ตอนที่1 ตั้งใจเข้าหา
ณ มหาวิทยาลัย King
หน้าช็อปวิศวะยานยนต์
ช่วงพักกลางวันนักศึกษาต่างพากันจับจองที่นั่งจับกลุ่มคุยกันที่โต๊ะม้าหินอ่อนบริเวณหน้าช็อปคณะเป็นทางยาว แทบจะไม่มีที่ว่าง เป็นภาพที่ชินตาไปแล้วสำหรับชาวคณะวิศวะยานยนต์
ร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ ใบหน้าคมคาย จมูกโด่ง รับกับเรียวปากกระจับสวยได้รูป ผิวพรรณขาวราวกับผู้หญิง แต่สายตาคมแฝงไปด้วยความดุร้ายแต่กร้าวใจ กำลังนั่งไถมือถือเล่นไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง แม้ว่าจะมีสายตาของสาวๆ ต่างคณะส่งสายตาทอดสะพานให้เค้าก็ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย โดยมีหนุ่มหล่อร่างสูงอีกสองคนนั่งร่วมโต๊ะด้วย
อีกคนนั่งอ่านหนังสือโดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเช่นกันแต่จะมีอยู่หนึ่งคนที่ส่งสายตาแพรวพราวให้กับเหล่าสาวสวยที่เดินผ่าน
ซึ่งหนุ่มหล่อ หนุ่มฮ็อตคนแรกที่จดจ่อกับมือถือเครื่องหรูนั่นก็คือ เป็นหนึ่ง หรือโนอาร์ วิลสัน อายุ20 ปี สูง187/62 เรียนวิศวะยานยนต์ปี2 เป็นลูกเสี้ยวไทย-จีน-อิตาลี่ นิสัยดุ โหด ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ชอบพูดกับคนไม่สนิท ทั้งชีวิตมีเพื่อนสนิทแค่3คน ได้แก่ แดนดิน กันต์ ขุนเขา
คนที่สองที่นั่งอ่านหนังสือ แดนดิน หนุ่มหล่อฟ้าประทานแห่งคณะบริหาร ผู้ที่ไม่เคยสนใจสาวๆ หรือข้องแวะกับใครเลยเพราะยังมีรักแรกที่ติดอยู่ในใจไม่เคยลืม
คนที่สามมีสายตาแพรวพราว กันต์ หนุ่มหล่อคาสโนว่าตัวพ่อ ควงสาวไม่ซ้ำหน้าแห่งคณะวิศวะยานยนต์
“ ไง!! พวกมึงกูเดินมานี่ ไม่มีใครคิดจะสนใจกูเลย ” หนุ่มหล่อดีกรีเดือนมหาลัย เรียนคณะบริหารอย่าง ขุนเขา เอ่ยขึ้นเมื่อเค้าลงมาจากห้องกิจกรรมเมื่อครู่ก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่าง
“ เออๆ นั่งลงสักที พูดมาก ” เป็นกันต์ที่เอ่ยขึ้นเมื่อเพื่อนขัดจังหวะการมองสาวๆ
“เห้ยๆ ไอเชี่ยยย! คนนั้นใครวะอย่างน่ารัก กำลังเดินมาที่โต๊ะเราแล้วด้วยว่ะ” กันต์เอ่ยขึ้นตบลงบนโต๊ะรัวๆ ทำให้เพื่อนๆ ที่นั่งร่วมโต๊ะต่างวางสิ่งที่สนใจตรงหน้าลงแล้วหันไปมองตาม
'น่ารัก' คำนี้ผุดขึ้นมาในหัวหนุ่มหล่อเหลือร้ายอย่างเป็นหนึ่ง ผู้ที่ไม่ค่อยสนใจหรือจีบสาวคนไหนมาก่อนส่วนมากมีแต่สาวเข้าหาขนาดแฟนเก่าที่คบกันตอนปีหนึ่งเขายังไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่เลยก็แค่ลองคบๆ ดู
“ พี่คะพอดีพวกหนูจะไปที่ห้องการเงินต้องไปทางไหนคะ ”
สาวหวานน่ารัก หน้าตาจิ้มลิ้มมีลักยิ้มสองข้าง ผมตรงยาวสลวยมีปอยผมนิดหน่อยลงมารับกับใบหน้ารูปไข่ เธอคือหลิน หรือ ลี่หลิน หวังวี่ อายุ19 สูง165 เรียนคณะวิศวะโยธาปี1 เป็นสาวลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง ภายนอกที่แสดงออกมาให้คนอื่นเห็นจะอ่อนหวานน่ารัก ใสซื่อ แต่ความจริงนั้นเธอแสบกว่าที่ใครจะคาดคิดได้
เธอเดินมากับเพื่อนหนึ่งคน ชื่อเหมยลี่ เรียนคณะวิศวะโยธาปี1เช่นกัน สาวสวยแซ่บผมลอนยาว ผู้หวงเพื่อนเป็นชีวิตจิตใจเพราะโตมาด้วยกัน
“ สวยยย ” คำพูดราวกับละเมอหลุดมาจากปากของกันต์
“ พี่ว่าอะไรนะคะ ” หลินเอ่ยถามเพราะได้ยินไม่ชัดในขณะที่กันต์ยังคงเอาแต่จ้องหน้าเพื่อนของเธอไม่วางตา เธอผู้ซึ่งหวงเพื่อนเป็นที่สุดจึงเดินไปบังเพื่อนสาวไว้ทันที
“ อะ เอ่อ ปะ เปล่าครับเมื่อกี้น้องถามว่าอะไรนะครับ ” กันต์ส่งยิ้มตาหยีพร้อมกับเอ่ยถามหลิน
“ หนู ถาม ว่า ห้องการเงินไปทางไหนคะ ” หลินเป็นคนตอบขึ้น ก่อนจะดันเพื่อนออกนิดหน่อยพร้อมส่งสายตาว่า ‘ไม่เป็นไร’
“ ทางนั้น เดินไปเลี้ยวซ้ายจะมีป้ายบอก ”
เป็นหนึ่งที่เอ่ยขึ้นชี้นิ้วไปทางที่บอกจนเพื่อนๆ ยังแปลกใจปกติไม่เคยจะพูดกับคนแปลกหน้าไหงวันนี้มีปากมีเสียงขึ้นมาได้
“ ขอบคุณค่ะ ” หลินตอบไปนิ่งๆ มองสบตากับคนบอกทางเธอ แววตาไร้ความรู้สึกชื่นชอบแตกต่างจากสาวๆ คนอื่นที่มักจะส่งสายตาทอดสะพานให้เขาจนเขาแปลกใจอดที่จะขมวดคิ้วชนกันไม่ได้
หลินเอ่ยจบก็เดินจากไปกับเพื่อนสาวคนสวยจนผู้ชายละแวกนั้นต้องหันมองกันทุกโต๊ะ
“ เป็นไงตกผู้ได้ทั้งแถบ ” เหมยลี่เอ่ยยิ้มพร้อมยิ้มที่มุมปากให้หลิน
“ หึ! ก็แค่พวกผู้ชายหน้าม่อ ”
หลินเอ่ย ไม่ได้มีสีหน้าใดๆ แสดงออกมา แต่จุดประสงค์เธอก็คือตั้งใจเดินไปที่โต๊ะนั้นนั่นแหละความจริงพวกเธอรู้อยู่แล้วว่าห้องการเงินที่จะไปนั้นอยู่ตรงไหน
“ ไหนใครๆ ก็บอกว่านายนั่นไม่ค่อยสนใจผู้หญิงไง นี่ยังหันมาตอบฉันอยู่เลย ผิดคาดอยู่เหมือนกันแฮะ ” หลินเอ่ยขึ้น
“...” ส่วนเหมยก็แค่ยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้
#ช่วงพักกลางวันที่โรงอาหารคณะวิศวะ
ตุ๊บบบบ!!!!!
“ อ๊ะ ขอโทษค่ะ ขอโทษอีกทีนะคะหลินเดินไม่ทันระวังเองค่ะ ”
หลินรีบก้มหัวเป็นการขอโทษโดยที่ยังไม่ได้เงยขึ้นไปมอง เนื่องจากเธอไปซื้อน้ำมาและมัวแต่มองหาเหมยลี่ที่แยกกันไปซื้อข้าวแต่ยังไม่กลับมาที่โต๊ะเลย จึงทำให้ชนเข้ากับใครคนนึงโชคยังดีที่วันนี้เธอไม่ได้ซื้อน้ำเป็นแก้วมาไม่งั้นคงได้หกเลอะแน่
“ อืม ” เขาตอบแค่นั้นจนหลินขมวดคิ้ว คิดในใจ ‘จะประหยัดคำพูดไปไหน’ แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองหน้าว่าคนที่เธอเดินชนนั้นคือใคร
“ อ้าว พี่คนบอกทางนี่นา ”
เสียงหวานเอ่ยทักเป็นหนึ่งเพราะเธอจำได้ว่าเขาเป็นคนบอกทางเธอเมื่อเช้า หนึ่งพอได้ยินเธอท้วงแบบนั้นก็พยักหน้าให้ก่อนจะเอ่ยคำพูดกับเธอ
“ แล้วจะหลบได้ยัง? ” เขาเอ่ยถามด้วยใบหน้านิ่งๆ
“ ออ…ขอโทษค่ะ เชิญค่ะ ”
เธอรีบเบี่ยงตัวหลบให้เขาเดินก่อนจะยกยิ้มมุมปากโดยไม่มีใครได้เห็นรอยยิ้มนั้นของเธอ
ฝ่ายหนึ่งพอเดินพ้นเธอมาก็ยกยิ้มมุมปากเช่นกัน จริงๆ เขาเห็นเธอเดินมาแล้วแหละแต่ตั้งใจเดินไปขวางเธอ เขาเพียงแค่อยากรู้จักแต่ไม่รู้วิธีเข้าหาก็เท่านั้นเอง
“ ไงจ๊ะ เหมยเห็นนะว่าเมื่อกี้หลินแกล้งเดินชนผู้ชายคนนั้น ชอบหรอจ๊ะ? ”
“ เปล่า…ก็แค่อยากรู้ว่าเป็นคนยังไงก็เท่านั้น ”
“ เค๊!! ” เหมยทำท่ายักไหล่พร้อมยิ้มล้อเลียนไปเบาๆ
