บท
ตั้งค่า

บทนำ ทางออกที่ช่วยหาให้ 2/2

“ตั้งแต่เล็กๆเมิ่งเมิ่งออกไปเล่นไม่ได้ ไปเที่ยวเล่นแบบคนอื่นๆก็ไม่ได้ ปีนี้เมิ่งเมิ่งอายุสิบเจ็ด หากเป็นลูกสาวบ้านอื่นไม่หมั้นหมายแล้วก็คงจะขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวตบแต่งออกเรือนไปแล้ว ชีวิตของเมิ่งเมิ่งควรจะดำเนินไปอย่างผู้อื่น เวลานี้นางควรได้แต่งเข้าไปในตระกูลดีๆมิใช่หรือ”

ในที่สุดเหลียงฮูหยินก็พรั่งพรูเรื่องในใจที่กังวลออกมาจนหมด

อี้เหม่ยหลันที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็พลันคิดได้ จึงเอ่ยออกมาทันทีว่า

“เช่นนั้นก็ให้เมิ่งเมิ่งแต่งเข้าตระกูลข้าก็แล้วกัน

หนึ่งเดือนต่อมา ณ เรือนหน้าแห่งจวนสกุลเว่ย ฮูหยินเว่ยและผู้เป็นสามีกำลังนั่งรอการกลับมาของบุตรชายคนของพวกเขาอย่างเว่ยมู่เหยียนอยู่ นั่งรอได้พักใหญ่บุตรชายที่พวกนางรอคอยจึงได้ก้าวเข้ามา

“คาราวะท่านพ่อท่านแม่ขอรับ” เขาเอ่ยเคารพต่อบิดามารดาของตนที่ไม่ได้พบปะกันมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ

“เดินทางเรียบร้อยดีใช่หรือไม่” คำถามนี้ออกจากจากของผู้เป็นบิดา

“เรียบร้อยดีขอรับ” เขาเอ่ยตอบผู้เป็นบิดา

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว”

น้ำเสียงยินดีเอ่ยขึ้นกับลูกชายของตนอย่างไม่ปิดบัง พลางอดคิดในหัวไม้ได้ว่าทั้งที่ตัวเขาผู้เป็นบิดาแท้ๆยังเป็นผู้เปิดเผยทั้งด้านอารมณ์และสีหน้าเช่นผู้อื่น

หากแต่เหตุใดบุตรชายผู้นี้ของเขาจึงมักจะแสดงสีหน้าเรียบเฉยอยู่เสมอไม่ว่าจะพูดคุยเรื่องใดล้วนแล้วแต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสีหน้าแต่อย่างใด

บุตรชายผู้นี้ของเขา ในหัวคิดสิ่งใดล้วนยากแท้จะรู้ได้ รู้สึกเช่นใดอยู่ยิ่งดูยากยิ่งนัก แต่ถึงอย่างนั้นกับดูสมกับที่เป็นบุตรผู้ที่ขึ้นมากุมบังเหียนการค้าของตระกูลแทนเขายิ่งนัก

“เจ้ามีสิ่งใดจะเอ่ยกับลูกก็รีบเอ่ยเถอะ ลูกเดินทางมาเหนื่อยจะได้รีบกลับไปพักผ่อนที่เรือน”

เว่ยจิ่งหยวนหันไปเอ่ยบอกผู้เป็นภรรยาที่นั่งอยู่ข้างกัน

ทั้งที่นางเป็นคนชวนเขาออกมารอลูกอยู่ที่เรือนหน้าเองแท้ๆแต่พอลูกมาแล้วดันทิ้งให้เขาเป็นคนเริ่มเอ่ยบทสนทนาออกมาก่อน

“วันที่สี่เดือนหน้าห้ามออกไปทำงาน” ฮูหยินเว่ยเอ่ยออกมา

แน่นอนว่าพอได้ยินประโยคที่มารดาเอ่ยออกมาเว่ยมู่เหยียนก็ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม มีเพียงคิ้วเรียวเท่านั้นที่ขมวดขึ้นเล็กน้อยด้วยความไม่เข้าใจ

“วันที่สี่เดือนหน้าเป็นวันที่จะมีสินค้ามาส่งเข้าร้านครั้งใหญ่ขอรับ ข้าคงไม่อาจหยุดงานได้” เขาตอบไปตามตรง แม้จะไม่เข้าใจว่าเหตุใดมารดาจึงอยากให้เขาหยุดงานในวันนั้น

“มอบงานให้ผู้อื่นไปทำ ส่วนเจ้าหยุดงานเพื่อไปรับเกี้ยวเจ้าสาวซะ”

“รับเกี้ยวเจ้าสาว?” เขาเอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

“ใช่แล้ว หนึ่งเดือนที่เจ้าไม่อยู่แม่จัดการเรื่องสู่ขอและเรื่องสินสอดเอาไว้เสร็จสิ้นแล้ว กำหนดวันแต่งงานคือวันที่สี่เดือนหน้า” นางเอ่ยไขข้อสงสัยให้บุตรชายตนด้วยท่าทีเรียบเฉย หาได้สนใจไม่ว่ายามนี้ใบหน้าที่มักจะเรียบเฉยเสมอของบุตรชายนั้นกำลังยับยุ่งไปกว่าครึ่งหน้าด้วยความไม่สบอารมณ์เพียงใด

“เฮ้อ”

เสียงถอนหายใจดังออกมาจากบุรุษที่ยามนนี้กลับมาแสดงสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกอีกครั้ง

มารดาถือโอกาสยามที่เขาไม่อยู่แอบจัดการทุกอย่างอีกแล้ว ครั้งนี้เขาคงจะต้องแต่งงานตามที่มารดาได้เตรียมการเอาไว้ให้จบๆกันไปเสียที อย่างน้อยๆจะได้ตัดปัญหาเรื่องแต่งงานของเขาไปได้เรื่องหนึ่ง

“ขอถามท่านแม่ ไม่ทราบว่า ว่าที่เจ้าสาวคือผู้ใดกัน” เขาตัดสินใจเอ่ยถามขึ้นแทนจะแสดงทีท่าขัดขืนหรือไม่เห็นด้วยกับงานแต่งงานที่มารดาได้กำหนดเอาไว้แล้ว

“ไม่ใช่คนอื่นคนใกล้หรอก บุตรสาวคนรองของสกุลเหลียง เหลียงซูเมิ่งอย่างไรเล่า”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel