Chapter 3
@หน้าห้องทำงานประธานบริษัท BZ
“ม้านะม้า ทำไมต้องให้หนูมาฝึกงานกับคนแบบนี้ด้วยเนี่ย” มัดหมี่ยกมือถูที่ริมฝีปากตัวเองอย่างแรงพร้อมเบ้ปากคว่ำจะร้องไห้ เมื่อโดนเขาขโมยจูบแรกของเธอไป ทั้งที่เธอตั้งใจจะเก็บไว้ให้แฟนคนแรกของเธอ
“ให้หนูมาเรียนรู้งานกับประธานบริษัท หรือส่งหนูมารบกับอสูรร้ายกันแน่” ปากเล็กยังคงบ่นพึมพำไม่หยุด
กริ่งงงง...
“เฮือก!” ร่างเล็กสะดุ้งตัวเล็กน้อย เมื่อเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้น
“ค่า”
(เข้ามาในห้องหน่อย)
“ค่ะ” มัดหมี่ตอบรับสั้นๆ และเมื่อวางหูโทรศัพท์ลงแป้นแล้ว ปากเล็กก็ขมุบขมิบบ่นเสียงเบา “เรียกเข้าไปทำไมอี๊ก เฮ้อ~ เมื่อไหร่จะฝึกงานจบสักทีเนี่ย เบื่อๆๆ”
ก๊อก! ก๊อก!
แกร๊ก!
“ทำไมถึงปากบวมแบบนั้น” ไอศูรย์เอ่ยถามคนตัวเล็ก เมื่อเธอเข้ามาในห้องทำงานของเขาด้วยสภาพปากบวมเจ่อเล็กน้อย
“…” มัดหมี่ไม่ได้เอ่ยตอบคำถามของเขา แต่ทว่าเธอยกมือบีบปากตัวเองเบาๆ
“มายืนใกล้ๆ สิ...”
“ไม่ค่ะ” ใบหน้าสวยหวานส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน เพราะเธอไม่อยากเข้าไปใกล้คนอันตรายอย่างเขา เดี๋ยวก็ไม่วายจับเธอจูบอีก
“อยากให้ฉันโทรบอกคุณน้ามัลลิกาหรือไง ว่าเธอไม่ตั้งใจฝึกงานตั้งแต่วันแรก”
“ก็มันไม่ได้เกี่ยวกับการฝึกงานหนิคะ” มัดหมี่ตอบกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้
“แล้วทำไมเธอถึงคิดว่าการที่ฉันเรียกเธอมายืนใกล้ๆ มันจะไม่เกี่ยวกับการฝึกงาน” ไอศูรย์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ทว่าดวงตาคมกริบกลับจ้องมองที่ใบหน้าสวยหวานด้วยนัยน์ตาคมดุกับคนตัวเล็กที่แสนดื้อรั้น
“ก็พี่ใหญ่...” มัดหมี่เอ่ยพูดได้เพียงเท่านั้น เธอก็เม้มริมฝีปากเข้าหากันโดยที่ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรต่อ
“ก็อะไร?”
“ก็พี่ใหญ่จะเรียกหนูเข้าไปจูบ หนูไม่ยอมเสียจูบให้พี่อีกหรอกนะ”
“เธอคิดว่าตัวเองน่าจูบขนาดนั้นเลยหรือไง ฉันถึงได้อยากจูบเธอ...” ปากหยักเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน แล้วหยัดตัวลุกขึ้นเดินเข้าไปหาหญิงสาว พร้อมกับจับคนตัวเล็กที่เบาราวกับนุ่นขึ้นนั่งบนโต๊ะตัวใหญ่อย่างรวดเร็ว
“อ๊ะ! ปล่อยหนูนะพี่ใหญ่ พี่จะทำอะไรหนูอีกเนี่ย” มือเล็กผลักคนตัวสูงออก แต่แรงอันน้อยนิดก็ไม่สามารถทำให้คนตัวสูงขยับเขยื้อนตัวไปไหนได้ อีกทั้งเขายังเอาแขนแกร่งค้ำยันไว้บนโต๊ะเพื่อกักขังเธอเอาไว้อีก
“เธออยากให้ฉันจูบนักไม่ใช่เหรอ?”
“หนูพูดตอนไหนว่าอยากให้พี่ใหญ่จูบหนู”
“หึ...” ปากหยักแสยะยิ้มออกมา เขาตวัดโอบกอดเอวบางไว้แน่น เมื่อเธอขยับหนีเขาไม่หยุด มือสากจับที่ปลายคางมน ดวงตาคมกริบจ้องมองริมฝีปากอวบอิ่มที่บวมเจ่อราวกับคิดอะไรบางอย่างในใจ
“ถะ...ถ้าพี่ใหญ่จูบหนูอีกครั้ง หนูจะฟ้องม้า หนูจะฟ้องคุณน้าดารา หนูจะฟ้องให้หมดทุกคนเลย” มัดหมี่รีบขู่เขาฟ่อๆ เอาตัวรอดราวกับแมวตัวน้อยที่กำลังจะเป็นอาหารของราชสีห์ เมื่อเขาจ้องมองที่ปากของเธอราวกับจูบ
“ฉันก็ถามเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเธออยากจะฟ้องมากกว่าเรื่องจูบไหม? ฉันจะได้ทำให้เธอมีเรื่องให้ฟ้องเยอะๆ ฟ้องทีละเรื่องเดี๋ยวเธอจะเหนื่อยเอา” ไอศูรย์เอ่ยพูดราวกับไม่ได้กลัวกับคำขู่ของเธอเลยสักนิด
“นะ...หนูจะฟ้องจริงๆ นะคะ หนูไม่ได้ขู่เล่นๆ ด้วย”
“ก็ฟ้องไปสิ ฉันก็ไม่ได้ห้ามหนิ”
“...” ปากเล็กเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง เมื่อคำขู่ของเธอไม่สามารถทำอะไรคนอย่างเขาได้
“เสื้อนักศึกษาไม่มีไซซ์ที่ใหญ่กว่านี้หรือไง ถึงได้ใส่เสื้อเด็กประถมมาฝึกงาน” ดวงตาคมกริบจ้องมองเสื้อนักศึกษารัดรูปที่กระดุมมันแทบจะกระเด็นหลุดออกมา
“แล้วพี่ใหญ่จะยุ่งอะไรกับการแต่งตัวของหนูล่ะคะ หนูมาฝึกงานนะคะไม่ได้มาประกวดการแต่งกายเรียบร้อย” มัดหมี่ตอบกลับอย่างอดใจไม่ไหว ที่เขาทำตัวราวกับครูฝ่ายปกครองโรงเรียนมัธยม
ถึงแม้ว่าคุณแม่ของเธอจะส่งเธอมาฝึกงานกับเขา แต่ก็ใช่ว่าเขาจะมาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอได้
“ฉันก็ไม่ได้อยากจะยุ่งนักหรอก แต่ฉันไม่อยากมองอะไรที่มันไม่น่ามอง”
“หนูก็ไม่ได้ใส่ให้พี่ใหญ่มองหนิคะ แต่หนูใส่ให้คนอื่นมะ...อื้อ” ปากเล็กหลุดครางอื้อออกมา เมื่อมือสากจับล็อกใบหน้าสวยหวานไว้แน่นและประกบจูบปากเล็กอย่างแรง เขาจูบอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อสั่งสอนความปากดีของคนตัวเล็กที่เถียงเขาฉอดๆ ไม่หยุด
เพียะ!
มัดหมี่ยกมือฟาดไปที่แก้มสากอย่างแรง พร้อมทั้งสบถด่าเขาด้วยความโมโหที่เขาทำอะไรตามใจตัวเองและป่าเถื่อนที่สุด “เลว!! อื้อ!” แต่ด่าได้เพียงคำเดียวปากเล็กก็โดนประกบจูบอีกครั้งอย่างแรง ฟันแหลมคมกัดเข้าที่ริมฝีปากอวบอิ่มจนเลือดซึมไหลออกมา “อ๊ะ! เจ็บ!”
