หรือนี่คือธุรกิจที่ฉันควรทำ 3
"แหม่ ๆ พอสามีส่งเงินมาให้ก็ออกไปซื้อของเลยนะ! ที่บ้านยังขาดอีกหลายอย่างเอามาให้บ้านใหญ่กินด้วยสิ แค่บ้านของสามีคงไม่หวงของหรอกนะ" สะใภ้ใหญ่พูดแดกดันและมองของในมือหวางเหมิงเหมิงตาเป็นมัน
บ้านใหญ่มีแม่สามีเป็นคนกุมเงินกองกลางของบ้านอยู่ และรายได้ต่อเดือนรวมกันยังน้อยกว่าเงินเดือนของสามีหวางเหมิงเหมิงในขณะที่คนเยอะ ทำให้บ้านใหญ่ต้องใช้ชีวิตอด ๆ ยาก ๆ สุดท้ายก็มายึดเงินของลูกสะใภ้คนรองไป แต่โชคดีครั้งนี้คนส่งเงินเดือนเจอเจ้าของร่างก่อนที่แม่สามีจะยึดไป ทำให้เธอที่มาสวมร่างนี้เห็นเงินส่วนนี้
"อย่าแม้แต่จะคิด! บ้านใหญ่ บ้านรองแยกบ้านกันแล้วพี่ลืมไปหรืออย่างไร ที่บ้านมีแค่สามีของฉันที่ต้องทำงานเลี้ยงฉันกับลูก ส่วนบ้านพี่ทำงานกันหมดก็ไปซื้อกันเองสิ" หวางเหมิงเหมิงส่งสัญญาณมือให้ลูกชายเข้าไปอยู่ในห้องนอนก่อน
สะใภ้ใหญ่จิ๊ปากอย่างขัดใจ "เป็นแค่สะใภ้รองอย่าคิดมาต่อกรกับฉัน! อีกอย่างแม่สามีก็เหมือนแม่ของแกจะอกตัญญูกับท่านหรือยังไง"
"อกตัญญูอะไร สิ่งที่พี่ทำคือการจะขโมยของของบ้านรอง!" หวางเหมิงเหมิงเปล่งเสียงตะโกนให้บ้านอื่นได้ยินไปด้วย
ระหว่างยืนเถียงกับสะใภ้ใหญ่สายตาเหลือบไปเห็นเพื่อนบ้านที่เปิดประตูออกมา บางคนถึงกับเดินมาชิดรั้วบ้านเล็กเพื่อฟังสิ่งที่สองสะใภ้กำลังเถียงกันอยูู่
"ใครจะขโมย! อย่ามากล่าวหาฉันนะ" สะใภ้ใหญ่โวยวายเมื่อรู้ว่าเสียรู้ให้กับหวางเหมิงเหมิงแล้ว เพื่อนบ้านต่างไม่ชอบหล่อนกันทั้งนั้น
'อะไรกัน สะใภ้ใหญ่บ้านนี้รังแกน้องสะใภ้อีกแล้ว'
'ฉันล่ะอยากเห็นวันที่เจ้ารองหลินกลับมาจริง ๆ ต่อหน้าน้องเขยทำตัวดีแต่ลับหลังรังแกเมียเจ้ารองหลิน' หญิงชราในหมู่บ้านที่เห็นหลินจื่อคุนมาตลอดบ่น
'บ้านฉินมีปัญหาเรื่องนี้ตลอด ถ้าเป็นฉัน ฉันคงย้ายไปอยู่กับสามีแล้ว' สะใภ้บ้านฉีกล่าวอย่างเสียดาย
'ถ้าไปได้หวางเหมิงเหมิงคงไปแล้ว'
"นังเหมิงเหมิง!" สะใภ้ใหญ่มองซ้ายขวาเมื่อเห็นว่าเพื่อนบ้านเดินออกมามุงดูเยอะก็กระทืบเท้าเดินเข้าไปในบ้าน
หวางเหมิงเหมิงถอนหายใจ จ่ายเงินค่ารถก่อนจะถือของไปไว้ในห้อง แยกของต่าง ๆ ออกเป็นโซนเพื่อการจัดเก็บที่ดี บางอันที่ซื้อมาไว้นานแล้วอย่างเครื่องปรุงหวางเหมิงเหมิงก็ทิ้ง เพราะเครื่องปรุงบางตัวมันเป็นการหมักถ้าไม่ทิ้งอาจเกิดปัญหาภายหลังได้
"วันนี้แม่จะเชือดไก่สักตัว พวกเรากินไก่ตุ๋นกันดีกว่า"
หวางเหมิงเหมิงเอ่ยกับลูกชายหลังจัดของเสร็จ หลินจื่อมู่ร่างกายผอมเกินไป อายุ6ขวบแล้วแต่ยังเหมือนเด็กสี่ขวบอยู่เลย อีกทั้งร่างนี้ก็ขาดอาหารไม่ต่างจากลูกชาย ถ้าอยากสุขภาพดีต้องกินอาหารให้ครบห้าหมู่ ไม่อย่างนั้นอนาคตคงได้ป่วยตายก่อนเวลาอันควรแน่ ๆ
หลินจื่อมู่ตื่นเต้น "ไก่ตุ๋น! แม่ไม่ได้ทำให้กินนานแล้ว"
ใช่ ครั้งล่าสุดก็คือตอนที่สามีกลับมาพักที่บ้านหนึ่งเดือน หวางเหมิงเหมิงเอาใจสามีด้วยการทำอาหาร และสามีก็อยากให้เธอทำอาหารอร่อย ๆ ทางพร้อมหน้าหลังจากได้เจอกันเพียงปีละครั้ง เธอถอนหายใจอย่างหนักหน่วงไม่รู้เธอจะใช้ชีวิตอย่างไร หรือจะให้บอกเขาว่าภรรยาเขาตายแล้ว ?
แบบนั้นเขาคงไม่คิดว่าเธอเป็นบ้า ส่งเข้าโรงพยาบาลบ้าหรอกนะ ไม่ได้! เธอจะพูดความจริงไม่ได้จนกว่าเขาจะยอมใช้ชีวิตร่วมกับเธอที่เป็นคนปัจจุบันนี้เท่านั้น
ผ่านไปเพียงชั่วพริบตาเวลาล่วงเลยมาหนึ่งเดือนแล้ว สำหรับหวางเหมิงเหมิงนับว่าเป็นเวลาที่ช้ามากเพราะเธอต้องนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ที่บ้านอย่างไม่มีอะไรทำ หลินจื่อมู่ยังเด็กและเธอไม่ไว้ใจที่จะให้เขาอยู่ที่บ้านคนเดียว
จะว่าเธอว่างงานก็คงไม่ใช่เสียทีเดียว แต่เธอไม่ไปช่วยงานคนบ้านใหญ่เลยต่างหาก เสียงด่าทอดังให้ได้ยินทุกวัน เธอฟังหูซ้ายทะลุหูขวาราวกับไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
