บท
ตั้งค่า

Ep.3

“ไม่เกินสามวันครับ แล้วผมจะให้ข่าวอย่างเป็นทางการกับสื่อบันเทิงทุกแขนง”

“ดี ฉันจะคอยดู เราไปกันเถอะคุณหญิง ป่านนี้ลูกค้าคนสำคัญของเราคงจะทยอยกันมาถึงโรงแรมกันเกือบครบทุกคนแล้ว” นายพลพันเทพชิงตอบก่อนเมื่อได้ฟังคำตอบที่น่าพอใจจากปากของลูกชายตัวปัญหา คุณหญิงภารดีจึงได้แค่จิกสายตาแหลมคมมองใบหน้าหล่อเนี้ยบของลูกชายเท่านั้น ก่อนจะตวัดสายตามามองหน้าสามีสุดที่รัก

“ค่ะ” ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถที่คนใช้เดินมาเปิดประตูรอรับ เพื่อเดินทางไปเปิดตัวสินค้าตัวใหม่

ร่างสวยสง่าสมวัยก็หันมาส่งค้อนให้ลูกชายตัวแสบของนางอีกครั้งอย่างแสนงอน ทำให้ภานุวิชญ์ต้องส่งยิ้มหวานไปให้คนเป็นแม่อย่างประจบเอาใจ เพราะแม่ของเขาจะงอนแบบนี้ทุกครั้งที่เขาก่อเรื่อง

มันช่วยไม่ได้จริงๆ ก็คนมันดัง ทำอะไรก็มักจะเป็นข่าวไปเสียหมด นี่ขนาดเขาไม่ใช่ดารานะ...ยังเป็นข่าวดังมากขนาดนี้ ภานุวิชญ์ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเขาไปเป็นดาราจริงๆ ชื่อเสียงของเขาจะฉาวโฉ่มากกว่านี้อีกสักกี่ร้อยกี่พันเท่า

ตู๊ด! ตู๊ด! ตู๊ด!

คล้อยหลังเบนซ์สปอร์ตคันหรูไม่ถึงนาที เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กในกระเป๋ากางเกงสแล็กสีเข้มก็ดังขึ้น ร่างสูงล้วงหยิบเอาไอโฟนรุ่นล่าสุดขึ้นมากดรับสายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เพราะรู้ว่าใครโทร.เข้ามา พร้อมทั้งกับกรอกเสียงทุ้มๆ นุ่มๆ ลงไป

“ว่าไงจ๊ะ เด็กดีของคุณวิชญ์”

แล้วเสียงใสๆ ก็ตอบกลับมา

“คุณวิชญ์ขา พรุ่งนี้อิ๊งจะรับปริญญาแล้วนะคะ คุณวิชญ์จะมาถ่ายรูปกับอิ๊งมั้ยคะ” สาวน้อยที่เพิ่งเรียบจบปริญญาตรีหมาดๆ ถามผู้มีพระคุณของเธอด้วยเสียงหวานใส ในใจก็อยากให้เขามาร่วมแสดงความยินดีกับเธอด้วย

ภานุวิชญ์คือคนสำคัญคนแรกที่สาวน้อยอยากให้เขามาร่วมถ่ายรูปด้วยในวันรับใบปริญญาของเธอในวันพรุ่งนี้

“ไปสิจ๊ะ วันรับปริญญาของนิสิตสาวสวยคนดีของคุณวิชญ์ทั้งคนไม่ไปได้ยังไง”

เสียงทุ้มนุ่มกรอกไปตามสายอย่างเอาใจ เขาเองก็ตั้งใจจะไปแสดงความยินดีกับเด็กในอุปการะที่เป็นเด็กดีเรียบร้อยของเขาคนนี้อยู่แล้ว ไม่ได้ไปหาเธอเพราะเหตุผลที่จะไปพูดเรื่องสำคัญของเขาเพียงอย่างเดียวหรอก

“เย้! ดีใจที่สุดเลย” สาวน้อยที่เคยอยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า อุทานออกมาด้วยความดีใจสุดซึ้ง

ใบหน้าหวานยิ้มจนแก้มแทบปริ ที่จะได้ถ่ายรูปในยามที่เธอกำลังสวมชุดครุยคู่กับผู้ชายที่เธอรักและเคารพเขาประดุจพ่อ หรือพี่ชายที่แสนดี เพราะถ้าเขาไม่รับเธอมารับอุปการะส่งเสียให้ได้ร่ำเรียนในวันนั้น เด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรอย่างเช่นเธอก็คงจะไม่มีวันนี้

อิงอรอยากจะเรียกภานุวิชญ์ว่าพี่ชาย แต่ชายหนุ่มกลับชอบให้เธอเรียกคุณนำหน้าชื่อของเขามากกว่า หญิงสาวจึงไม่คิดที่จะขัดใจผู้มีพระคุณของเธอ อะไรที่ทำให้เขามีความสุขและยิ้มได้เธอก็ยินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อผู้ชายที่แสนดีคนนี้

“ถ้างั้นแค่นี้ก่อนนะสาวน้อย ฉันต้องไปทำงานแล้ว” เมื่อมองดูนาฬิกาที่ข้อมือก็เห็นว่าได้เวลาไปทำงานแล้วชายหนุ่มจึงรีบจบการสนทนาทันที

“ค่ะ”

ภานุวิชญ์กดวางสายอย่างอารมณ์ดี ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่ของเขาคิดจะเลือกให้แล้ว และเขาก็ไม่ต้องอึดอัดใจที่จะต้องทนอยู่กับผู้หญิงน่ากลัวพวกนั้น แค่นึกภาพก็สยองแล้ว นั่นเพราะชายหนุ่มพอเดาออกว่ามารดาของเขาจะเลือกคนไหนให้บ้าง เพราะเข้างานสังคมบ่อยๆ เขาจึงได้มีโอกาสเห็นหน้าค่าตาผู้หญิงไวไฟพวกนั้น

พวกหล่อนชอบมาเลื้อยเกาะแกะเขาทุกครั้งที่มีโอกาส แต่อิงอรเป็นเด็กสาวน่ารักเรียบร้อย คุยเก่ง ออกจะซื่อๆ จริงใจไร้พิษสง อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่ต้องคอยเก๊กหน้าหล่อมาดเข้มเป็นคุณชายตลอดเวลา

“อิงอร เธอเหมาะสมที่สุดที่จะมาเป็นเมียหลอกๆ ให้กับฉัน” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเบาๆ

เทพบุตรสุดหล่อที่สาวๆ หลายคนหมายปอง ยืนขึ้นเต็มความสูง สอดมือเข้ากระเป๋ากางเกง ทอดสายตาคมกริบที่ซ่อนความรู้สึกบางอย่างที่ไม่มีใครสามารถที่จะอ่านออกได้ไปไกลเกินที่จะหยั่ง ก่อนที่จะเดินขึ้นไปบนบ้านเพื่อเปลี่ยนชุดเตรียมตัวออกไปทำงานที่บริษัท

ขณะที่ขับรถ ในหัวของชายหนุ่มก็คิดเรียบเรียงคำพูดที่จะพูดกับสาวน้อยในอุปการะของเขาไปพลางๆ เขาคงจำเป็นต้องบอกถึงเหตุผลที่เขาต้องขอร้องให้เธอมาเป็นเจ้าสาวหรือมาเป็นภรรยาหลอกๆ ของเขาให้เธอเข้าใจ เขาจะไม่พูดเชิงข่มขู่บังคับ แค่จะขอร้องให้เธอทำเพื่อเขาสักครั้งเท่านั้น หากเธอจะไม่รับงานนี้จริงๆ ก็ต้องดูเหตุผลก่อน แต่ภานุวิชญ์ก็เชื่อว่าอิงอรปฏิเสธเขาไม่ลงหรอก

บริเวณสนามหญ้าหน้าอาคารหลังใหญ่ในรั้วมหาวิยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง หน้าตึกสีขาวครีมเต็มไปด้วยบัณฑิตหญิงชายทุกคณะสวมชุดครุยยาวคลุมเข่าดูสง่าสวยงามน่าภาคภูมิใจทั้งกับตัวบัณฑิตเองและญาติสนิทมิตรสหายที่มาร่วมแสดงความยินดี ร่างระหงในชุดที่สวมมงกุฎดอกไม้กวาดสายตามองหาใครคนหนึ่งตลอดเวลา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel