ตอนที่ 5 : สัญญาที่ผูกหัวใจไว้กับเวลา
ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงนาฬิกาเดินช้า “ติ๊ก…ติ๊ก…” สม่ำเสมอราวกับเวลากำลังท่องจำบางอย่าง
บนหัวเตียงมีโพสต์อิทสีครีมติดอยู่ แค่เห็นลายมือก็รู้ว่าเป็นของเธอ
“12 วัน อย่ากลัวลมหายใจของตัวเอง — อ.”
ผมหยิบมันขึ้นมาดู วงแหวนเงินที่นิ้วนางเริ่มสั่นตามจังหวะหัวใจ
ความทรงจำคืนก่อนยังชัด — แสงสีขาว, เสียงเธอพูด “ฉันขอเป็นฝ่ายจบสัญญานี้เอง”
ผมยกมือแตะแหวน “12 วันสุดท้ายสินะ…”
ห้องรอบตัวเหมือนเดิมแต่เงียบผิดปกติ เสื้อนอกพาดไว้บนเก้าอี้มีฝุ่นบางๆ จับอยู่
โทรศัพท์สั่น ข้อความใหม่จากเบอร์ที่ไม่รู้จักเด้งขึ้นมา
[แจ้งเตือนระบบหลัก Kirin Group]
พบไฟล์เข้ารหัส “BreathDebt_A-Log” อัปเดตล่าสุดเวลา 07:14 น.
ต้องใช้กุญแจสองวง (K + A) เพื่อเปิดใช้งาน
ผมจ้องข้อความนั้นอยู่นาน “กุญแจสองวง” — หมายถึงวงของผมและของเธอ
แต่แหวนของเธอแตกไปแล้ว… หรือเธอฝากส่วนของมันไว้ที่อื่น?
ผมคว้าเสื้อคลุม เดินทางไปยัง Ayan Corp.
ยามหน้าอาคารยังจำผมได้ เขายิ้มให้ แต่ผมไม่ได้ตอบ สิ่งเดียวที่ผมอยากรู้คือความจริงในเซิร์ฟเวอร์หลัก
ห้องเซิร์ฟเวอร์เย็นจัดจนลมหายใจกลายเป็นไอ
แสงจากไฟแผงสีน้ำเงินกะพริบสม่ำเสมอ
“คุณเข้ามาทำอะไรครับ” เสียงคุ้นเคยดังจากด้านหลัง — ธาม
แต่ในเส้นเวลานี้ เขาสวมชุดช็อปเทา มีบัตรพนักงานสลักคำว่า “ฝ่ายความปลอดภัยข้อมูล”
ผมยิ้มจาง ๆ “ดีใจที่นายยังอยู่…แต่ในบทบาทใหม่”
“ถ้าคุณจะเปิดไฟล์ต้องห้าม ผมคงต้องห้ามก่อนครับ”
“ผู้ถือกุญแจ ‘A’ ตายแล้ว?” ผมถาม
“ไม่ใช่ตาย” เขาตอบ “แค่หายไปจากระบบ”
ผมเดินเข้าใกล้ตู้เซิร์ฟเวอร์กลางที่มีตรา DEBT OF BREATH บนแผ่นโลหะ
“เปิดมันสิ”
ธามลังเล ก่อนใช้การ์ดแม่เหล็กแตะ “ผมช่วยคุณได้แค่นี้”
เสียงล็อก “แกร๊ก” ดังเบา ๆ ประตูตู้เปิด เผยให้เห็นหลอดแก้วใสสองหลอด
หลอดหนึ่งมีผงเงินไหลวน อีกหลอดว่างเปล่า
“กุญแจ A กับ K” ธามว่า
ผมแตะหลอดผงเงิน แหวนบนมือสั่นตอบรับ หน้าจอข้างตู้สว่างขึ้น
BreathDebt_A-Log :: เปิดอ่านแบบเงียบ (Ghost Read)? [Y/N]
ผมกด Y
ตัวอักษรปรากฏบนจอเรียงช้า ๆ
Day 1/13 — ถ้าเธอเห็นบันทึกนี้ แปลว่าฉันในเส้นเวลานี้ยกสัญญาให้คุณแล้ว
อย่ากลัวลมหายใจของตัวเอง
คุณจะได้ยินสองจังหวะเสมอ — หนึ่งของคุณ หนึ่งของฉัน
หากอยากปิดคำสาปนี้ เราต้องตั้ง “สัญญาใหม่” ด้วยกฎใหม่
กฎใหม่ 3 ข้อ:
1. ห้ามเลือดแตะวงแหวน
2. ห้ามพูดคำว่า “ตลอดไป” ต่อหน้ากระจก
3. ห้ามตัดสินใจแทนกันในเวลาเที่ยงคืน
พบฉันที่สะพานกระจกเหนือคลองศูนย์กลาง คืนนี้ 23:47 น.
ข้อความสิ้นสุดลง ผมหันไปมองธาม เขาพยักหน้า “เธอเตรียมไว้แล้วจริง ๆ สินะ”
ผมกำมือแน่น วงแหวนอุ่นขึ้นอีกครั้งราวกับยืนยันคำเชิญนั้น
“คืนนี้…” ผมพูดเบา ๆ “ผมจะไปหาคำตอบด้วยตัวเอง”
สะพานกระจกเหนือคลองกลางเมืองยามค่ำคืนเปล่งประกายด้วยแสงสะท้อนของตึกสูง น้ำในคลองเบื้องล่างนิ่งจนเห็นเงาจันทร์เต็มดวงชัดเจนเกินจริง
เวลา 23:45 น. ผมยืนอยู่กลางสะพาน มือกำวงแหวนแน่น เสียงลมหายใจสองจังหวะดังในอกสอดคล้องกัน — หนึ่งของผม อีกหนึ่งของเธอ
“อีกสองนาที” ผมพึมพำ
แล้วอุณหภูมิรอบตัวก็ลดฮวบ ลมหยุดนิ่งทุกทิศ เหมือนทั้งเมืองกลั้นหายใจ
เศษแสงสีเงินเริ่มลอยขึ้นจากพื้นกระจก กลายเป็นละอองหมอกบางๆ ก่อนรวมกันเป็นรูปร่างของหญิงสาว
เธอยืนอยู่ตรงหน้าในชุดขาวเรียบ เส้นผมปลิวไหวเบา ๆ ดวงตานิ่งสงบเหมือนผืนน้ำกลางคืน
“อายันต์…” ผมเรียกชื่อเธอออกไปโดยไม่รู้ตัว
“คุณมาช้าไปนาทีหนึ่ง” เสียงเธอนุ่มแต่นิ่ง “แต่ดีแล้วที่ยังมา”
ผมก้าวเข้าไปใกล้ เธอเอียงหน้าเล็กน้อย “อย่าขยับอีกก้าว ถ้าคุณก้าวเกินขอบสะพานตอนนี้ เวลาในตัวคุณจะเริ่มไหลสวน”
“แล้วคุณล่ะ” ผมถาม
“ฉันไม่ได้อยู่ในเวลาแล้ว” เธอตอบเรียบ ดวงตาเธอสั่นไหวแวบหนึ่ง “ฉันเป็นเพียงเศษของคำสัญญา ที่คุณยังไม่ยอมปล่อย”
ผมเงียบ รู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบแน่น “งั้นที่เขียนไว้ในบันทึก… มันหมายความว่าไง”
“สัญญาใหม่” เธอตอบ “เราจะยังอยู่ในเส้นเวลาเดียวกันได้ หากทำตามกฎทั้งสามข้อ”
เธอพูดพลางยกมือขึ้น แหวนเงินวงใหม่ค่อย ๆ ก่อตัวจากละอองแสงแล้วเลื่อนเข้ามาหาผม “แต่มันมีเงื่อนไขเพิ่มเติมอีกข้อที่ฉันเพิ่งรู้ตอนนี้”
“อะไร?”
เธอยิ้มบาง “ห้ามรักคนเดิมซ้ำสองในเส้นเวลาเดียวกัน”
คำพูดนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงกลางอก ผมก้าวเข้าหาเธอ “นี่คุณล้อเล่นใช่ไหม”
“ไม่ใช่” เธอตอบแผ่วเบา “ถ้าคุณรู้สึกแบบเดิมกับฉันอีกครั้ง ทุกสิ่งจะย้อนกลับทันที—ไม่ใช่แค่เส้นนี้ แต่ทุกเส้นที่เราเคยอยู่ด้วยกันจะถูกลบ”
ผมกลั้นหายใจ พยายามไม่ให้เสียงสั่น “งั้นคุณให้ผมจำ แต่ห้ามรัก?”
เธอก้มหน้า “เพราะความรักของคุณคือกุญแจที่ผูกเวลาไว้ ถ้ามันเต้นแรงเมื่อใด หนี้ของเรา…จะเริ่มใหม่”
ผมหัวเราะในลำคอ “งั้นผมต้องทำยังไง ให้มันไม่รัก”
เธอเงยหน้าขึ้น มุมปากยกขึ้นอย่างเศร้า “คุณทำไม่ได้หรอก”
แสงจันทร์ส่องลอดผ่านร่างเธอจนผมเห็นเงาด้านหลังเป็นเพียงหมอก
“ตอนนี้คุณมีเวลา 12 วัน เพื่อเขียนสัญญาใหม่ให้จบ” เธอกล่าวช้า ๆ “ไม่ใช่เพื่อต่อเวลา…แต่เพื่อเลือกตอนจบที่เราทั้งคู่จะไม่ต้องย้อนอีก”
ผมพยักหน้า “แล้วเราจะเริ่มยังไง”
“ด้วย ‘ลมหายใจเดียวกัน’ เหมือนวันแรกที่เราสาบาน” เธอพูดพร้อมก้าวเข้ามาใกล้
มือเธอเย็นจัด แต่เมื่อแตะหลังมือผม วงแหวนทั้งสองวงก็ส่องแสงพร้อมกัน
ลมหายใจในอกผมเริ่มหนักขึ้น — สองจังหวะเริ่มผสานกันเป็นหนึ่ง
“ตอนนี้…” เธอกระซิบ “คุณเป็นคนถือเวลาแทนฉันแล้ว”
“หมายความว่า?”
“ต่อจากนี้ ถ้ามีใครต้องหายไป — จะเป็นคุณที่เลือก”
เสียงลมพัดผ่านสะพานอีกครั้ง อุณหภูมิกลับมาเหมือนเดิม
ร่างของเธอค่อย ๆ จางหายไปพร้อมแสงจันทร์
เหลือเพียงเสียงเธอในความเงียบ
“อย่าลืม… ความรักคือหนี้ที่เวลาไม่ยอมให้ปลดง่าย ๆ”
ผมยืนอยู่ลำพังกลางสะพาน วงแหวนที่มืออุ่นจัดจนเหมือนมีหัวใจเต้นอยู่ข้างใน
บนกระจกใต้เท้า มีรอยตัวอักษรจาง ๆ ปรากฏขึ้นจากละอองน้ำ
“วันแรกของสัญญาใหม่ — เหลือ 11 วัน”
ผมยังคงยืนอยู่ตรงนั้น จ้องข้อความบนพื้นกระจกที่ค่อย ๆ จางหายไปพร้อมละอองน้ำ
“วันแรกของสัญญาใหม่—เหลือ 11 วัน”
ลมหายใจของผมเริ่มหนักขึ้นอีกครั้ง เสียงหัวใจสองจังหวะผสานกันแน่นจนแยกไม่ออกว่าอันไหนเป็นของผม อันไหนเป็นของเธอ
ทันใดนั้น แสงจากวงแหวนก็สว่างวาบขึ้นจนต้องยกมือบังตา
ภาพตรงหน้าพลันเปลี่ยน — กลายเป็นเมืองเดียวกัน แต่ถูกห่อด้วยหมอกหนา ผู้คนเดินผ่านไปมาเหมือนภาพซ้อนที่ไร้เสียง
กลางหมอกนั้น ผมเห็นเธอ—อายันต์ในชุดดำ ยืนอยู่ตรงข้ามริมสะพาน ดวงตาเย็นเยียบจนผมไม่กล้าขยับ
“ในวันสุดท้ายของสัญญา นายจะต้องเลือก…”
เสียงเธอดังก้องในหัว ไม่ใช่จากปาก
ผมพยายามถาม “เลือกอะไร?”
แต่คำพูดกลับไม่ออก เสียงถูกกลืนหายไปในหมอก
เธอก้าวเข้ามาใกล้เพียงก้าวเดียว ก่อนพูดช้า ๆ
“เลือกระหว่าง เวลา กับ หัวใจ”
แล้วทุกอย่างดับวูบลง
ผมสะดุ้งตื่นอีกครั้งในห้องนอนของตัวเอง
แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านม่านเข้ามาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในมือ—วงแหวนร้อนจัดจนแทบไหม้
หน้าจอโทรศัพท์ขึ้นข้อความใหม่จากเบอร์ที่ไม่มีชื่อ
“11 วัน — เลือกให้ถูก”
ผมมองมันนิ่ง ก่อนพึมพำเบา ๆ
“ถ้าเลือกหัวใจหมายถึงเสียเวลาไป…งั้นผมจะสร้างเวลาขึ้นใหม่เอง”
วงแหวนส่องแสงอีกครั้ง แสงนั้นแผ่วเบาแต่แน่วแน่ — เหมือนคำตอบที่ผมรู้ดีในใจอยู่แล้ว
และเกมของเวลา…เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
