บทที่ 10 เรื่องเมื่อคืน
Cher talk :
ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกปวดร้าว ทั้งที่หัวและที่หว่างขา พอหันไปเห็นผู้ชายที่ฉันนอนด้วยเมื่อคืนนอนหลับอยู่ที่ด้านข้าง ฉันก็พยายามทำทุกอย่างให้เงียบและรวดเร็วที่สุด ฉันคว้าเสื้อผ้าออกไปใส่ที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะออกมาจากห้อง
ทุกก้าวที่ย่างเดิน ทุกการสั่นสะเทือนที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดที่ตรงส่วนนั้น มันตอกย้ำให้ฉันรู้ว่า...เมื่อคืนนี้ฉันเสียครั้งแรกให้ผู้ชายคนนั้นไปแล้วจริงๆ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่ฉันจะมาเสียใจหรือด่าตัวเอง ฉันต้องรีบกลับห้อง อาบน้ำแต่งตัว เพราะวันนี้ฉันต้องขึ้นเวรแต่เช้า แต่ก็อดจะด่าตัวเองไม่ได้จริงๆ ฉันมันบ้า! บ้าไปแล้วแน่ๆที่ไปนอนกับคนที่รู้จักเพียงชื่อ...ไม่อยากจะคิดเลยว่าเมื่อคืนฉันต้องกระเหี้ยนกระหือรือแค่ไหน ถึงได้ไปนอนกับเขาได้ ทำไมนะ...! ทำไมถึงได้คิดอะไรสั้นๆแบบนั้น!
“ไม่ๆ เรื่องมันเกิดขึ้น แล้วก็จบลงแล้ว...เราไม่พูด เขาไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้! เลิกคิดๆ ตั้งสติสิเฌอร์!”
ฉันกลับไปที่คอนโดรีบทำธุระให้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ไปที่โรงพยาบาล ฉันจัดเก็บความคิดทุกอย่างลงกล่องแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ต้องทำตัวให้ยุ่งและวุ่นวายเข้าไว้ ฉันถึงจะเลิกคิดเรื่องนั้นได้ และฉันเกือบจะลืมเรื่องนี้เกิดขึ้นไปแล้วด้วยซ้ำ จนกระทั่ง...ฉันได้เจอลิปดาตอนพักกลางวัน
“ไง...” เขาเอ่ยทักฉันขณะที่เดินถือแก้วกาแฟมานั่งร่วมโต๊ะ ใบหน้าของนาวินลอยเข้ามาในหัวฉันทันที ไม่แปลกเลยที่ฉันจะคิดถึงเขา เพราะมันมีความเชื่อมโยงกันตรงที่ลิปดานั้นเป็นคนกลางระหว่างฉันกับนาวินนั่นเอง
“ลลิลล่ะ?”
“ติดเคสน่ะ ได้ข่าวว่าเมื่อคืนนี้เธอออกไปเที่ยวกับแก๊งพยาบาลมา” เหอะ! นี่เขาไม่มีเรื่องอะไรจะถามฉันแล้วหรือไง การไปเที่ยวกับแก๊งพยาบาลมันน่าสนใจตรงไหน
“อืม” ฉันเลยตอบไปแบบนั้น เพราะมันควรจะจบที่ตรงนั้น
“แต่เธอไปผิดผับ” ลิปดาเอาแต่ยิ้ม ราวกับว่าเขารู้ว่าที่จริงแล้วเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น
“นายรู้อะไรมา?” ฉันเลยถามออกไปตรงๆ
“แสดงว่าเธอไปผิดผับจริงๆ ฮ่ะๆ ทำไมบื้อจังวะเฌอร์...” แล้วเขาก็หัวเราะออกมา นั่นแปลว่าเขาอาจจะรู้แค่ว่าฉันไปผิดผับ
“ก็ชื่อมันคล้ายๆกัน ไปผิดนิดผิดหน่อยก็ปกติป่ะ?” ฉันถลึงตาใส่ลิปดา ขณะที่เขาหยิบอะไรสักอย่างออกมาจากเสื้อกาวน์
“อ่ะนี่...หมอกฝากมาให้เธอน่ะ เมื่อเช้าเขามาที่นี่ แต่เธอไม่อยู่...เขาก็เลยฝากไว้กับฉัน” ฉันรับซองกระดาษสีน้ำเงินตัดสีทองมาเปิดดู แล้วก็ได้เห็นว่ามันคือการ์ดงานแต่งงานของหมอก
“ว้าว! เขาเพิ่งคบกันเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมแต่งงานกันเร็วจัง...?” ฉันนึกแปลกใจ เพราะจำได้ว่าหมอกกับญี่ปุ่นนั้นเพิ่งจะคบกันได้ไม่ถึงปีด้วยซ้ำ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า...หมอกน่ะ เป็นเพื่อนของลิปดา สมัยเรียนเราเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ฉันเลยได้เจอกับหมอกอยู่หลายครั้ง ตอนนี้เขาน่าจะเป็นอาจารย์สถาปัตย์อยู่นะ
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่ได้ท้องอย่างที่ใครๆคิดหรอกนะ” ลิปดาเอ่ยตอบ ขณะนั้นฉันก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หมอกเป็นเพื่อนของลิปดา...แล้วเขาเป็นเพื่อนของนาวินด้วยหรือเปล่านะ?
“นี่...ถามอะไรหน่อยสิ”
“อะไร?”
“นาวินน่ะ เพื่อนนายหรือเปล่า นาวินที่เป็นทายาท เจเค กรุปอ่ะ” กับลิปดาน่ะไม่ต้องอ้อมค้อมหรอก เพราะฉันรู้ว่าเขาไม่คนพูดมาก
“มันทำอะไรเธอ?” แต่แทนที่เขาจะตอบว่าใช่หรือไม่ใช่ เขากลับถามคำถามแบบนั้นออกมาพร้อมหน้าตาสงสัย นั่นแปลว่าเขาสองคนเป็นเพื่อนกันแน่
“เปล่า”
“แล้วถามทำไม?”
“ฉันแค่ไม่คิดว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้ แล้วหมอกน่ะ...ก็เป็นเพื่อนของนาวินด้วยล่ะสิ”
“ก็ต้องเป็นสิ...” คำตอบนั้นทำให้ฉันรู้ว่า...ฉันอาจจะต้องเจอกับนาวินในวันแต่งงานของหมอก บ้าจริง!
Cher end.
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่หมอเฌอร์ทำงานอย่างหนัก เนื่องจากมีผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ามาเยอะ ทั้งจากอุบัติเหตุและจากสาเหตุอื่นๆ เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนสี่ทุ่ม คุณหมอคนสวยเพิ่งจะได้มีเวลาพัก เธอหอบร่างอันเหนื่อยล้าออกมาสูดอากาศที่บริเวณสวนหย่อมของโรงพยาบาลซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นสองของตึกผู้ป่วย
ในตอนนั้นอยู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมื่อหญิงสาวหยิบมันขึ้นมาดูชื่อที่โทรเข้ามาก็ได้เห็นว่ามันเป็นเบอร์ของธันวา อดีตแฟนหนุ่มของเธอ
แน่นอนว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่เฌอร์จะต้องรับสายเขาอีกแล้ว เรื่องของเธอและเขามันจบไปตั้งแต่วันที่เธอจับได้ว่าเขานอกใจ ทว่า...เมื่อร่างบางหันหลังเตรียมจะเข้าไปทำงานต่อ เธอก็ได้เจอกับร่างสูงที่อยู่ดักอยู่ที่หน้าประตู
“ธันวา?!” หมอเฌอร์เอ่ยชื่อของเขาด้วยน้ำเสียงตกใจ
“ทำไมไม่รับสายผม?” เขาเอ่ยถามขณะที่ก้าวเท้าเข้ามาใกล้
“ฉันมีไม่เรื่องอะไรต้องคุยกับนายอีกแล้ว มาทำไม?!”
“แต่ผมมีเรื่องที่ต้องคุยกับคุณ...เยอะเสียด้วย”
“...” หมอเฌอร์ไม่สนใจว่าเขามีเรื่องอะไรที่ต้องคุยกับเธอ เธอเลือกที่จะเดินเลี่ยงเขา แต่แล้วชายหนุ่มกลับคว้าแขนของเธอไว้อย่างแรง
“ไม่ได้ยินเหรอ? ผมบอกว่ามีเรื่องที่ต้องคุยกับคุณ!”
“ปล่อย!” หญิงสาวจ้องมือหนาที่กำแขนของเธอไว้ด้วยสายตารังเกียจ
“คุณทำชีวิตผมพัง...ตอนนี้ทั้งละคร โฆษณา ถอนตัวผมออกจนหมด แล้วต้นสังกัดก็ฉีกสัญญาแล้ว...เพราะไลฟ์ที่คุณทำ ผมไม่มีงาน...แล้วบ้านก็ไม่ได้รวยเหมือนคุณ! นี่เหรอ? สิ่งที่คนที่รักเขาทำกัน! คุณทำลายชีวิตผม!” ธันวาออกแรงบีบแขนของหมอเฌอร์หนักขึ้น
“เหอะ! ไม่คิดจะโทษตัวเองเลยสินะ...ถ้าคุณไม่ทำเรื่องเลวๆ ฉันคงไม่ไลฟ์หรอก...ลองคิดถึงความรู้สึกของคนที่ถูกหักหลังบ้างสิ! คุณคิดว่าสิ่งที่คุณทำกับฉันมันเป็นเรื่องเล็กๆหรือไง?! คุณหักหลังฉัน! คุณทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นอีโง่! ที่ฉันทำน่ะ...มันน้อยไปด้วยซ้ำ!” หญิงสาวจ้องหน้าชายหนุ่มตาเขม็ง
“แล้วคุณดีกว่าผมตรงไหน? เราเลิกกันได้ไม่กี่วัน...คุณก็ไปนอนกับไอ้ไฮโซนั่นแล้ว หึ! ทีกับผมล่ะทำเป็นเล่นตัว...ไม่เคยให้เห็นแม้แต่ขาอ่อน แต่กับไอ้นั่น! คุณนอนกับมันทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่วันเดียว!” ธันวาปล่อยน้ำตาแห่งความเสียใจและเจ็บใจออกมา เฌอร์อึ้งไปในทันที หากไม่ใช่เพราะเห็นเขาร้องไห้ แต่มันเป็นเพราะเธอไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องของเธอกับนาวิน
“นะ...นายพูดเรื่องอะไร?” ขณะนั้นเธอก็ยังทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“ตอนที่คุณส่งข้อความมาด่าผม...ผมคิดแล้วคิดอีก คิดหนักมากว่าจะต้องไปหาคุณ ต่อให้คุณจะด่าจะไล่ผมยังไง ผมก็อยากจะไปขอโอกาส...แม้ว่าคุณจะเกลียดผมไปแล้ว แต่ผมก็ยังจะอยากบอกว่าผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว ต่อให้ต้องคุกเข่าต่อหน้าคุณผมก็จะทำ...”
“...”
“ผมตามไปเจอคุณที่ผับนั่น ผมเห็นว่าคุณขึ้นรถไปกับไอ้ไฮโซทายาทเจเค กรุป ฮึก! ผมเห็นต่อหน้าต่อตา...” น้ำตาไหลลงอาบสองแก้มของชายหนุ่ม
“นายหาฉันเจอได้ยังไง? อย่าบอกนะว่านายยังมีแอพติดตามตัวฉันอยู่...?” เฌอร์ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ตอนที่ยังคบกันเขาทั้งคู่เคยใช้แอพพลิเคชันตามมือถือกันและกัน ตามประสาคนเป็นแฟน
“ตอนนั้น...ผมไม่ได้ตามไป ในใจก็คิดว่าคุณไม่มีทาง...ไม่มีทางที่คนอย่างคุณจะไปนอนกับมัน! ผมนั่งเฝ้ามือถือทั้งคืน สัญญาณมือถือของคุณมันอยู่ที่เดิมตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงเจ็ดโมงเช้า! ผมทนไม่ไหว...ผมเลยตามไปดูว่าที่ที่คุณอยู่ทั้งคืนมันคือที่ไหน แล้วผมก็ได้รู้ว่ามันคือคอนโดของไอ้นาวิน! แล้วผมก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าคุณออกมาจากคอนโดนั่นตอนแปดโมง! ฮึก...เฌอร์...คุณทำได้ยังไง? คุณไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นหลังจากที่เราเลิกกันได้แค่สามวันได้ยังไง?!!” ธันวาตะโกนลั่นทั้งน้ำตา
“แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้? ทีนายยังไปนอนกับคนอื่นทั้งๆที่มีฉันเป็นแฟนได้เลย...เรื่องนี้ฉันไม่ผิดด้วยซ้ำ เพราะเราเลิกกันไปแล้ว!”
“แสดงว่าคุณนอนกับมันแล้วจริงๆ คุณไม่แม้แต่จะปฏิเสธด้วยซ้ำ!” ธันวาไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือเรื่องจริง
“เลิกมายุ่งวุ่นวายกับฉัน...ฉันขอให้เราจบกันแค่นี้เถอะ!” หมอเฌอร์พยายามปิดแขนออกจากมือหนา
หมั่บ!
“ฮึก! แต่ผมยังรักคุณอยู่...ต่อให้คุณไปนอนใครมาสิบคน ผมก็ให้อภัยได้ เพราะผมยังรักคุณอยู่นะเฌอร์...ได้โปรด เรากลับมาคบกันเถอะนะ อย่าทิ้งผมไปเลย” ชายหนุ่มดึงร่างบางมากอดไว้แน่น
“ปล่อย! ธันวา! อย่าทำแบบนี้! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!!!” หญิงสาวพยายามอย่างหนักที่จะผละออกจากกอดของชายหนุ่ม ทว่า...เธอสู้แรงของเขาไม่ได้แม้แต่น้อย และเธอก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ...ว่าเวลานี้มีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมายังเธอด้วยสายตาผิดหวัง
