ไอ้นี่??
“คิดเงินเลย” อมิตาวางของลงบนเคาน์เตอร์เพื่อให้พนักงานคิดเงิน ยืนรอเงียบๆ แต่ในใจกำลังเดือดปุดๆ เมื่อพนักงานอ้อยอิ่งชักช้าจนเธอเริ่มรู้สึกรำคาญลูกตา
“รบกวนคิดเงินให้ด้วยค่ะ”
กัลยาวางเสื้อผ้าสองชุดลงบนเคาน์เตอร์ น้ำเสียงหวานๆกับคำพูดนั้นดูเข้ากัน จนพนักงานที่ยืนคิดเงินอยู่แอบเปรียบเทียบกับผู้หญิงอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆกัน ผู้หญิงที่มีความสวยไม่แพ้กัน แต่นิสัยต่างกันมากเหมือนฟ้ากับเหว และไม่ต้องบอกเลยว่าใครฟ้า ใครเหว
“นี่เธอเร็วๆหน่อยสิ” อมิตาเร่งอีกครั้ง เมื่อพนักงานแคชเชียร์หันไปสนใจผู้หญิงที่มาทีหลัง จนวางมือจากการคิดเงินให้เธอ
เดี๋ยวแม่ก็สั่งปิดร้านซะเลยนี่ ถึงที่นี่จะไม่ใช่ห้างของเธอ แต่เธอรู้จักเจ้าของห้างดี แค่เอ่ยปากนิดหน่อย ศิวะที่เป็นเจ้าของที่นี่ ต้องทำตามคำขอของเธอแน่ๆ
“ค่ะ!” พนักงานกระแทกเสียงกลับ เมื่อถูกเร่งด้วยท่าทางไม่พอใจจากอมิตา
“เหอะ! บริการแย่ขนาดนี้อยากโดนไล่ออกรึไง” อมิตามองอย่างตำหนิ มันเริ่มตั้งแต่เธอเดินเข้าร้านในมาแล้ว ที่เธอได้รับบริการที่แตกต่างจากคนอื่น ในขณะที่เธอต้องเดินหานู่นหานี่เอง โดยที่ไม่มีพนักงานคอยแนะนำ ลูกค้าคนอื่นกลับมีพนักงานอยู่ข้างๆตลอด เหมือนจงใจทำแบบนี้กับเธอแค่คนเดียว
“อย่ามาวางอำนาจที่นี่นะอมิตา ที่นี่ผมดูแลอยู่ อย่าก่อเรื่องให้คนของผมลำบากใจเลย” ภิภพเอ่ยตำหนิ ก็เพราะเธอแสดงท่าทีแบบนี้ไง พนักงานถึงแสดงออกว่าไม่ชอบ ถ้าอยากให้คนอื่นเขาปฎิบัติด้วยดีๆ ก็ควรพูดกับเขาดีๆหน่อย เขาก็คนเหมือนกัน
“อ๋อ! เพราะอย่างนี้นี่เอง ก็เลยแห่ไปเอาใจเมียผู้จัดการห้าง ไม่ต้องเอาใจกันมากหรอก เพราะไอ้นี่ไม่มีวันได้แต่งกับอีนี่หรอก”
“คุณ!”ภิภพถอนหายใจดังๆ รู้สึกเจ็บแปลบๆกับคำเหน็บแนมนั่น เขาไม่ชอบให้ใครเรียกผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานแบบนั้นเลย มันดูไม่ให้เกียตริกัน
“ฉันเอาแค่ชุดที่ใส่อยู่แล้วกัน เสียเวลา” อมิตาวางเงินสดเท่ากับราคาชุดที่ใส่ และชุดที่เธอทำเสียหายก่อนหน้านี้ เดินออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว เมื่อรู้สึกว่าเริ่มระงับความโกรธได้ยากลงทุกที
“ปกป้องมันไปเถอะ อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกันที่เลือกมัน”
มือเล็กยกขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างรวดเร็ว จากที่คิดว่าจะไปที่ร้านเหล้าเลทสักหน่อย ก็รีบบึ่งรถไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว ไม่นานรถพอร์ชคันหรูก็ขับเข้าไปในร้าน พนักงานที่ยืนอยู่หน้าร้านต่างก่นด่าเธอในใจ เมื่อรถของเธอขับเข้าข้างไปด้วยสกิลการขับรถที่โคตรหวาดเสียว
ร่างสูงเพียวกับชุดรัดรูปสีแดงสด ทำให้ลูกค้าชายหลายคนที่ยืนอยู่หน้าร้านหันไปมอง ใบหน้าสวยที่ห้อมล้อมกรอบหน้าด้วยผมสีชมพูดูบึ้งตึง แต่เหมือนจะยิ่งทำให้เธอดูน่าสนใจ
ผู้หญิงแบบเธอคงจะดื้อน่าดู และก็มีหลายคนที่คิดอยากจะลองปราบพยศเธอดูสักครั้ง
“ช่วยเลือกโต๊ะที่เงียบๆให้ที อ๋อ หมายถึงช่วยจัดโต๊ะที่ไม่มีคนเข้ามาวุ่นวายให้อ่ะ ” อมิตาพูดกับพนักงานหน้าร้านที่ยืนรอรับลูกค้าอยู่ ไม่สนใจสายตาแทะโลมจากลูกค้าชายที่ยืนอยู่บริเวณเดียวกัน เพราะสำหรับเธอ ผู้ชายที่ดึงความสนใจของเธอได้ดีที่สุด มีแค่ไอ้บ้าที่ทำให้เธอหนีมาเมื่อกี้เท่านั้น
โต๊ะที่พนักงานเลือกให้ถูกใจเธอมาก เพราะมันอยู่ในจุดที่ลึกสุด เสียงเพลงก็ไม่ดังมาก ที่สำคัญคนไม่เยอะ เพราะเธอจองโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆด้วยถึงสามโต๊ะ เพื่อกันไม่ให้ใครมานั่ง ไม่อยากให้คนพวกนั่นสังเกตุเห็นคามิลแล้วถ่ายรูปไปลงโซเซียล ถึงที่นี่คามิลจะไม่ได้ดังเท่าอยู่อังกฤษ แต่เขาก็เป็นที่รู้จักของคนในประเทศเยอะพอสมควร
เพราะไม่ได้นั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ ที่มีบาร์เทนเดอร์คอยชงเหล้าให้ อมิตาจึงเลือกสั่งเหล้าเป็นขวดมานั่งดื่ม สำหรับเธอไม่ค่อยมีปัญหากับเหล้ามากนัก เพราะใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงพอสมควร ก่อนหน้านั้นเมาหัวราน้ำแทบทุกวัน ก่อนที่เธอจะหยุดไปถึงสองปี และจะดื่มเฉพาะวันที่อยากเจอภิภพเท่านั้น ก็นั่นแหละเธอเปลี่ยนไปตอนที่ได้เจอเขา และกลับมาใช้ชีวิตแบบที่อยากใช้เมื่อไม่มีเขาก็แค่นั้น
ปึ่ง! แก้วเหล้าถูกวางลงบนโต๊ะแรงๆ เมื่อเธอเทมันเข้าปากรวดเดียวหมด คิดถึงอีกแล้ว! ทำไมถึงลืมไม่ได้สักที ยิ่งวิ่งหนีเท่าไหร่ก็ยิ่งเหนื่อยเปล่า เพราะวิ่งไปไกลแค่ไหน สุดท้ายก็วนกลับมาที่จุดเดิม ยังคิดถึงเหมือนเดิม และยังคงรักเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยสักนิด
ปึ่ง! ปึ่ง! แก้วแล้วแก้วเล่า ที่ถูกเธอวางลงแรงๆ จากหัวค่ำของวันตอนนี้เวลาล่วงเลยเข้าช่วงดึกแล้ว แต่คนที่นัดเธอก็ไม่มีวี่แววว่าจะมาสักที
“ไอ้บ้า กล้าเทฉันใช่ไหม คอยดูนะ ฉันจะบอกมาม๊าว่า ไม่ต้องให้นายเข้าบ้าน”
น้ำเสียงอู้อี้เต็มไปด้วยความโกรธที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อคามิลที่นัดเธอออกมากินเหล้าไม่ยอมมาสักที ถ้าโทรไปตาม ไอ้นั่นต้องดีใจแน่ๆ ที่เธอทำเหมือนว่ารอเขาอยู่แบบนี้ เธอจึงเลือกไม่โทร เขาจะได้รู้ตัวว่าตอนนี้เธอโกรธเขามากที่สุด
ผู้ชายสามคนที่อยู่ห่างออกไปสี่โต๊ะมองหน้ากันอย่างสื่อความหมาย ผู้ชายที่มีรอยสักทั่วทั้งใบหน้า ยกแก้วเหล้าที่ผสมยาปลุกเซ็กส์ขึ้นมองด้วยรอยยิ้ม ส่งให้เพื่อนพลางพยักเผยินให้เดินไปหาเป้าหมายที่นั่งอยู่เพียงลำพัง
“เพื่อนทิ้งเหรอครับ ทำไมถึงนั่งอยู่คนเดียว” ผู้ชายคนนั้นชวนคุย มองแก้วเหล้าที่ไม่ถูกใช้งานด้วยรอยยิ้ม พลางมองแก้วที่ตัวเองถือมาด้วยก่อนจะวางมันลงเมื่อเจอสายตาจากคนสวยจ้องมอง
อมิตาตวัดสายตามอง อยากจะไล่ไอ้บ้านี่ออกไปให้พ้นสายตา แต่แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเต็มพิกัดกำลังเล่นงานเธอ กำลังจะอ้าปากพูดไอ้นั่นก็ชิงพูดขึ้นก่อน
“ผมก็มาคนเดียว ดื่มเป็นเพื่อนผมสักแก้วได้ไหม แล้วผมจะไม่กวนคุณอีก”
เพราะไม่อยากให้ใครมาวุ่นวาย อมิตาจึงยกแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นดื่มจนหมด โดยไม่รู้ตัวเลยว่าช่วงที่เธอมองหน้าผู้ชายคนนั้นอยู่ แก้วเหล้าของเธอถูกเขาสลับมันไปแล้ว
“ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะครับ” ชายแปลกหน้าลุกจากไปทันทีที่เห็นเธอดื่มหมด รอยยิ้มแห่งชัยชนะถูกส่งไปให้เพื่อนที่นั่งรออยู่ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่เดิมเพื่อรอเวลาให้ยาออกฤทธิ์
อมิตาขยับตัวด้วยความกระสับกระส่าย ตั้งแต่เริ่มดื่มเหล้าเป็น ไม่เคยดื่มเหล้ายี่ห้อไหนแล้วรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้ง เมื่อรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล ก็รีบเรียกพนักงานมาเก็บเงิน แล้วพาร่างกายที่ร้อนรุ่มของตัวเองเดินออกจากร้านไปในทันที
