ตอนี่10-2 เห็นข่าวยัง
ตอนี่10-2 เห็นข่าวยัง
.
.
นั่งร้องไห้ซักพักก็เช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นเพื่อลงไปชั้นผู้ป่วยใน วันนี้เธอตั้งใจจะมาเยี่ยมจีจี้เพราะเมื่อคืนผู้จัดการของเธอได้ลื่นล้มในห้องน้ำส่งผลให้แขนหักน่าจะต้องอยู่โรงพยาบาลไปอีกหลายวัน
ก็อก ก็อก ก็อก
“แหม! กว่าจะมาได้นะจ๊ะ ไหนบอกว่ากำลังขึ้นลิฟต์เมื่อยี่สิบนาทีที่แล้ว ลิฟต์ค้างหรอจ๊ะสาว” เมื่อจีจี้เห็นโบวี่เปิดประตูเข้ามาก็เอ่ยแซวทันที
“พอดีเจอคนรู้จักน่ะค่ะเลยหยุดคุยกันนิดหน่อย” โบวี่ตอบด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูกเหมือนคนเป็นหวัดจนจีจี้รู้สึกผิดสังเกตุ
“โบว์...เป็นอะไรรึเปล่า ร้องไห้มาหรอ...มาหาพี่มา” จีจี้กางแขนออกแม้ว่าแขนจะยังเจ็บอยู่แต่ก็อยากกอดปลอบคนที่เธอรักดุจน้องสาวแท้ๆ
“พี่จีจี้ ฮึกกก” โบวี่เห็นแบบนั้นจึงไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกปล่อยโฮออกมาก่อนจะเดินไปกอดจีจี้แน่น
“ร้องออกมาเถอะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรพี่จะอยู่ข้างโบว์เอง โบว์คุยกับพี่ได้ทุกเรื่องนะรู้ไหม” จีจี้พูดพร้อมกับลูบหัวร่างบางอย่างปลอบโยน
โบว์พยักหน้าหงึกๆ ร้องไห้ซักพักก็เงียบตั้งสติ ก่อนจะยอมเปิดปากเล่าทุกอย่างให้ผู้จัดการส่วนตัวฟังทุกเรื่องตั้งแต่คืนที่ผิดพลาดคืนนั้นเลย จีจี้ก็ได้แต่รับฟังหญิงสาวเงียบๆ พร้อมกับความรู้สึกสงสารหญิงสาวจับใจที่ต้องมารักคนที่ไม่เคยรักตัวเองเลยแถมคนๆ นั้นยังคบอยู่กับเพื่อนรักตัวเองอีก
#วันต่อมา
วันนี้โบวี่ไม่มีงานเธอจึงตั้งใจจะไปเยี่ยมจีจี้อีกวันนึงเพราะพรุ่งนี้เธอมีงานถ่ายแบบที่ริมทะเลพัทยาต้องได้ไปคนเดียวคงไม่มีผู้จัดการไปด้วย หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็มีเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้นมารัวๆ จนโบวี่ต้องขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากัน
ใครกันนะส่งข้อความมาซะรัวเชียว คิดได้ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
ติ้งๆๆ ติ้งๆๆ ติ้ง [ไลน์กลุ่ม สาวแซ่บ]
PL: เม้าส์ฉ่ำจ้าาา พวกแกเห็นข่าวยังว่าเพื่อนสาวเราจะสละโสดแล้วค่าา ไม่มีบอกเพื่อนฝูงซักคำนะยะ @Ingfah
Gift: อะไรยังไง ไหนเล่าด่วน
Pang ja: ฉันรู้ละว่าเรื่องอะไรว่าจะทักไปถามนางพอดี ได้ยินพี่ๆ นักข่าวพูดกันหนาหูเลยเมื่อเช้า
PL: อย่าเงียบค่ะคุณหมอ เล่ามาๆ @Ingfah
Ingfah: อะไร…ก็ตามข่าวนั่นแหละ
Gift: เห้ย เดี๋ยวๆ ฉันยังไม่ได้ดูข่าว ข่าวอะไร?
Pang ja: ก็คุณหมออิงฟ้าของเรากำลังจะหมั้นกับพี่เสือน่ะสิ พลาดข่าวนี้ได้ไงข่าวออกจะดัง ลงทุกสำนักค่ะ บอกเลย!!
Gift: เห้ย! เอาจริงดิ...คิดดีแล้วใช่ป่ะ?
Ingfah: อืม...
เมื่อโบวี่อ่านมาถึงตรงนี้โทรศัพท์ก็หลุดมือร่วงลงพื้นพร้อมกับทรุดตัวนั่งลงที่โซฟาอย่างคนหมดแรงทันที
ตุบบบบ!!!
“ฮึก ฉันควรดีใจกับเพื่อนสิ ฮือๆ จะร้องไห้ทำไม...” น้ำตาที่พยายามห้ามไว้ไหลออกมาเป็นเขื่อนแตกทั้งที่ทำใจไว้แล้วแต่พอมาถึงวันนี้จริงๆ หัวใจมันกลับรับไม่ได้ มันเจ็บจนอธิบายเป็นคนพูดออกมาไม่ถูก
“เมื่อไหร่จะเข้มแข็งซักที ควรรู้ตัวได้แล้วว่าพี่เสือเค้าไม่ใช่ของแกยัยโบว์ เค้าไม่ได้รักแก ตัดใจซักทีสิ ฮึก!” โบวี่พูดกับตัวเองพยายามเข้มแข็งแต่ยิ่งพูดก็ยิ่งร้องไห้ เหมือนตอกย้ำตัวเองให้เจ็บมากยิ่งขึ้นไปอีก
เวลาผ่านไปเมื่อตั้งสติตัวเองได้ก็จัดการล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น แต่งหน้าใหม่แล้วออกไปเยี่ยมผู้จัดการส่วนตัวที่โรงพยาบาล
#วันต่อมา
วันนี้เป็นวันที่โบวี่มีถ่ายแบบริมทะเลพัทยา เธอจึงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อรอรถของทางสังกัดมารับที่หน้าคอนโด รอไม่นานก็มีรถตู้มาจอดด้านหน้าเธอพร้อมกับคนขับรถที่วิ่งอ้อมมาเปิดประตูให้ โบวี่จึงเข้าไปโดยที่ยังไม่ได้สังเกตุว่ามีใครอยู่ในรถบ้าง ถ้าเป็นปกติก็จะมีแค่เธอและผู้จัดการเท่านั้นเพราะเธอชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่า วันนี้ก็เลยคิดว่าคงได้นั่งไปคนเดียวจึงปล่อยจอย
เพราะตอนนี้เป็นช่วงเวลาตีห้า ฟ้ายังไม่ทันสว่างโบวี่จึงมองไม่เห็นด้านในรถ เมื่อเข้ามาภายในรถได้เธอก็นั่งที่เบาะกลางไม่ได้ขยับไปชิดหน้าต่างเหมือนทุกทีที่มากับผู้จัดการส่วนตัว เนื่องจากต้องตื่นเช้ามากๆ จึงทำให้ร่างบางเคลิ้มหลับไปอย่างง่ายดาย
หลับไปได้ซักชั่วโมงกว่าๆ ก็มีแสงพระอาทิตย์จ้า แยงตาเข้ามาทำให้โบวี่รู้สึกตัวตื่นขึ้น
“หลับสบายไหมครับ?”
.
.
เม้าส์มอยกันหน่อย....
“เจ็บอีกแล้วน้องโบว์ของไรท์”
“อดทนนะลูกสาว ถ้าเป็นเนื้อคู่กันแล้วคงไม่แคล้วกันหรอก”
“แต่กว่าจะสมหวังน้องโบว์จะช้ำในก่อนไหมคะเนี่ย...”
