ตอนที่ 10 พี่สาวมาเยือน2
ตกเย็นแน่นอนว่าในครอบครัวสกุลเหลียงนั้นย่อมมีการจัดเลี้ยงต้อนรับคุณหนูใหญ่ที่กลับมาเยี่ยมบ้าน พวกนางต่างอยู่ทานอาหารด้วยกันอย่างพร้อมหน้า มีท่านพ่อ ท่านแม่ พี่สาว ตัวนาง รวมไปถึงน้องชายคนเล็กอย่างเหลียงหลงซือ ต่างคนต่างพากันพูดคุยอย่างสนุกสนานมื้ออาหารมื้อนี้จึงเตรียมไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
ยามเมื่อทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ยังรั้งอยู่คุยเล่นกันต่อ ท่านพ่อของนางและน้องชายคนเล็กอย่างเหลียงหลงซือนั่งเล่นหมากล้อมอยู่ที่ตั้งยาวติดหน้าต่างที่ยามนี้ถูกดึงม่านลงมากั้นลมเย็นเป็นที่เรียกร้อยแล้ว
ส่วนตัวนาง พี่สาว และท่านแม่นั้น เปลี่ยนมานั่งที่เก้าอี้ไม้ที่ไม่ไกลกันนัก พวกนางพากันลิ้มลองชาที่พี่สาวของนางน้ำมาจากบ้านเกิดพี่เขย
“ไม่รู้ว่ารสชาติชาจากแดนใต้จะมีรสดีถึงเพียงนี้” เหลียงฮูหยินเอ่ยขึ้นหลังจากที่จิบชาที่บุตรสาวคนโตของนางตั้งใจรินให้
“แน่นอนว่าต้องเป็นชารสดีที่สุดของแดนใต้ ลูกจะกล้านำของไม่ดีมาให้ท่านมาแม่ดื่มได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ” เสียงหวานเอ่ยตอบมารดาตนอย่างเอาใจ
คำพูดของนางทำเอาท่านแม่และน้องสาวของนางหัวเราะออกมาอย่างขบขั้น ก่อนที่ท่านแม่ของนางจะเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี “ลูกสาวคนโตของข้าช่างกตัญญูรู้ความยิ่ง”
“แม้บุตรสาวอย่างข้าจะกตัญญูรู้คุณท่านพ่อกับท่านแม่เพียงใด แต่ก็ได้ออกเรือนไปอยู่ไกลถึงแดนใต้แล้ว เห็นทีคงต้องฝากให้น้องรองกับน้องเล็กช่วยกตัญญูพวกท่านแทนข้าแล้ว”
“ข้าผู้เป็นบุตรสาวคนโตกลับไม่ได้อยู่ใกล้ๆดูแลพวกท่าน ในใจยามนี้รู้สึกผิดยิ่ง” เหลียงซีซีเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเสียใจจริงๆเช่นที่กล่าวออกมา
แน่นอนว่าเหลียงฮูหยินผู้เป็นมารดาเมื่อเห็นว่าบุตรสาวของนางกำลังไม่สบายใจ ย่อมไม่สบายใจไปด้วย
“เรื่องดูแลแม่เจ้าไม่ต้องห่วง แม้อีกไม่กี่วันเมิ่งเมิ่ง น้องเจ้าจะแต่งออกไปแล้ว แต่นางก็ไม่ได้ไปอยู่ไกล ไปมาหาสู่กันได้ไม่ยากลำบาก ส่วนที่จวนก็ยังมีน้องชายเจ้า อีกไม่กี่ปีก็แต่งสะใภ้สักคนได้แล้ว เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าก็ไม่ต้องกลัวว่าแม่จะไม่มีคนดูแลหรอกนะ”
นั่งฟังท่านแม่กับพี่สาวของนางคุยกันกับยิ่งรู้สึกว่าตัวนางนั้นช่างไร้ประโยชน์ยิ่ง นางไม่กล้าพูดออกไปด้วยซ้ำว่าไม่ต้องให้พี่สาวต้องกังวลตัวนางจะดูแลท่านแม่เอง เพราะที่ผ่านมาเป็นนางที่ถูกท่านแม่ดูแลมาตลอด ท่านแม่ประคองนางเอาไว้บนฝ่ามือตัวเองดูแลปกป้องอย่างดีที่สุด
ตัวนางที่แม้กระทั่งดูแลตัวเองยังไม่รอด แล้วจะดูแลคนในครอบครัวได้อย่างไร ช่างน่าละอายใจนัก ทว่าแม้จะรู้สึกละอายใจเพียงใดแต่นางกลับต้องข่มความรู้สึกนั้นเอาไว้และยิ้มออกมา เพื่อที่จะได้ไม่ให้มีผู้ใดต้องรู้สึกเป็นห่วงนางไปมากกว่านี้อีก
“คุณหนูรองไม่ทราบท่านจำบ่าวได้หรือไม่เจ้าคะ”
เสียงสุภาพที่ดังขึ้นทำให้เหลียงซูเมิ่งหันไปตามเสียง เมื่อหันไปแล้วจึงพบกับแม่บ้านถงซึ่งเป็นคนสนิทของท่านย่าของนาง
“แม่บ้านถงท่านสบายดีหรือไม่” นางเอ่ยถามออกไป
“บ่าวสบายดีเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว พวกเรารีบเขาเรือนไปคุยกันเถอะ” นางเอ่ยก่อนจะพากันเดินตรงไปยังเรือนของนาง โดยที่แม่บ้านถงนั้นรีบเข้ามาประคองนางเดินแทนติงหยู่ที่เป็นฝ่ายรับห่อผ้าในมือของแม่บ้านถงไปแทน
เมื่อเข้ามาในเรือนของนาง แน่นอนว่าแม่บ้านถงนั้นก็ยังคงจัดแจงน้ำชาให้นางอย่างรู้ใจ ไม่นานชากลิ่นหอมก็ถูกรินมาวางอยู่ตรงหน้าของนางแล้ว ด้านแม่บ้านถงก็ถอยไปยืนอยู่ข้างๆติงหยู่แทน
“ฝีมือการชงชาของแม่บ้านถงยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” นางจิบชาอย่างอารมณ์ดีพลางเอ่ยชมคนชงไม่ขาดปาก
“เห็นคุณหนูรองชอบบ่าวก็ดีใจแล้วเจ้าค่ะ” ใบหน้ายิ้มแย้มยินดีปรากฏต่อหน้านาง
ใบหน้าที่ดูใจดียิ่งนี้ทำเอาคนมองเช่นนางรู้สึกอบอุ่นสบายใจยิ่ง อาจเป็นเพราะยามเมื่อนางยังเล็กเคยได้แม่บ้านถงผู้นี้ดูแลอยู่ช่วงหนึ่งกระมังนางจึงค่อนข้างไว้ใจแม่บ้านถงเป็นอย่างมาก จำได้ว่ามีครั้งหนึ่งนางเป็นไข้ไม่ได้สติสามวันก็ได้แม่บ้านถงผู้นี้แหละคอยเฝ้าคอยดูแล
“ท่านย่าสบายดีใช่ไหมแม่บ้านถง”
“ฮูหยินผู้เฒ่าสบายดีเจ้าค่ะ ฮูหยินผู้เฒ่าร่างกายแข็งแรงคุณหนูอย่าได้เป็นห่วงเจ้าค่ะ”
“มีแม่บ้านถงดูแลท่านย่าอย่างดีแน่นอนว่าพวกเราทางนี้ย่อมคลายกังวล”
“คุณหนูเอ่ยชมมากไปแล้วคาดว่าบ่าวเกรงจะรับเอาไว้ไม่ไหวเสียแล้วเจ้าค่ะ” แม่บ้านถงพูดต่อย่างยิ้มแย้ม
“คำชมเป็นสิ่งที่ท่านควรได้รับ ข้าย่อมต้องชมเป็นธรรมดาแม่บ้านถงก็อย่าได้เบื่อคำชมของข้าเลย” นางเอ่ยอย่างหยอกเย้า
แม่บ้านถงยังคงยิ้มแย้มรับคำอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะหันไปหยิบห่อผ้าจากมือติงหยู่ที่อยู่ข้างๆมาวางเอาไว้ที่บนโต๊ะเบื้องหน้านาง
“คุณหนูรองนี่เป็นของขวัญที่ฮูหยินผู้เฒ่าให้บ่าวนำมาให้ท่านเจ้าค่ะ”
แม่บ้านถงเอ่ยพร้อมกับแกะผ้าออก เมื่อแกะห่อผ้าออกแล้วกล่องไม้ที่แกะสลักเอาไว้อย่างสวยงามจึงปรากฏให้นางเห็น
ซูเมิ่งเปิดฝากล่องออกก็ปรากฏถุงเครื่องหอมที่แสนประณีตงดงามจำนวนห้าอัน แน่นอนว่านอกจากความงามของถุงเครื่องหอมนี้แล้ว ที่ลอยฟุ้งทันทีในอากาศก็คือกลิ่นหอมของถุงหอมเหล่านี้
“ท่านย่าใส่ใจข้าเสมอจริงๆ”
“แน่นอนเจ้าค่ะ ฮูหยินผู้เฒ่าลงมือเก็บดอกไม้เองกับมือท่านเลยเจ้าค่ะ เรียกได้ว่าตั้งใจทำให้คุณหนูด้วยตัวเองตั้งแต่ขั้นตอนแรก” แม่บ้านถงเอ่ยเสริม
เมื่อนางได้ยินดังนั้นยิ่งรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ในคิดนึกไปถึงท่านย่าที่อยู่ไกลอย่างคิดถึง
นางแม้จะร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เล็กแต่กับโชคดีที่ตัวนางเป็นที่รักของทุกคนในครอบครัวเสมอ นี่คงกล่าวได้ว่ามีเรื่องดีปรากฏในเรื่องร้ายได้กระมัง
ก่อนที่จะให้แม่บ้านถงกลับไปพักผ่อนนางไม่ลืมที่จะให้สินน้ำใจเล็กน้อยติดไปด้วย เพื่อแสดงความขอบคุณที่แม่บ้านถงนั้นอุตส่าห์เดินทางไกลมาเพื่อมอบของขวัญให้นางแทนท่านย่า
