ไม่กล้าลืมคุณ

166.0K · จบแล้ว
เทียนเหอ
124
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ไม่กล้าลืมคุณ ความพลาดพลั้งในครั้งนั้น ทำให้ฉันไม่กล้าลืมคุณ ‘ธีรักษ์’ มีกฎไม่ทำงานกับนางแบบที่เห็นแล้วอยากจับปล้ำ เขาจึงเสนองานนั่งดื่มเป็นเพื่อนตลอดคืนให้กับสาวสวยอายุสิบเก้าปีอย่าง ‘น้ำหวาน’ และทิ้งเธอไว้คนเดียวในเช้าวันถัดมา หลายปีผ่านไปทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง น้ำหวานเลยอดไม่ได้ที่จะเอาคืน แต่เขากลับร้ายกาจกว่าที่คิดไว้มาก หาข้ออ้างบังคับให้เธอมาอยู่ด้วย เดี๋ยวก็ทำตัวแปลก ๆ ถามอะไรงง ๆ เหมือนกับคนแก่ขี้ลืม แล้ววันดีคืนดีก็กลายเป็นป๋าสายเปย์ หรือไม่ก็ปากร้ายขี้วีนใส่คนที่มาแกล้งเธอ... ********** “น้ำหวานไม่อยากเป็นของเล่นคุณเหมือนเมื่อห้าปีก่อน คุณปล่อยน้ำหวานเถอะนะคะ” ภัควรินทร์รับมือกับการถูกทิ้งไม่ไหวจริง ๆ หากต้องเริ่มต้นใหม่หลังจากถลำลึกทั้งกายและใจ เธอต้องเจ็บมากกว่าครั้งก่อนแน่ ๆ ธีรักษ์ไม่สนใจฟังคำขอร้องออดอ้อน รีบถอดแว่นตาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง ตามด้วยเสื้อผ้าที่เกะกะขึ้นมาเสียอย่างนั้น และก่อนที่ภัควรินทร์จะตั้งสติคลานหนีไปได้ เขาก็พาร่างเกือบเปลือยเปล่าโถมทับเธอให้อยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน “ไม่ปล่อย ผมชอบหนูมากขนาดนี้ พลาดจากหนูมานานขนาดนี้…” เขางับใบหูเล็กที่จำได้ว่าเป็นจุดอ่อนของเธอเบา ๆ ก่อนกระซิบประโยคที่ทำให้คนฟังแทบจะละลายไปทั้งตัว “ถ้าคืนนั้นหนูไม่บ่นอยากกินโจ๊ก ผมกับหนูคงใช้คำว่าโสดไม่ได้มาตั้งนานแล้ว” “คุณธาร…” ภาพในหัวของภัควรินทร์ฉายชัดขึ้นมาอีกครั้ง ใช่แล้ว เธอบ่นว่าหิวและอยากกินโจ๊กร้านประจำที่หน้ามหาวิทยาลัย เขาจึงจูบเธอ บอกเธอว่าจะจัดการให้ อยากได้อะไรจะตามใจทุกอย่าง ขอแค่เธอไม่ดื้อ รีบโตเร็ว ๆ และมีเขาคนเดียวก็พอ “อื๊อ คุณธาร...เราคุยกันก่อนดีไหมคะ” “หมดเวลาคุยแล้วน้ำหวาน” ธีรักษ์ยิ้มกริ่ม ตรึงข้อมือเล็กไว้แล้วปลดบราเซียร์สีหวานออกอย่างเชื่องช้าทะนุถนอม เผยความงดงามที่กระตุ้นให้ความเป็นชายของเขาปวดร้าว ปรารถนาที่จะถูกความอ่อนนุ่มโอบกอดรัดรึงให้หลุดพ้นจากความทรมานอันแสนหวาน “ตอนนี้ถึงเวลากิน...ผมจะกินหนูให้หายอยากเลย” $$$$$$$$$$_____$$$$$$$$$$ ไม่กล้ารักคุณ ความผิดพลาดในคืนนั้นทำให้ฉัน...ไม่กล้ารักคุณ ปานวาดถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือ ทำให้ผู้ชายที่เธอเคยหลงรักต้องสูญเสียเพราะภาพฉาวที่ปรากฏอยู่ในสื่อออนไลน์ เธอแค่ต้องการกล่าวคำขอโทษ แต่เรื่องราวกลับเลยเถิดจนน่าหวั่นใจ เพราะทิวากรไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ ยื่นข้อเสนอว่าเธอจะต้องมีลูกกับเขาเพื่อชดใช้ความผิด แล้วคนที่เคยรักจะห้ามใจตัวเองไม่ให้ถลำลึกได้อย่างไรไหว ********** “ฉันลองคำนวณแล้วอีกสิบวันเธอน่าจะไข่ตก ตอนนั้นค่อยใช้หมอนรองก้นจะได้มีโอกาสท้องมากหน่อย” ทิวากรไม่ได้ย้ำให้อีกฝ่ายนึกถึงข้อตกลง เขาแค่พูดกับตัวเองเพื่อไม่ให้ใจอ่อนกับคนที่คุ้นเคยกันมาก่อน “ค่ะ พี่แทน” “คำว่าพี่เอาไว้เรียกตอนอยู่บนเตียงก็พอ” “ค่ะ คุณแทน” ปานวาดหันมาสบตากับเขา ทำท่าคิดครู่หนึ่งจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง “วาดเคยได้ยินว่าถ้ามีความเครียดสะสมอาจทำให้ท้องยาก ถ้าคุณอยากให้วาดท้องจริง ๆ รบกวนไม่พูดเรื่องที่วาดไม่ชอบด้วยนะคะ” ปานวาดยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นไปไม่ถึงดวงตาและไม่น่ามองอย่างที่เขาจำได้ พอคิดดูอีกที”””เธอยิ้มแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ปานวาดเหนื่อยแทบหมดแรง แต่กลับถูกย้ำให้นึกถึงสัญญาที่ไม่น่าฟัง หากทิวากรตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เขาคงอาละวาดหรือไม่ก็เดินจากไปนานแล้ว ‘แล้วจะสนใจคนที่ทำให้มึงเสียลูกทำไมวะ!’

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันประธานคนต่ำต้อยนางเอกเก่งรักแรกพบแก้แค้นพระเอกเก่งคนธรรมดา

บทที่ 1

เสียงคลื่นสาดกระทบหาดทรายสีขาวและสายลมยามเย็นช่วยบรรเทาความหงุดหงิดของชายหนุ่มวัยสามสิบแปดปีลงไปได้มาก หากคนไม่คุ้นเคยมองมาจะเข้าใจว่าเขาเป็นคนอารมณ์ดีเพราะมีรอยยิ้มแต้มมุมปากอยู่เสมอ ถ้าขยับเข้าใกล้อีกนิดจะเห็นจมูกโด่งสวย และถึงแม้ว่าเขาจะสวมแว่นปิดบังดวงตาสีน้ำตาลเข้ม มองดูแล้วสุขุมเยือกเย็น แต่รอยแผลเป็นเล็ก ๆ ที่หางคิ้วกลับส่งให้ใบหน้าคมดูดุดัน มีเสน่ห์ดึงดูดคนมองเสียยิ่งกว่าเดิม

น้อยคนที่จะรู้ว่ารอยแผลนั้นเพิ่งได้มาเมื่อไม่กี่ปี และตัวเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายอารมณ์ดีอย่างที่ใครเข้าใจ

ธีรักษ์ อัครจินดานนท์ เดินทางกลับมายังประเทศไทยได้ไม่นานก็พบกับเรื่องกวนใจมากมาย ทั้งโพรเจกต์ใหม่ของบริษัทที่ต้องให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเรื่องน่าปวดหัวของน้องชายที่ฟังแล้วกลับทำให้เขาอดหัวเราะไม่ได้เสียอย่างนั้น

เขาส่ายหน้าเมื่อนึกถึงทิวากร บุตรชายคนเล็กของตระกูลอัครจินดานนท์ที่รีบเร่งขอตัว ตามติดสาวรุ่นน้องอย่างปานวาดไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้แตะของหวานบนโต๊ะอาหาร โดยอ้างกับผู้ให้กำเนิดทั้งสองว่าต้องการพักผ่อน แต่เขารู้แน่ชัดว่าเจ้าตัวดีกำลังเจอปัญหาใหญ่ที่คนทั่วไปเรียกว่า ‘ความรัก’

เขาไม่สนใจความรู้สึกเหลวไหลเหล่านั้น วันหนึ่งชอบพอกัน พูดคำว่ารักได้ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ อาจเป็นเพราะเบื่อหน่ายกับความซ้ำซากจำเจ ไม่มีอะไรตื่นเต้นเร้าอารมณ์ แต่คุณแม่กลับให้ความเห็นง่าย ๆ ว่าเขาแค่ยังไม่เจอคนที่ใช่…คนที่เขารักมากพอที่จะหยุดทุกอย่างที่เธอ

‘ยากครับคุณแม่ ผมชอบอยู่คนเดียวมากกว่า’

‘อยู่คนเดียวก็อยู่ไปสิ ไม่ใช่ไปเที่ยวหว่านเสน่ห์หักอกสาว ๆ เล่นไม่เลิก นี่ถ้าธารทำใครท้องหรือเกิดปัญหาแบบแทนอีกคนนะ แม่คงหัวใจวายตาย…’

‘ไม่ต้องห่วงนะครับคุณแม่ ผมป้องกันอย่างดี’

‘ไม่พูดด้วยแล้วลูกคนนี้ แม่กลับไปเอนหลังที่ห้องดีกว่า...ไปเถอะค่ะคุณทัศ’

มารดาของธีรักษ์ปวดหัวเพราะเรื่องลูกชายคนเล็กนานหลายปี แล้วเขาที่เป็นพี่คนโตจะก่อเรื่องให้ผู้ใหญ่ต้องมาเหนื่อยใจด้วยได้อย่างไร หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ควรจะจัดการอย่างเงียบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องของครอบครัว เขาควรดูแลให้สมกับที่เป็นลูกชายคนโต ชดเชยกับที่หายตัวไปอยู่ต่างประเทศนานเสียจนแทบลืมรสชาติอาหารไทย

ธีรักษ์ลืมหลายอย่าง ต้องใช้เวลารักษานานกว่าจะจำได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สมบูรณ์

เขากวาดตามองท้องทะเลอันงดงามในยามค่ำคืน อากาศร้อนไปสักหน่อยแต่ก็ยังพอมีลมเย็นพัดผ่านมาบ้าง ส่วนสาว ๆ ที่สังสรรค์กันอยู่บริเวณชายหาดก็สวยและมีเสน่ห์ในแบบที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะผิวขาวหรือว่าผิวแทน ตัวเล็กน่าทะนุถนอมหรือรูปร่างเหมือนนางแบบ ทุกคนล้วนแต่ทำให้หัวใจของหนุ่มโสดอย่างธีรักษ์กระชุ่มกระชวย คึกคักอยากทำเรื่องสนุก ๆ มากเป็นพิเศษ

เขาชอบพวกเธอ

แต่ก็แค่ชอบ ไม่มีทางพัฒนาไปถึงคำว่า…รัก

ธีรักษ์บอกตัวเองเช่นนั้นจนกระทั่งได้สบสายตากับสาวสวยคนหนึ่ง ดูแล้วน่าจะอายุน้อยกว่าเขาสักสิบห้าปี ท่าทางสับสน เดี๋ยวขยี้ตาแรง ๆ เดี๋ยวทำหน้าโกรธ สักพักก็ยิ้มร้ายกาจเหมือนกำลังวางแผนบางอย่าง เขาเดาว่าที่เธอทำตัวแปลก ๆ เพราะมีแอลกอฮอล์ในร่างกายสูงกว่าที่ควร ซึ่งไม่น่าจะใช่เรื่องดี

ธีรักษ์ไม่ชอบยุ่งกับคนเมา จำได้ว่ามีรายหนึ่งที่เช้ามาแล้วอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจจะมีเซ็กซ์กับเขา โอดครวญว่าปกติไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย และตัวเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นพวกเอาเปรียบสาว ๆ ที่ไม่มีสติ ทั้ง ๆ ก่อนจะเข้าห้องเธอเป็นฝ่ายให้ท่ากันไม่ยอมหยุด รุกเขา ลูบเขาทั้งตัวจนทุกอย่างเคร่งเครียด และต้องการการปลดปล่อยตลอดทั้งคืน

เมื่อเจอประสบการณ์ไม่ดีแบบนั้น เขาจึงตัดปัญหาด้วยการไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่ควบคุมสติตัวเองไม่ได้ แม้จะนึกสนใจสาวสวยที่มองมาอย่างมากก็ตาม

แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้คิดแบบเดียวกัน

“สวัสดีค่ะ เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่าคะ”

ดวงตากลมโตคู่นั้นแฝงความประหม่า รอยยิ้มน่ามองนั้นดูไม่เป็นธรรมชาติ ธีรักษ์เดาจากประสบการณ์ว่าเธอคงต้องรวบรวมความกล้าอย่างมากที่จะเดินเข้ามา เพื่อทักทายเขาที่อายุค่อนข้างต่างกัน ปกติแล้วเขาไม่ชอบยุ่งกับเด็กที่อาจเรียกร้องหรือสร้างปัญหาในภายหลัง แต่ความรู้สึกบางอย่างล่อหลอกให้เขายินดีที่จะทำพลาด ลืมในสิ่งที่บอกกับตัวเองเสมอว่าจะไม่มีวันทำ

ธีรักษ์อยากแหกกฎ ‘ไม่กินเด็ก’

“ผมไม่แน่ใจว่าเราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า แต่ทำความรู้จักกันตอนนี้ก็ไม่สาย สวัสดีครับ ผมชื่อธีรักษ์ เรียกว่าธารก็ได้”

เขาขยับเข้าใกล้ร่างบางและพบว่าไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์อย่างที่คิด หมายความว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นต่อจากนี้มาจากความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่เพราะขาดความยับยั้งชั่งใจ

“เอ่อ ฉันชื่อน้ำค่ะ” เธอหันไปมองชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งที่กำลังประคองกันเดินออกจากบริเวณนั้น “คือเพื่อนของน้ำขอเวลาส่วนตัวสักสามสี่ชั่วโมง เอ่อ อาจจะถึงเช้า น้ำเห็นคุณอยู่คนเดียวก็เลยอยาก...”

“อยากไปกับผม?” เขาทวนคำหญิงสาวอย่างพึงพอใจ

“ถ้าคุณไม่สะดวก...”

“คุณรู้ใช่ไหมว่าถ้าไปกับผมแล้วจะเกิดอะไรขึ้น” ธีรักษ์ถามอย่างไม่อ้อมค้อม

“น้ำไม่ใช่เด็กนะคะ”

“ผมรู้ว่าคุณไม่เด็ก” เขาสอดแขนโอบเอวบางตามประสาคนเจ้าชู้ พลางโน้มตัวกระซิบเบา ๆ “แต่ผมอยากรู้ว่าคุณน่ะ มีทีเด็ดตรงไหนบ้าง”

“เด็ด หรือไม่เด็ดเดี๋ยวก็รู้ ว่าแต่คุณมีเนกไทหรือพวกผ้าปิดตาอยู่ใช่ไหมคะ เอ่อ ความชอบส่วนตัวของน้ำน่ะค่ะ ถ้าคุณถือก็ไม่เป็นไร...”

น้ำเสียงของเธอไม่ตื่นกลัวอย่างทีแรก เจือความร้อนรนและต้องการเอาชนะอยู่เล็กน้อย แต่ธีรักษ์ไม่สนใจเรื่องพวกนั้น เขาแค่ดีใจที่ค่ำคืนนี้จะได้ลิ้มลองรสชาติที่ไม่ซ้ำซากจำเจ และขอบคุณตัวเองที่มีเนกไทที่คนสวยถามหา พลางจินตนาการไปไกลว่าเธอจะใช้มันอย่างไร

ปิดตาเขา? มัดมือเธอ?

“ผมไม่ถือ” เขายิ้ม หยิบคีย์การ์ดมาเปิดประตู “ผมมีเนกไทหลายเส้นนะ...”

“งั้นคืนนี้เราคงได้สนุกกันยาว ๆ แน่เลยค่ะ”