บท
ตั้งค่า

Prologue

ไนท์คลับใต้ดินคือแหล่งซ่องสุมอบายมุขชั้นเลิศกลางมหานครนิวยอร์กของบรรดาหนุ่มสาวไฮโซ โดยเฉพาะพวกลูกหลานคนมีตังค์เพราะที่นี่ต้อนรับแต่ลูกค้ากระเป๋าหนักและสมาชิกวีไอพีที่มีปัญญาจะจ่ายเงินแลกกับความสนุกสุดเหวี่ยงเท่านั้น แน่นอนว่านักศึกษาปริญญาโทกระเป๋าแห้งอย่างผมไม่มีทางได้เข้าไปในไนท์คลับพวกนี้แน่ถ้าหากว่าผู้หญิงที่ผมกำลังคั่วอยู่ด้วยไม่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของที่นี่

ผมลงจากแท็กซี่ มาหยุดยืนอยู่หน้าทางเข้าไนท์คลับสุดหรูที่มีการ์ดร่างยักษ์หลายคนเฝ้าอยู่ มือสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหาเอมิเลียให้ออกมารับ ยืนรอได้ไม่นาน สาวผมบลอนด์ในชุดเดรสสีดำก็พาเรือนร่างอวบอัดออกมาให้เห็น เธอตรงเข้ามากระโดดกอดผมทันทีพร้อมกับหอมแก้มอีกฟอดใหญ่

“คิดถึงจังเลยเควิน นึกว่านายจะไม่ยอมมาหาฉันซะแล้ว เห็นชวนทีไรก็บ่ายเบี่ยงตลอด”

เควิน คือชื่อภาษาอังกฤษที่เพื่อนฝรั่งเรียกกัน จริงๆ แล้วผมชื่อ กวินทร์ ฟังดูก็รู้เลยว่าเป็นคนไทย และที่ผมมาโผล่หัวอยู่ในเมืองฝรั่งแบบนี้ก็เพราะผมมาเรียนต่อปริญญาโทในคณะนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก แต่การมาเรียนอย่างเดียวมันทำให้ผมเครียดจนแทบเป็นบ้า ดังนั้นเป้าหมายในการมานิวยอร์กของผมจึงเปลี่ยนไปตั้งแต่เดือนแรกที่มา มันไม่ได้มีแค่การเรียนอย่างเดียว แต่ยังมีปาร์ตี้จัดหนักและคั่วหญิงไม่เลือกหน้าอีกด้วย ความจริงแล้วผมก็ทำแบบนี้มาตั้งแต่อยู่ไทย ทว่าพอมาเจอเพื่อนสนิทชาวจีนอพยพที่เป็นคอปาร์ตี้เหมือนกัน ชีวิตประจำวันเหมือนตอนอยู่เมืองไทยก็หวนกลับมาอีกครั้ง

“บอกแล้วนี่ว่าฉันติดทำโปรเจ็กต์ก่อนปิดเทอมกับเพื่อน ไม่เข้าใจหรือไง” ผมถามเสียงหวาน แต่กลับทำให้เอมิเลียยิ้มแห้งขึ้นมา

เธอรู้ดีว่าผมเป็นพวกไม่แคร์ใครนัก ถ้าหากอยากควงผมนานๆ ก็ต้องยอมผม เพราะไม่อย่างนั้น ผมก็พร้อมจะสลัดเธอทิ้งแล้วไปคั่วกับคนใหม่ทันที ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่อยากเสียผมไปแน่

แล้วก็จริงอยู่ที่ผมเป็นคนเอเชีย ซึ่งดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่สเป็กของสาวฝรั่งเท่าไหร่ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมถึงฮ็อตในหมู่พวกเธอนัก อาจเป็นเพราะผมมีรูปร่างสูงไม่แพ้ชาวตะวันตก ทว่ามีใบหน้าอ่อนหวานและคมเข้มในขณะเดียวกันด้วยก็ได้มั้ง ถึงทำให้พวกเธอติดผมกันงอมแงมขนาดนี้ ผมก็ไม่แน่ใจนักว่าตัวเองเรียกได้ว่าเป็นคนหน้าตาดีหรือเปล่า แต่คืนไหนที่ออกท่องราตรี ผมไม่เคยพลาดที่จะได้เหยื่อกลับมากินเลยแม้แต่ครั้งเดียว เคยได้ยินพวกเธอพูดบ่อยๆ เหมือนกันว่าที่สนใจผมเพราะผมมีเสน่ห์และเซ็กแอพพึลสูง

ผมไม่รู้หรอกมันเป็นยังไง ที่รู้ๆ คือไม่เพียงแต่พวกผู้หญิงฝรั่งเท่านั้นที่สนใจผม บางครั้งก็มีพวกผู้ชายด้วยที่มาเสนอตัวให้ผม ไม่สิ... เรียกว่ามาขอให้ผมเสนอตัวให้จะดีกว่า เพราะพวกนั้นคิดว่าผมเป็นโฮโมฯ จะเข้าใจผิดก็ไม่แปลกแหละ เพราะถึงผมจะมีความสูงเกือบถึงร้อยแปดสิบเซนติเมตร แต่ก็มีรูปร่างผอมบางแม้จะมีกล้ามเนื้อแน่นไปทุกส่วน ประกอบกับการที่ผมชอบแต่งตัวจัด สำหรับคนที่แต่งตัวธรรมดา มองยังไงก็เป็นโฮโมฯ

ถึงจะเป็นอย่างนั้น ผมก็ไม่เคยอยากจะลองมีอะไรกับผู้ชายด้วยกันหรอกนะ แน่ล่ะว่าผมปฏิเสธไปทุกราย

“เข้าใจสิ แค่นี้ต้องดุด้วยเหรอ” เอมิเลียว่ากระเง้ากระงอดพลางเบียดหน้าอกอิ่มเข้ามาที่แขนผม

“ไม่ได้ดุ เสียงฉันฟังดูเหมือนดุตรงไหน” ผมเหลือบมองเธอ ยิ้มให้แล้วถามต่อ “แล้วนี่จะเข้าไปกันได้หรือยัง”

เอมิเลียนึกขึ้นได้ในตอนนี้เองว่าผมยืนอยู่ตรงนี้นานเกินไปแล้ว ก่อนเธอจะเข้าไปกระซิบบอกการ์ดว่าผมเป็นเพื่อน แล้วก็พาผมเข้ามาข้างในโดยสะดวกโยธิน

เสียงเพลงอิเล็กทรอนิกส์และเสียงหัวเราะร่วนดังลอดออกมาจากประตูทางเข้าเรียกให้เลือดในกายผมแล่นพล่าน อยากจะเอ็นจอยเต็มแก่ เอมิเลียพาผมเข้ากลุ่มเพื่อนสาวของเธอที่นั่งเล่นโป๊กเกอร์ดวดวอดก้าอยู่ยังโซฟามุมห้อง เธอแนะนำผมให้เพื่อนๆ รู้จักพอเป็นพิธี ก่อนที่พวกเพื่อนๆ ของเธอจะร้องเสียงขรมด้วยเคยได้ยินกิตติศัพท์ของผมดี

“นี่น่ะเหรอเควินเสือผู้หญิง หล่อสมคำร่ำลือจริงๆ แฮะ” ไวโอเล็ต หนึ่งในเพื่อนของเอมิเลียทักขึ้น ผมจึงหันไปหยักยิ้มให้เธอเล็กน้อย

“ถ้าไม่ติดว่านายมากับเพื่อนฉันล่ะก็ ฉันจะชวนนายเข้าห้องน้ำแบบไม่คิดเลย” เธอว่าขึ้นมาอีก ผมรู้ดีว่าการชวนเข้าห้องน้ำนั้นคืออะไร แน่ล่ะ มันคือการพากันไปฟาดแบบอาหารจานด่วนนั่นเอง

“อย่าแม้แต่จะคิดเชียว คนนี้ของฉัน” เอมิเลียว่าเสียงแข็งเมื่อได้ยินเพื่อนสาวพูดอย่างนั้น เรียกเสียงหัวเราะของคนทั้งกลุ่มให้ดังขึ้น

“ก็แค่พูดเล่นน่า คิดมากไปได้ มาเล่นโป๊กเกอร์กันต่อเถอะ กำลังได้ที่เลย” ไวโอเล็ตรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่เพื่อนเธอจะคว้าขวดวอดก้ามาฟาดหัวเธอจริงๆ “นายก็เล่นด้วยสิเควิน สนุกนะ”

ผมตกปากรับคำทันที และแน่นอนว่าสาวๆ พวกนี้รวมหัวกันโกงให้ผมแพ้เพื่อจะมอมเหล้า ผมรู้แต่ผมก็ยอมเพราะกระหายแอลกอฮอล์มาเป็นอาทิตย์แล้ว ทว่าการมอมเหล้าผมไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเธอคิดนัก ก็ผมน่ะคอแข็งจะตาย ยิ่งดื่มเยอะ เลือดนักสังสรรค์ในกายก็ยิ่งสูงขึ้นจนผมเริ่มจนผมกลายเป็นตัวสร้างสีสันให้กลุ่ม และนั่นก็ทำให้เอมิเลียออกอาการหวงผมมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว พยายามนัวเนียตลอดเวลาจนผมอดใจไม่ไหว กอดรัดฟัดเหวี่ยงเธอต่อหน้าเพื่อนๆ ไปหลายรอบ หากแต่พอเกือบจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เอมิเลียก็ดันเมาหลับไปเสียก่อน ผมจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นเพื่อนในกลุ่มของเธอแทน

อย่างที่บอกว่าผมไม่แคร์ ถ้าใครตอบสนองผมไม่ได้ ผมก็พร้อมที่จะหาคนใหม่มาแทนทันที และใครคนนั้นก็คือไวโอเล็ตที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เธอส่งสายตาหยาดเยิ้มมาให้ผมอยู่นานแล้ว ทำไมผมจะไม่รู้ว่าสายตานั่นเป็นการเชิญชวน

ผมไล่สายตามองรูปร่างใต้ชุดเดรสสีแดงสดของเธอพลางเลียริมฝีปากยั่ว ไวโอเล็ตหัวเราะเบาๆ ยื่นเท้ามาลูบขาผมที่ใต้โต๊ะเป็นสัญญาณให้ผมเตรียมพร้อม ไม่นานนัก เธอก็ลุกขึ้นจากโต๊ะทันทีที่เพื่อนๆ ของเธอเมาคอพับคออ่อน ผมเองก็กำลังเมาได้ที่ แต่พอเห็นโอกาสงามอย่างนั้น ผมก็เลือกที่จะคว้าไว้ ทิ้งจังหวะนิดหน่อยก่อนจะลุกตามไป

พอเลี้ยวมายังหัวมุมทางเข้าห้องน้ำ มือบางของไวโอเล็ตที่ดักรออยู่แล้วก็โอบลำคอผมไปจูบอย่างดูดดื่ม ผมสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงเธอ กะว่าจะจัดการให้เสร็จตรงนี้ ทว่าเธอก็คว้ามือผมเอาไว้ก่อน

“ตรงนี้ไม่ได้ เดี๋ยวมีคนมาเห็น” ว่าจบก็ลากผมไปยังประตูหลังไนท์คลับซึ่งเป็นตรอกแคบๆ ไร้ผู้คน มีเพียงแสงไฟสลัวจากหลอดไฟเก่าๆ เท่านั้นที่ส่องมาพอให้มองเห็นบ้าง

มันจะน่าพิศสมัยมากถ้าหากไม่มีถังขยะใบใหญ่ตั้งตระหง่านส่งกลิ่นคลื่นเหียนอยู่ แต่ในเวลาอย่างนี้ อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับการซุกไซ้ร่างอวบอั๋นตรงหน้าแล้ว ผมดันเธอไปชิดผนัง จัดการบรรเลงตามสัญชาตญาณดิบจนทุกอย่างเข้าที่ ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหลัง ล้วงเอาซองพลาสติกทรงสี่เหลี่ยมจัสตุรัสออกมาแล้วฉีกมันออก

ไวโอเล็ตมองยางสีขาวขุ่นทรงยาวแล้วก็หัวเราะออกมา

“เตรียมพร้อมดีจังนะ”

“รักสนุกก็ต้องรู้จักเซฟ” ผมบอก พลันส่งให้ไวโอเล็ตถือมันไว้ เลื่อนมือไปปลดเข็มขัด แต่ก็ต้องส่งเสียงจึ๊ปากอย่างขัดใจเมื่อโทรศัพท์มือถือของไวโอเล็ตที่เหน็บอยู่ในร่องอกเธอดังขึ้นมา

เธอยกมือขึ้นจุปากเป็นสัญญาณให้ผมเงียบก่อนกดรับ ผมถอนหายใจออกมาเต็มแรง พร้อมกับไฟราคะเมื่อครู่ที่มอดลงที่รู้ว่าคู่สนทนาของเธอคือแฟนหนุ่มที่โทรมาตามกลับบ้าน

“เดี๋ยวฉันก็กลับแล้ว อีกสักชั่วโมงสองชั่วโมง อะไรนะ มารออยู่ข้างหน้าแล้ว!? โอเคได้ เดี๋ยวฉันออกไป”

พอวางสาย เธอก็หันมายิ้มแหยให้ผม ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าสังเวียนครั้งนี้ถึงเวลาล่มไม่เป็นท่า

“ขอโทษนะเควิน ไว้ครั้งหน้าฉันจะแก้ตัวให้นะ” ว่าพลางส่งถุงยางอนามัยในมือคืนให้ผม

“ไปเถอะ เธอกับฉันคงไม่มีครั้งหน้าแล้ว” ผมตัดบทอย่างไร้เยื่อใย บอกตรงๆ ว่าโคตรจะอารมณ์เสียเลย

ไวโอเล็ตทำท่าจะพูดอะไร แต่ผมไม่สนใจ คว้าบุหรี่ขึ้นมาสูบ ทำให้เธอตัดใจแล้วหายเข้าไปด้านใน ทิ้งให้ผมยืนหัวเสียตามลำพังอยู่พักใหญ่

“บ้าฉิบ” ผมสบถเบาๆ อารมณ์อยากจะสนุกหายวับไปกับตา

ช่วยไม่ได้ สงสัยวันนี้จะไม่ใช่วันของผมแล้วล่ะ กลับห้องนอนเลยก็แล้วกัน

ผมโยนก้นบุหรี่ทิ้งลงพื้น ใช้เท้าขยี้มันจนดับ แล้วกำซองถุงยางอนามัยไปทิ้งที่ถังขยะ หากแต่ก็ต้องชะงักเมื่อสายตามองเห็นเงาตะคุ่มของใครบางคนกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ข้างๆ ถังขยะใบนั้นในอีกฝั่ง

ผมคิดในใจว่าหมอนี่ต้องรู้แน่ว่าเมื่อกี้ผมทำอะไร เพราะถึงจะไม่เห็นแต่ก็ได้ยินเสียงอยู่ดี ทว่าพอเห็นสภาพทรงตัวไม่ได้แล้ว ผมก็โล่งใจ สงสัยหมอนี่คงจะเมาไม่รู้เรื่องอะไรแล้วมั้ง

ผมโยนของในมือทิ้ง สายตาก็ยังจับจ้องที่ร่างใหญ่ ที่มองไม่วางตาอย่างนี้ก็เพราะเสื้อผ้าที่หมอนี่ใส่ดูประหลาดตาจนเกินกว่าจะคนปกติจะใส่ออกมาเดินตามท้องถนนได้ ก็ชุดที่ใส่น่ะ มันเป็นชุดบอดี้สูทรัดรูปสีเงินเมื่อม ดูเผินๆ เหมือนกับชุดของสป็อค มนุษย์ต่างดาวในภาพยนตร์เรื่องสตาร์ เทรค ไม่ผิดเพี้ยน ต่างกันก็แค่ตรงสีกับความเงาเท่านั้น ผมเกือบจะหลุดหัวเราะออกมาแล้วถ้าหากว่าจู่ๆ เจ้าตัวไม่เงยหน้าขึ้นมาให้ผมเห็นเสียก่อน

แสงไฟสลัวตกกระทบใบหน้าทำเอาผมนิ่งค้างไปชั่วขณะ ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้หล่อมาก แม้แต่ผมที่ไม่เคยชายตามองผู้ชายด้วยกันมาก่อนยังอดชมไม่ได้ แม้จะเปรอะเปื้อนไปด้วยปื้นดำๆ แต่ก็ไม่สามารถบดบังรูปหน้าสมมาตรได้เลย จมูกเป็นสันคมรับกับแนวกรามเป็นอย่างดี มองอย่างไรก็ไม่ต่างจากเทพบุตรกรีก

ผมทรุดตัวนั่งยอง ปัดปอยผมสีเฮเซลนัทที่ปรกหน้าผากเขาออก พลางถามเสียงเบา

“เฮ้ นายโอเคมั้ย”

คนถูกถามค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมา และผมก็ต้องตะลึงงันไปอีกรอบเมื่อเห็นดวงตาสีเทาสว่างคู่สวย

ผู้ชายคนนี้... มีเสน่ห์น่าดูเลยแฮะ นี่ล่ะมั้งที่เรียกว่าเซ็กส์แอพพึล

“จะให้เรียกแท็กซี่ให้มั้ย ดูท่าทางนายจะเมาหนักแล้วนะ”

ผมว่า เดาเอาเองว่าเขาคงจะเป็นลูกค้าของไนท์คลับแห่งนี้เหมือนกัน รูปร่างหน้าตาอย่างนี้ ไม่พ้นเป็นนายแบบไม่ก็ลูกคนรวยที่ไหนสักที่แน่ๆ แต่ผมไม่คุ้นหน้าเลยแฮะ ถ้าเป็นลูกค้าวีไอพีของที่นี่ อย่างน้อยๆ ผมก็ต้องเคยเห็น ไม่ก็ต้องเคยได้ยินสาวๆ พูดถึงบ้างสิ หล่อขนาดนี้จะถูกเมินนี่เป็นไปไมได้เลย

หมอนั่นไม่ตอบ มองผมตาปรือ พลันไอโขลกออกมาขนานใหญ่

“เฮ้ ไหวมั้ย” ผมรีบพยุง ก่อนที่มือจะสัมผัสเข้ากับของเหลวบางอย่างที่ไหลซึมมาจากสีข้างของร่างใหญ่ แค่ของเหลวอย่างเดียวยังไม่เท่าไหร่ นี่ยังมีแท่งอะไรบางอย่างปักอยู่บนตัวเขาด้วย

ผมใจหายวาบ รู้ได้ในทันทีว่ามันคือมีด และหมอนี่ก็คงจะถูกทำร้ายมา

“เดี๋ยวฉันโทรแจ้งตำรวจให้” ผมรีบบอกเร็วๆ ดึงมือออกมา หมายจะล้วงเอาโทรศัพท์โทรหาตำรวจ ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสีของของเหลวที่เปื้อนมือ

มันไม่ใช่สีแดงอย่างที่ควรจะเป็น แต่มันเป็นสีเขียว... สีเขียวอ่อนเสียด้วย!

ผมเบิกตาโพลง กลิ่นคาวของมันทำให้ผมมั่นใจว่ามันคือเลือด แต่สีเขียวอ่อนอย่างนี้ ผมอดคิดไม่ได้เลยว่านี่เป็นการเล่นตลกอะไรของพวกลูกหลานคนไฮโซ เพราะเจ้าคนพวกนี้ชอบแกล้งกันอยู่เนืองนิตย์ โดยเฉพาะพวกที่มาเที่ยวที่นี่

“นี่มันบ้าอะไรเนี่ย!” เท่านั้น ผมก็หัวเสียทันที

หมอนั่นไม่ตอบ แต่ยื่นมือมาจับไหล่ผมไว้มั่นแทน

“ขะ...ขอ...” น้ำเสียงขาดห้วงไป ทำเอาผมย่นคิ้วยุ่ง

“อะไร”

“ขอวางไข่หน่อย...”

“อะไรนะ!” ผมถามเสียงดัง ไม่แน่ใจนักว่าสิ่งที่หมอนี่พูดมันใช่ประโยคเดียวกับที่ตัวเองได้ยินหรือเปล่า

“ขอวางไข่...” ยังย้ำผมด้วยน้ำเสียงแหบแห้งอีกครั้ง

วางไข่อะไรวะ!

ผมทำท่าจะลุกหนีเพราะเห็นว่าการคุยกับหมอนี่มันทำให้ผมหัวเสียกว่าเดิม หากแต่พอผมจะลุกขึ้น มือใหญ่ที่จับไหล่ผมอยู่ก็ออกแรงดึงร่างผมให้เข้าไปใกล้ ก่อนที่เขาจะจรดริมฝีปากหยักลงมาบนเรียวปากผม มิหนำซ้ำ ยังพยายามดุนลิ้นเข้ามาข้างในด้วย ทำให้ผมผลักไอ้บ้านี่ออกเต็มแรง

“ทำเวรอะไรเนี่ย!”

หมอนั่นไม่ตอบเช่นเคย และไม่ยอมปล่อยให้ผมไปไหนด้วย พอผมผละออก มันก็รีบพยุงตัวเองขึ้น แล้วดึงผมเข้าไปจูบอีกครั้ง การจูบครั้งนี้รุนแรงและหนักหน่วงกว่าครั้งแรกมาก หมอนั่นแทบจะไม่รั้งรอที่จะดุนลิ้นนุ่มเข้ามาในโพรงปากผมเลยแม้แต่น้อย ผมพยายามจะสะบัดหน้าหนีแต่ก็รู้สึกเหมือนว่ามีบางอย่างตรึงผมไว้ให้อยู่กับที่จนขยับไม่ได้ ครู่เดียว ก็รู้สึกถึงวัตถุทรงกลมบางอย่าง ขนาดเท่าเมล็ดถั่วแมคคาเดเมียในปาก ผมพยายามจะขย้อนมันออก แต่อีกฝ่ายใช้ลิ้นดันมันเข้ามาลึกเรื่อยๆ จนผมต้องกลืนมันลงไปอย่างไร้ทางเลือก

และพอผมกลืนมันลงไป คนขโมยจูบก็ถอนริมฝีปาก ผมได้สติในตอนนี้ ง้างหมัด กระชากคอเสื้อเขาเตรียมจะซัดทันใด

“คิดว่าตัวเองทำอะไรอยู่วะ!”

“วางไข่...” อีกฝ่ายว่ามาเท่านี้ ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะค่อยๆ ปรือและปิดลง พร้อมกับร่างใหญ่ที่อ่อนปวกเปียกทรุดไปกับพื้น

ผมรีบปล่อยมือออกจากหมอนั่นทันทีที่เห็นใบหน้าหล่อซีดเผือดราวไร้เลือด ความโมโหเมื่อครู่มลายหายไป เหลือเพียงความตกใจที่จู่ๆ ก็เห็นมันฟุบแน่นิ่งไป

“นะ...นาย... เฮ้ เป็นอะไรน่ะ” ผมถาม

หมอนั่นไม่ไหวติง ผมจึงรวบรวมความกล้า ยื่นมือไปสะกิด แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม ไม่มีการตอบรับใดๆ แม้แต่น้อย ซ้ำร้าย ร่างนั้นยังเย็นชืดจนก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายผมเต้นถี่จนแทบจะระเบิดออกมาให้ได้ ผมรวบรวมความกล้า ยื่นนิ้วอันสั่นเทาไปอังจมูกอีกฝ่ายใกล้ๆ

มะ...ไม่หายใจ!

ผมเด้งตัวขึ้นยืนทันที

ฉิบหายละ จูบกันอยู่ดีๆ ก็ตายเสียอย่างนั้น ซวยแล้วไอ้กวินทร์!

ผมยืนทึ้งหัวตัวเองอย่างตระหนก หันซ้ายหันขวา ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ใจหนึ่งก็อยากจะโทรแจ้งตำรวจ แต่อีกใจก็กลัวว่าถ้าโทรแจ้งไป ผมจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่งในข้อหาฆาตกรรม เพราะก่อนหน้านี้ ผมเพิ่งจะจับด้ามมีดที่ปักตัวเขาไปหมาดๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ ผมหมดอนาคตแน่

แล้วความเห็นแก่ตัวก็เข้าครอบงำผม ผมรีบถอดเสื้อตัวเองออก เอามาเช็ดรอยนิ้วมือของตัวเองบนด้ามมีดที่ตัวเขา แล้วสวมกลับเหมือนเดิม ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในไนท์คลับและมุ่งหน้ากลับอพาร์ตเม้นต์อย่างรวดเร็ว

ใครมันจะอยู่ให้โดนจับกัน! คนที่จะโดนจับคือฆาตกร ไม่ใช่กวินทร์คนนี้เว้ย!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel