ตอนที่ 3 รับบทแม่บ้าน
ตอนที่ 3
รับบทแม่บ้าน
ฉันกวาดตาไปรอบ ๆ จ้องมองไปยังสถานที่ด้านหน้าผ่านกระจกรถสปอร์ตคันโปรดก่อนจะจ้องมอง GPS ที่ไอ้เพื่อนตัวดีส่งมาให้อีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“ก็ไม่ผิดนี่หว่า แล้วไอ้บ้าไวเปอร์มันส่งพิกัดอะไรมาให้วะ”
เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องสงสัยนาน รีบต่อสายมือถือหาต้นสายทันทีแต่ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า ทันทีที่ติดต่อได้ไอ้เพื่อนตัวดีนักรักนักไอทีคนดีของนังขนมผิงคนนี้ก็กดตัดสายฉันทิ้งอย่างไร้เยื่อใย
ตึดึ๊ด!
‘ไม่ว่างอยู่กับสาว’
ฉันได้แต่อ่านข้อความบนหน้าจอพร้อมกับกำหมัดแน่น นักร้องนักแสดงคนดังอย่างอี้เฉิน บินมาไทยแบบไร้ข่าวจากวงในแบบนี้ แสดงว่ามาด้วยเรื่องส่วนตัวแล้วทำไมที่แรกเขาถึงมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ หรือว่าเขาก็เป็นไอ้พวกหิ้วสาวขึ้นห้องเหมือนกัน แต่ที่ผ่านมากลับไม่เคยได้ข่าวมาก่อนเลยแหะ
“ลงไปดูหน่อยละกัน”
มือข้างหนึ่งคว้ากระเป๋าที่เพิ่งไปอุดหนุนจากชาวบ้านใบสวย กับหน้ากากอนามัยรูปปากที่ทาสีแดงแปร๊ดมาสวมไว้ก่อนจะเดินลงจากรถ สองเท้าที่สวมด้วยรองเท้าผ้าใบแบรนด์ดังก้าวเร็ว ๆ ไปที่หน้าประตูก่อนจะยืนมองนิ่ง
“ปิด”
ฉันหยิบมือถือขึ้นมามองพิกัดที่เพื่อนส่งให้อีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะขยับหมุดยังไงปลายทางก็คือที่นี่ไม่ผิดแน่
“มาทำอะไรครับ”
ฉันหันขวับไปมองเสียงที่ดังมาจากทางด้านหลัง เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าตาดูดีมีภูมิฐานใช้สายตาคมกริบจ้องมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไร้มารยาท
“อ๋อ! หรือว่าเธอคือแม่บ้านที่จะมาแทนยัยคนเก่าที่ออกไป.. เข้ามาสิ”
“แม่บ้านหรอ”
ฉันได้แต่ยืนอ้าปากค้างก่อนจะเหลือบไปมองตัวเองผ่านกระจกหน้าร้าน ภาพที่เห็นคือผู้หญิงที่มีส่วนสูง163เซนติเมตร ผมสั้นประบ่าสวมหน้ากากอนามัยปกปิดใบหน้า ถือกระเป๋าสานตามแบบฉบับคุณป้า สวมเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวกับกางเกงยีนขาสั้น รองเท้าผ้าใบสีขาวคู่โปรดที่ยังไม่ได้ซัก
“ดูแล้วก็.. เหมือนแม่บ้านอยู่นิดนึงแฮะ”
“เอ้า! เข้ามาสิ เดี๋ยวคลับจะเปิดแล้วจะทำความสะอาดไม่ทัน”
“อ๋อ.. ค่ะ ๆ”
ไม่รู้หรอกว่าทำไมต้องรับปากผู้ชายคนนี้ แต่ถ้าอยากรู้ว่าอี้เฉินอยู่ที่นี่ไหมก็มีแต่ต้องเข้าไปดูให้เห็นกับตาเท่านั้นแหละนะ
“ชไมพรคนสวย.. นี่เด็กใหม่ที่มาแทนยัยคนเก่าฝากสั่งงานที”
“ได้ค่ะคุณศิลา”
“แล้วเจ้านายเธอมาหรือยัง”
“มาแล้วค่ะอยู่ด้านบน.. คุณอี้เฉินก็มาแล้วค่ะ”
ฉันได้แต่ยืนนิ่งมองทั้งสองสนทนากันอย่างตื่นเต้น อี้เฉินอยู่ที่นี่จริง ๆ ด้วย อย่างนี้ก็ดีถึงจะรับบทแม่บ้านแต่ก็ไม่ได้แย่
“ชื่ออะไร”
ฉันหันไปมองสาวสวยที่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ แตกต่างจากที่คุยกับไอ้ผู้ชายหน้าหล่อเมื่อกี้ลิบลับ ได้แต่เบะปากมองบนในใจกับความสองสามสี่ห้ามาตรฐานนี้
“มายาค่ะ”
เพราะไม่ได้คิดที่จะอยู่ที่นี่นานนักหรอกก็ไม่จำเป็นที่จะต้องบอกชื่อจริง ฉันเดินตามเธอเข้าไปยังห้องพักพนักงานด้านหลังก่อนจะได้รับอาวุธประจำกายเป็นไม่กวาดไม้ปัดหยากไย่และไม้ถู
“เธอทำชั้นหนึ่งฉันจะไปทำชั้นสอง ไม่จำเป็นไม่ต้องเสนอหน้าขึ้นไปเข้าใจนะ”
“อ๋อ.. ค่ะ”
