เกิดใหม่เป็นสะใภ้สามผู้อ่อนแอ
บรรยากาศที่เย็นและเงียบสร้างความอึดอัดให้แก่
คนที่หลับอยู่ เปลือกตาสีไข่ขยับไปมาก่อนลืมตาขึ้นในความมืด ร่างกายเจ็บปวดระบมอย่างหนัก เฉินซือหยู่พยุงตัว
ขึ้นนั่งพิงบริเวณหัวเตียง หลังจากได้รับแรงกระแทกจากการทดลองเธอหมดสติไปทันที ตอนนี้คงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่แล้วสิ่งที่ทำให้ไม่เข้าใจก็คือ ที่นี่คือที่ไหน!
โรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ใกล้ศูนย์เพาะพันธุ์ที่สุดคือโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ทำไมตอนนี้มันถึงได้มืดและมีกลิ่นอับขนาดนี้ได้กัน มือทั้งสองข้างยกขึ้นนวดขมับด้วยความปวดเมื่อมีความทรงจำที่ไม่ใช่ของตัวเองหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้เธอไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังเรื่องการเพาะพันธุ์กล้วยไม้ แต่เป็นเฉินซือหยู่ลูกสะใภ้สามของบ้านจางในปี 1978 ต่างหาก! ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมทำให้เฉินซือหยู่ต้องส่ายหน้า
ประชากรชาวจีนเพิ่งได้รับการจัดสรรแบ่งที่ดินในการทำกินแต่ในเมื่อประเทศเพิ่งเริ่มปฏิรูป ยังเป็นช่วงที่ข้าวยากหมากแพงค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอต่อครอบครัว
บ้านจางได้รับจัดสรรแบ่งที่ดินจำนวนหนึ่ง พวกเขาทำนาและปลูกผัก เพื่อนำไปแลกของในสหกรณ์ ยังไม่มี
การแบ่งแยกครอบครัว ทุกวันสะใภ้ของบ้านต้องเก็บผัก
และนำเข้าไปแลกของใช้ของกินในสหกรณ์ เพราะตอนนี้
ยังไม่มีการค้าเสรี ปัจจุบันเฉินซือหยู่คือลูกสะใภ้สาม
ของบ้านจางที่มีสามีเป็นทหาร และเขาจะกลับมาที่บ้านเพียงปีละครั้งทำให้เจ้าตัวถูกครอบครัวของสามีข่มเหง โดยเฉพาะแม่สามีกับพี่สะใภ้ใหญ่ที่บังคับเฉินซือหยู่
ทุกอย่าง ยิ่งสะใภ้สามไม่มีลูกให้สามียิ่งทำนางหลี่ซินหราน
ผู้เป็นแม่สามีรังแกลูกสะใภ้ กล่าวหาว่าเป็นแม่ไก่ไม่ออกไข่ทั้งที่ลูกชายแยกกับลูกสะใภ้อยู่
พ่อจางแม่จางมีลูกชายสี่คนและลูกสาวคนเล็กที่ยังไม่ได้แต่งงาน ลูกชายคนโตมีภรรยาและมีหลานชายให้บ้านสามีทำให้แม่จางรักครอบครัวบ้านใหญ่ที่สุด
ครอบครัวลูกชายคนรองของบ้าน มีชะตาไม่ต่างจากเฉินซือหยู่เท่าไร เพราะสะใภ้รองมีเพียงลูกสาวไม่ได้มีหลานชายให้แม่สามีตามความต้องการ คงโชคดีกว่าสะใภ้สามหน่อยที่มีสามีคอยปกป้องอยู่
บ้านสามมีเพียงจางซือหยวนผู้เป็นสามีและ
เฉินซือหยู่ลูกสะใภ้ผู้น่าสงสารที่ต้องห่างสามี เนื่องจาก
ลูกชายสามของบ้านจางเป็นทหารเขาจะลาพักร้อนกลับมาบ้านปีละครั้งเท่านั้น พวกเธอแต่งงานมาได้สองปีแล้วและ
ไม่มีลูกด้วยกัน
บ้านสี่เป็นบ้านของลูกชายสี่ที่แต่งงานและมีลูกชายทำให้เป็นอีกบ้านที่ได้รับความดูแลเอาใจใส่จากแม่สามีพ่อสามี ยิ่งตอนนี้บ้านสี่มีลูกสาวคนเล็กเพิ่มเข้ามานาง
หลี่ซินหรานเลี้ยงหลานสาวแบบผู้ดี น้องสาวคนเล็กของบ้านปีนี้อายุสิบเจ็ดปีแล้วหล่อนเรียนโรงเรียนมัธยมปลายในตำบล เพราะนางหลี่ซินหรานอยากให้ลูกสาวแต่งกับคนมีเงินจึงยอมส่งลูกสาวเรียน
“ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร”
เดิมทีตัวเธอเองเป็นนักวิทยาศาตสร์ไม่เชื่อในเรื่องแบบนี้หากไม่เกิดขึ้นกับตัวเองจริง ๆ ไม่รู้ว่าผู้ช่วยคนสองคนนั้นจะรอดหรือไม่แต่ว่าเฉินซือหยู่ภาวนาไม่ให้พวกเขาเสียชีวิตอย่างเธอ
ถ้าจำไม่ผิดพวกเขามีแม่และพ่อที่แก่ชรารอให้กลับบ้านอยู่ ส่วนตัวของเฉินซือหยู่เธอเป็นลูกสาวของนางแบบ
ที่เสียชีวิตจากการถูกรถชนตั้งแต่เรียนจบ ทำให้ไม่ต้อง
เป็นห่วงเรื่องที่จะมีคนรออยู่ ส่วนพ่อเสียชีวิตก่อนที่เธอ
จะเกิดซะอีก
“ฉันคิดว่าฉันอาภัพแล้วยังมีคนน่าสงสารกว่าฉันอีก”
ในความทรงจำที่ได้รับมาเฉินซือหยู่แต่งงานตั้งแต่
สิบแปดเพราะตอนนั้นพี่ชายต้องการนำเงินไปแต่งภรรยา
ที่ีจริงความสัมพันธ์ของเฉินซือหยู่ไม่ได้แย่และเป็นตัวเธอเองที่เสนอแต่งงานเพื่อนำเงินให้พี่ชายได้แต่งภรรยา แต่พอแต่งออกมาแม่สามีไม่ต้องการให้ติดต่อบ้านเดิมหล่อนจึงไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวอีก
เฉินซือหยู่ถอนหายใจเรื่องนี้ยากจะยอมรับ และเธอรู้ดีว่าร่างของเธอถูกแรงระเบิดจากการทดลอง ไม่มีทางที่มันจะเป็นความฝัน เพื่อความอยู่รอดต่อไปคงต้องหาทางทำให้บ้านจางไม่วุ่นวายกับเธอแต่วันนี้คงต้องพักก่อน เปลือกตาปิดลงอย่างรวดเร็วเมื่อคิดได้ว่าพรุ่งนี้ยังมีหลายอย่างที่ต้องจัดการ เพื่อความอยู่รอดในยุคข้าวยากหมากแพงและยังมีแม่สามีใจร้ายอีกด้วยฉะนั้นเธอต้องเก็บแรงเอาไว้รับมือกับวันพรุ่งนี้...
