชากเสื้อของวีรพงษ์จนแทบขาด
ฟึ่บ... “อ๊าย...” เธอถูกสามีผลักลงไปกองกับพื้น
“ก็น่ารำคาญแบบนี้ไงถึงไม่อยากอยู่ด้วย จะไปไหนก็ไป ไป๊...”
“กล้าไล่ไอเหรอฮะ...”
“เอะอะโวยวายอะไรกัน” ปานวาดกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกมาปรามสองสามีภรรยาเพราะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจนทนไม่ไหวอีกต่อไป
“ก็ลูกชายแม่มันมีเมียน้อย”
“โอ้ย... มันก็เรื่องปกติของผู้ชาย จะอะไรนักหนา” ปานวาดส่ายหัวตีสีหน้าไม่ใส่ใจกับเรื่องที่รับรู้
“แสดงว่าแม่ก็รู้มานานแล้วเหรอ” พฤติกรรมของแม่สามีทำไอรดาตกใจเข้าไปอีก ยิ่งได้ฟังเช่นนี้ก็ยิ่งรู้ว่าเธอไม่ได้รับความสำคัญและให้เกียรติอะไรกับทั้งสามีและแม่สามีแม้แต่ติดเดียว
“ปล่อยฉันนะ” ปานวาดที่เห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีจึงรีบปลีกตัวหมายจะเดินหนี แต่ถูกไอรดากระชากแขนเอาไว้
“ไอถามว่าแม่รู้มานานแล้วเหรอ”
“ปล่อยแม่กู แล้วมึงก็ออกไปให้พ้นหน้ากูด้วย” วีรพงษ์รีบมากระชากไอรดาออกให้พ้นตัวแม่ของเขา ก่อนจะตวาดเธอดังสนั่นอีกครั้ง
“กูอุตส่าห์ร่วมมือเชื่อฟังพวกมึงทุกอย่าง ได้... พวกมึงทำกับกูแบบนี้ก็ได้ รับผลที่กูจะเอาคืนด้วยก็แล้วกัน” ไอรดาน้ำตาตกในเธอยืนชี้หน้าด่าทอสองแม่ลูกเสียงสั่น เธอจะไปให้พ้นจากที่นี่ก็ได้ แต่คนที่ทำไม่ดีกับเธอจะต้องได้รับบทเรียนที่สาสมกับที่ทำกับเธอเอาไว้
“พรุ่งนี้เราก็ต้องกลับกันแล้ว สามสี่วันที่ผมพาคุณเที่ยวมีความสุขหรือเปล่าครับ” มานูแอลเดินเข้ามาสวมกอดเจ้าเอยที่กำลังยืนกอดอกมองท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินอยู่ด้านหน้าเรือยอร์ชลำขนาดกลาง มานูแอลตั้งใจจบทริปฮันนีมูนสั้นๆ โดยการพาเจ้าเอยมาดินเนอร์ที่กลางทะเล เพราะสามสี่วันที่ผ่านมาเขาเอาแต่กกเธออยู่ในโรงแรมหรูริมทะเลและพาเธอไปร้านอาหารไม่กี่ที่เท่านั้น
“ค่ะ” หญิงสาวในชุดเดรสเกาะอกสีขาวหันมาส่งยิ้มหวานให้กับคนเป็นสามี
“กลับจากเที่ยวครั้งนี้คุณเตรียมตัวเที่ยวต่อเลยนะครับ ผมวางแพลนเอาไว้ว่าอาทิตย์หน้าจะพาคุณไปอิตาลี ผมอยากให้คุณไปเห็นบ้านที่ผมอยู่ตอนเด็กๆ โรงเรียนที่ผมเรียน แล้วก็พาคุณไปเจอเพื่อนๆ ผมด้วย คุณเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของผมแล้วนะครับ”
“ขอบคุณที่ให้เกียรติเอยขนาดนี้นะคะ” สามสี่วันที่ผ่านมาเธอยอมรับว่าเธอรู้สึกโชคดีที่มีมานูแอลคอยมาดูแล เธอยกให้เขาเป็นสามีที่ทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องตรงไหน แต่ก็อย่างว่ายิ่งเขาดีกับเธอมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเพิ่มความทุกข์ในใจให้เธอได้มากเท่านั้น
“คุณเป็นคนที่ผมเลือกให้เป็นภรรยา ให้เป็นแม่ของลูก ผมก็ต้องให้เกียรติคุณให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ” ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าสวยหวานด้วยความหลงไหลก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากบางที่แสนยั่วยวน เขากอดรัดเอวบางเอาไว้แน่นขณะสอดแทรกลิ้นร้ายตวัดฉกชิมความหวานทั่วโพรงปากนุ่ม
เมื่อไฟสวาทเริ่มโหมระหน่ำแทรกซึมทั่วทั้งร่างกายของชายหนุ่มได้ เขาก็รับรวบอุ้มภรรยาคนสวยลงมาที่ห้องนอนใต้ท้องเรือ
“ผมรักคุณที่สุดเลยครับ” สิ้นเสียงทุ้มกระเส่า ชายหนุ่มก็เร่งมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาและเธอออกไปกองข้างเตียงอย่างรวดเร็ว เมื่อผิวเนื้อสัมผัสแนบชิดกันได้มานูแอลก็ไล่โลมเลียผิวเนื้อนุ่มนิ่มอย่างคนกระหาย เขาดูดดึงขบกัดเนื้อเนียนเบาๆ จนมีรอยแดงระเรื่อ
คนที่ถูกเล้าโลมจนเริ่มมีความเสียวซ่านนอนหลับตาพริ้มมือไม้จิกอยู่กับหมอนนุ่มไม่ยอมปล่อย ยอมรับว่าสัมผัสเล้าโลมของมานูแอลช่างน่าพิศวง เพราะไม่ว่าจะกี่ครั้งที่เขาพาเธอขึ้นเตียง เธอก็เคลิบเคลิ้มตามอารมณ์ของเขาไปได้ง่ายดายทุกครั้ง
