บทย่อ
48.5 องศา 35 ก้าว ตรงนั้นคือเขาคนนั้น คนที่ผมแอบรัก
องศาระยะทางที่1.1
กริ่ง....
"คาเฟ่ แม๊วแมว ยินดีต้อนรับครับ/ค่ะ"เสียงเปิดประตูร้านดังขึ้น พร้อมกับเสียงพนักงานชายหญิงที่กระจายอยู่ทั่วร้านเอ่ยต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาใหม่ด้วยน้ำเสียงสดใส
"รับเหมือนเดิมไหมครับคุณลูกค้า?"ทันทีที่ร่างของผู้มาใหม่เดินมาที่เคาร์เตอร์สั่งกาแฟ พนักงานมองหน้าก็ยิ้มออกมาพร้อมเอ่ยทักทายทันทีด้วยน้ำเสียงนิ่มนวลน่าฟัง
"ครับ"เสียงแหบๆของผมเอ่ยขึ้น พลางพยักหน้ายิ้มรับคำของพนักงานชาย ไม่ต้องตกใจไปครับว่าทำไมพนักงานถึงพูดแบบนั้นกับผม เพราะผมมาที่นี่บ่อยจนพนักงานทุกคนจำหน้าได้ หมดแล้ว
"เป็นชาเขียวปั่นเพิ่มหวาน เพิ่มวิป โรยคาราเมล ขนมเค้กเป็นชีสเค้กนะครับ"พนักงานชายยิ้มรับ ก่อนที่มือของเขาจะจิ้มไปที่หน้าจอคอม คิดเงินกับเมนูที่ตัวเองพึ่งพูดบอกผมมา
"ครับผม"ผมพยักหน้ารับอีกครั้ง ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมาเตรียมไว้ เพื่อจ่ายเงินค่าชาเขียวและเค้ก
"ทั้งหมด 105 บาทครับ"พนักงานเมื่อคิดเงินเสร็จแล้ว ก็เอ่ยบอกราคาให้กับผม พร้อมเงยหน้าขึ้นมาสบตาก่อนที่จะยิ้มบางๆให้
"นี่ครับ"ผมเอ่ยก่อนที่จะหยิบแบงค์ห้าร้อยส่งไปให้ พนักงานชายรับไปคิดเงินก่อนที่จะยื่นเงินทอนมาให้ผม
"เงินทอนครับ 395 บาทลูกค้าต้องการรับประทานที่นี่หรือนำกลับครับ"เมื่อพนักงานชายคิดเงินเสร็จแล้วก็เลยถามผมขึ้นมา
"ทานที่นี่ครับผม"ผมเอ่ยยิ้มๆ ก่อนที่จะรับเงินทอนมา
"เดี๋ยวรอชาเขียวปั่นกับชีสเค้กสักครู่นะครับ เชิญเลือกที่นั่งในร้านได้เลยครับ ขอให้ลูกค้ามีความสุขกับการทานเครื่องดื่มของทางร้านนะครับผม"พนักงานพูดเสร็จก็ยิ้มให้ผมก่อนที่ผมจะเดินมาเลือกที่นั่งที่ประจำของผมที่มาเมื่อไหร่ก็จะมานั่งตรงนี้เสมอ
ร้านคาเฟ่ แม๊วแมว เป็นร้านคาเฟ่ร้านเดียวที่เปิดอยู่หน้ามหาลัยที่ผมเรียนอยู่ตอนนี้ ทำไมร้านคาเฟ่ แม๊วแมว ถึงตั้งชื่อร้านแบบนี้ก็เพราะว่าร้านนี้มีแมวเป็นจุดขายยังไงล่ะครับ แมวที่ร้านนี้มีหลายสายพันธุ์และหลากหลายสีคอยเดินเล่นกับลูกค้าบริเวณในร้านทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมสำหรับนักศึกษามหาลัยที่จะเข้ามาใช้บริการก่อนเข้ามหาลัย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือผมที่ชื่นชอบน้องแมวมากแต่ไม่สามารถเลี้ยงได้เพราะคนที่บ้านแพ้ขนแมวกัน
ผมลืมแนะนำตัวไปเลยผมชื่อ ซออู้ หรือเรียกง่ายง่ายว่า ซอ ก็ได้ครับ เป็นนักศึกษาแพทย์ปีที่สองครับ เป็นคนไทยเกิดในทางภาคเหนือ จังหวัดลำปาง เป็นคนง่ายๆสบายๆ เห็นหน้าผมแบบนี้ตอนปีหนึ่งผมก็เคยเป็นเดือนสาขาเข้าชิงเดือนคณะนะครับ แต่ก็พลาดไปเพราะตอบกรรมการด้วยเสียงตะกุกตะกักเลยจบที่คะแนนบ๊วย(ตามที่เพื่อนบอกมา)
แน่นอนว่าที่ผมมาที่นี่ไม่ใช่มาเพื่อติวหนังสือหรือเล่นกับแมวอย่างเดียวหรอก นั่นก็เป็นส่วนนึงแต่จริงๆแล้วผมมานั่งแอบมองใครคนหนึ่งครับเค้าจะมาที่นี่ทุกๆวันตอน บ่ายสามโมงสี่สิบ นี่ก็ได้เวลาที่เค้าใกล้จะมาแล้ว...
กริ่ง.....
"ร้านคาเฟ่ แม๊วแมว ยินดีต้อนรับครับ/ค่ะ"เวลาบ่ายสามโมงสี่สิบ ไม่ขาดไม่เกินชายร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร ท่าทางดูใจดีสวมเสื้อกาวน์ เดินเข้ามาในร้านก่อนที่จะเดินไปสั่งกาแฟที่เคาน์เตอร์
"สวัสดีครับคุณเทียนวันนี้รับเหมือนเดิมนะครับ"เสียงพนักงานชายคนเดิมเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าใครที่เดินเข้ามาสั่งกาแฟ
"เหมือนเดิมครับ แต่วันนี้ขอเพิ่มช็อตหน่อยนะครับพอดีต้องอยู่เวรถึงพรุ่งนี้เก็บเคสและอยู่เวรแทนเพื่อน"เสียงนุ่มนวล อ่อนหวาน ใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มเสมอเอ่ยขึ้นมาก่อนที่จะเดินมานั่งเคาน์เตอร์บาร์ที่จัดอยู่ทางโซนหน้าร้านคาเฟ่
"มาแล้ว... พี่เทียน"ผมเอ่ยขึ้นเมื่อพบคนที่อยากเจอ ที่มาที่นี่ก็เพื่อพบกับพี่เทียนคนที่ผมแอบชอบมาตลอดหนึ่งปี
พี่เทียน นักศึกษาแพทย์ปีห้า อดีตเดือนมหาลัย และว่าที่คุณหมออนาคตไกล ทั้งเรียนเก่ง ใจดี ยิ้มง่าย เป็นที่รักของใครๆที่ได้พบเห็น ซึ่งใครคนนั้นก็รวมไปถึงผมด้วย พี่เทียนคือรักแรกพบของผม ซึ่งผมแอบชอบพี่เขาตั้งแต่วันที่คัดเลือกเดือนคณะ เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอพี่เทียนและหลงรักเขาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ด้วยความที่พี่เทียน เพอร์เฟคในทุกๆด้านและดูที่ยากจะเอื้อมไปถึง ผมจึงได้แต่แอบมองพี่เค้าอยู่เพียงด้านหลังไกลๆเท่านั้น ซึ่งผมก็ไม่ได้ร้องขออะไรไปมากกว่านี้ ขอแค่ได้แอบมองพี่เขาในทุกๆวันเพียงเสี้ยวหน้าของพี่เทียนก็ทำให้ซึ่งผมนั้นมีแรงที่จะใช้ชีวิตต่อไปแล้ว รักของผมเป็นรักที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน เป็นรักที่ได้เพียงแอบมองเขาก็มีความสุข ได้เก็บรอยยิ้มของเค้าไว้ในส่วนลึกของพื้นที่ในหัวใจผมได้รับรู้เพียงแค่ผมคนเดียวก็พอ...
"ยังคงนั่งที่เดิม เหมือนเดิมเลยนะครับพี่เทียน..."ผมเอ่ยยิ้มๆกับตัวเอง มองไปยังร่างสูงที่นั่งรอกาแฟตรงเคาน์เตอร์บาร์ติดกระจกที่ทำมุม 48.5 องศา ทำไมถึงต้องเป็น 48.5 องศา ก็เพราะว่าผมชอบเลขนี้ยังไงล่ะและองศาที่ผมนั่งอยู่ที่แอบมองพี่เขา ก็คงองศาประมาณนั้นละมั้ง
เมี๊ยว.....
"หึ?...เจ้าแมวน้อย"ตอนที่ผมกำลังเคลิบเคลิ้มกับใบหน้าของพี่เทียนอยู่นั้นจู่ๆก็มีแมวเปอร์เซียสีดำตัวหนึ่งเข้ามาคลอเคลียที่ขาของผม ท่าทางออดอ้อนมองผมด้วยสายตาอ้อนๆ ทำให้ผมอดใจไม่ไหวที่ยกมันขึ้นมาบนตัก
"แกเป็นแมวตัวใหม่เหรอ? ทำไมไม่เคยเห็นแกมาก่อนเลยเนี่ย"ผมลูบหัวและขนสีดำของมันเล่นพลางเอ่ยถามเจ้าขนปุยที่กำลังหลับตาพริ้มพอใจผมที่ลูบหัวมันอยู่
ครืด.....
"สบายใช่มั้ยละ...."เสียงครางในลำคอของเจ้าขนปุยดังขึ้นทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้
"ชาเขียวปั่น เพิ่มวิป เพิ่มหวาน โรยคาราเมลและชีสเค้ก ได้แล้วค่ะ"ระหว่างที่ผมเล่นกับแมวอยู่นั้นพนักงานผู้หญิงก็เอาเค้กและชาเขียวปั่นมาส่งให้ผมที่โต๊ะ
"ขอบคุณครับ"ผมเอ่ยขอบคุณพนักงาน ที่เอาขนมและน้ำมาส่งให้ก่อนที่จะยิ้มส่งกลับไปให้
