ตอนที่1 จุดเริ่มต้น
Bowie Vasita talk…
#Big AS ผับ
“อิงครับคบกับพี่นะ…พี่รักอิงมาตลอดไม่ใช่แค่ชอบ และพี่รู้ว่าอิงก็รับรู้ได้จากการกระทำทั้งหมดของพี่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา อิงจะรังเกียจผู้ชายแบบพี่ไหมครับ”
ฉันกำลังยืนมองภาพเบื้องหน้าที่แสนหวาน สำหรับคนอื่น แต่สำหรับฉันนั้น มันมีแต่ความเจ็บปวดอย่างที่อธิบายออกมาไม่ถูก
ภาพที่พี่เสือกำลังคุกเข่าขออิงฟ้าเป็นแฟน ฉันควรดีใจกับเพื่อนสิถึงจะถูก ฉันไม่ควรรู้สึกอิจฉาเพื่อน ถ้าฉันจะรู้สึกแบบนั้นฉันคงดูเป็นเพื่อนที่เลวมากใช่ไหม?
ใช่ฉันแอบรักแฟนเพื่อน หลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้ากันที่บ้านของอิงฟ้า แต่ฉันไม่สามารถแสดงออกไปได้ทำได้เพียงแค่แอบมองเขาอยู่ห่างๆ และฉันก็รู้มาตลอดว่าพี่เสือไม่ได้มองอิงฟ้าเป็นแค่น้องสาวเพื่อนเพราะสายตาเขาเวลาที่มองอิงฟ้ามันมักจะเต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่นทุกครั้ง ต่างจากสายตาที่เขามองฉันและคนอื่นๆ
“อ้าว ชนนน!!!”
แกร๊งงง!!
เสียงแก้วกระทบกันพร้อมเสียงเฮฮาปาตี้อย่างมีความสุขที่เพื่อนรักอย่างอิงฟ้าเปิดใจรับรักพี่เสือซักที หลังจากที่เลิกรากับแฟนเก่าอย่างแดนดินไปถึง7ปี และที่ผ่านมาอิงฟ้าก็ไม่เคยคบหรือรับรักใครอีกเลย
ซึ่งฉันก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุหรอกนะ ว่าทำไมอิงฟ้าถึงได้เลิกกับแดนดินทั้งที่ตอนนั้นทั้งคู่ดูจะรักกันมากๆ แต่พวกเราก็ไม่เคยมีใครถามถึงสาเหตุการเลิกราในครั้งนั้น ยัยอิงฟ้าก็ไม่เคยบอกหรือตอบคำถามใดๆกับเพื่อนๆเลยในเมื่อเพื่อนไม่อยากจะเล่าเราก็เลยไม่มีใครถามขึ้นมาอีก พวกเราต่างคิดว่าที่สองคนนั้นเลิกกันอาจจะเป็นเพราะไม่มีเวลาให้กัน เลยห่างหายกันไปในที่สุด
จนฉันไปบังเอิญได้ยินที่อิงฟ้าและแดนดินพูดกันที่หน้าห้องน้ำนั่นแหละฉันถึงได้เริ่มเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง
“อิงสบายดีไหม” แดนดินพูด
“คนที่ทิ้งกันไปมันมีสิทธิ์มาถามแบบนี้ด้วยหรอ” อิงฟ้าเป็นคนตอบ
เหมือนทั้งคู่จะจบกันไม่ดีเท่าไหร่ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะต้องเข้าไปยุ่งเลยปล่อยผ่านไปและทำตัวปกติ
“เห้ย!!! เบาๆสิยัยโบว์ ดื่มเข้าไปเยอะขนาดนี้เดี๋ยวก็ขับรถกลับไม่ไหวหรอก” ยัยพอลลี่เอ่ยปรามในตอนที่ฉันนั่งยกเหล้าดื่มโดยไม่ได้สนใจใคร
“ไม่เปนราย ฉ้านจองห้องด้านบนไว้แล้ว”
ฉันตอบออกไปด้วยเสียงยานคาง ถึงฉันจะเริ่มมึนๆแต่ก็ยังพอรู้ตัวเองอยู่บ้าง
“เออๆ แล้วไปนึกว่าจะฝืนขับกลับสภาพนี้ พรุ่งนี้ไม่มีถ่ายแบบใช่ป่าว” ยัยแป้งหอมถามขึ้น
และใช่ตอนนี้ฉันเป็นนางแบบอันดับต้นๆของประเทศ จะทำอะไรก็ต้องรักษาภาพพจน์ ฉันไม่มีทางขับรถกลับด้วยสภาพแบบนี้แล้วโดนเป่าแอลกอฮอล์ให้เป็นข่าวแน่นอน
“ม่ายมีๆ พรุ่งนี้ว่างจ้าาา” ฉันตอบพร้อมกับรอยยิ้ม
ก็ยังดี เหล้ามันสามารถทำให้ฉันลืมเลือนความผิดหวังไปได้บ้าง ฉันเคยหวังนะว่าซักวันฉันจะมีความกล้าพอที่จะบอกรักพี่เสือ แต่ตอนนี้ฉันคงต้องพับเก็บโครงการนี้ไปถาวรแล้วล่ะ
# เที่ยงคืน
“บายยย ขับรถดีๆน๊า”
ฉันโบกมือลาเพื่อนๆ ตอนนี้เที่ยงคืนแล้วทุกคนต่างมีสภาพไม่ต่างจากฉันมากนัก แต่วันนี้มีฉันกับยัยกิ๊ฟที่เปิดห้องนอนที่ชั้นบนของผับนี้ ซึ่งผับนี้ก็เป็นของพี่เสือและพี่อคินพี่ชายของยัยอิงฟ้านั่นแหละ ที่นี่ค่อนข้างหรูและปลอดภัยพอสมควรจึงทำให้ฉันวางใจได้เป็นอย่างมาก
“ยัยโบว์ฉันไม่ไหวแล้วว่ะ ขอขึ้นไปนอนก่อนละกัน” ยัยกิ๊ฟหันมาพูดกับฉัน
“โอเคๆ เดี๋ยวฉันไปเอาของที่รถก่อนก็จะขึ้นไปนอนเหมือนกัน”
ฉันบอกกับยัยกิ๊ฟก่อนจะเดินไปหยิบพาวเวอร์แบงค์ที่รถแล้วเดินขึ้นห้องไป
แกร็ก!!! ติ๊ดดด
“ห้องนี้มั้ยนะ 99 ใช่ๆต้องใช่แหละ”
ฉันเพ่งมองตัวเลขที่หน้าประตูพร้อมพูดกับตัวเอง เพราะตอนนี้สายตาฉันมันพร่าเบลอไปหมดอยากพักผ่อนเต็มที
“เอ๊ะ!! ทำไมประตูห้องปิดไม่สนิท…สงสัยพนักงานคงปิดไม่สนิทแน่เลย…ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้เลย หึหึ”
ฉันพูดคนเดียวพร้อมกับหัวเราะออกมา
พรึบบบบ!!!
เมื่อเดินมาถึงเตียงได้ฉันก็ล้มตัวลงนอนแล้วหลับไปทันที เรื่องที่จะให้เดินไปอาบน้ำลืมไปได้เลยเพราะตอนนี้ง่วงและมึนหัวมากจริงๆ ฉันหลับไปได้ซักพักฉันก็ขยับไปคว้าเอาหมอนข้างมากอด
“อืมมม ทำไมหมอนข้างที่นี่มันแปลกๆ…ไม่เห็นนุ่มเลย” ฉันพูดเสียงงัวเงียออกไปโดยที่ไม่ได้ลืมตามามองเพราะห้องค่อนข้างมืด ถึงมองก็มองไม่เห็นอะไร
แต่กลิ่นหมอนข้างนี่มันเหมือนกลิ่นน้ำหอมของคนที่ฉันหลงรักเลย
“อืมมม หอมจังถ้าหมอนข้างนี่เป็นพี่เสือคงดี คิกคิก”
ฉันพูดขึ้นพร้อมกับหลับตาคิดถึงภาพพี่เสือผู้ชายที่ฉันไม่อาจเอื้อม
พรึบบบ!!
หมอนข้างขยับได้? หรือฉันเมาจนเกิดหลอนขึ้นมาล่ะเนี่ย ฉันรู้สึกเหมือนโดนกอดกลับเลยตอนนี้
