บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 เมื่อไหร่จะได้ออกล่า

เพล้ง!!

เมอร์เดสเขวี้ยงแก้วน้ำสีอำพันลงบนพื้นห้องด้วยความฉุนเฉียว สองวันแล้วที่เขาต้องทนนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ในคฤหาสน์หลังงามของเฮเซลโดยที่ไม่ได้ออกแรง แถมเจ้านั่นยังประเคนสาวงามหลายคนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาปรนเปรอจนแทบจะสำลัก แต่เขากลับรู้สึกว่าช่วงเวลานี้ช่างไร้ค่าและว่างเปล่าเกินไป

สาวงามที่นอนทอดร่างกับเขาเมื่อคืนรีบหลบออกจากห้องเพราะกลัวแรงอารมณ์ของชายหนุ่ม สวนทางกับร่างสูงใหญ่ของเฮเซลและทหารติดตามอีกสองนาย นั่นทำให้เมอร์เดสหัวเสียมากขึ้นที่ผู้ปกครองนครแห่งนี้ไม่มีทีท่าว่าจะมอบแผนที่ให้เขาเหมือนนักรบอีกสามคนก่อนหน้านี้ที่เดินทางออกไปตามล่าร่างทรงก่อนแล้ว

“ถ้าเจ้าไม่มอบแผนที่ให้ข้าล่ะก็ ข้าจะถล่มที่นี่!”

“ใจเย็นๆ สิเมอร์เดส ไม่มีหญิงงามคนใดถูกใจเจ้าเลยหรือ นี่ข้าคัดมาเพื่อเจ้าโดยเฉพาะเลยนะ”

เฮเซลหย่อนก้นลงบนโซฟา ละเลียดเหล้าที่เหลืออยู่น้อยนิดอย่างใจเย็น ไม่นำพาต่อพายุอารมณ์ของอีกฝ่ายที่อัดอั้นใกล้จะระเบิดเต็มแก่

“ที่นี่ไม่มีแรงจูงใจสำหรับข้าอีกแล้ว!! ไหนล่ะเรื่องตื่นเต้นที่ว่า เสียเวลาชะมัด!!” เมอร์เดสถ่มน้ำลายรดพื้น เดินกระแทกส้นเท้าผ่านหน้าเฮเซลไปทางประตูซึ่งทหารติดตามนายหนึ่งยืนกอดอกขวางอยู่

“หึ! เจ้าพวกโง่ กระจอกอย่างพวกแกไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อย ถอยไป!!”

เขาจับคอเสื้อของทหารคนนั้นด้วยความโกรธเกรี้ยว เหวี่ยงร่างที่สูงใหญ่กว่าเขาออกไปให้พ้นจากประตูด้วยมือข้างเดียว จนร่างนั้นลอยหวือไปกระทบกับผนังห้องแล้วร่วงลงมานอนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด แล้วก็สิ้นใจไปทันที

“แก!!” ทหารอีกคนคำรามด้วยความโกรธ ชักดาบขึ้นมาพุ่งไปหาเป้าหมายที่ยืนแสยะยิ้มโดยไม่เกรงใจเฮเซลเลยสักนิด

เมอร์เดสเบี่ยงตัวหลบนิดเดียว ทหารคนนั้นก็เสียหลักหน้าทิ่มล้มคะมำ เขาวาดขาเตะกลางลำตัวของอีกฝ่ายจนร่างลอยขึ้นไปกระแทกกระจกเพดานแตกดังเพล้ง!!

“โอ๊ย!!” ทหารหนุ่มร้องลั่นเมื่อมองลงมาข้างล่าง เห็นคนที่เตะเขาเงยหน้าขึ้นยิ้ม พร้อมกับวาดแขนปล่อยพลังก้อนเล็กๆ เพียงแวบเดียวมันก็พุ่งออกจากฝ่ามือขึ้นมากระแทกกลางลำตัว

ซูม!!

“อ๊าก!”

โครม!!

ร่างของทหารคนที่สองหายไปพร้อมๆ กับรอยโหว่บนเพดานและฝุ่นที่คลุ้งกระจาย เมื่อจัดการกับพวกลูกกระจ๊อกทั้งสองจนไม่มีอะไรมาขวางแล้ว เมอร์เดสก็หันมาหาเจ้าของประเทศจอร์จิน่าซึ่งยังนั่งจิบเหล้าอย่างใจเย็นแม้ลูกน้องทั้งสองจะตายไปต่อหน้าต่อตาแล้วก็ตาม

“ทำได้ดีนะเมอร์เดส แต่ยังไม่ดีพอสำหรับข้า”

“แก! จะตายอยู่แล้วยังพูดมาก!” ชายผู้กระหายเลือดกระโดดเข้าไปหาเฮเซลด้วยความรวดเร็ว หมายจะทรมานเจ้าคนโอหังให้ตายอย่างช้าๆ ทว่าร่างสูงใหญ่นั้นกลับโผล่ไปยืนอยู่บนโซฟาอีกฝั่งหนึ่งหน้าตาเฉย ทั้งๆ ที่แก้วเหล้ายังวางอยู่ที่เดิม

“ความเร็วใช้ได้ ทำเอาข้าขนลุกเลยนะนั่น!” เฮเซลยิ้มบางๆ กับท่าทีของอีกฝ่ายที่บันดาลโทสะเมื่อคิดว่าโดนหยามหมิ่น

เมอร์เดสกัดฟันกรอด ปล่อยพลังที่ฝ่ามือออกไปอีก ในระยะประชิดแบบนี้ยังไงก็ต้องโดนศีรษะและใบหน้าของคนที่กำลังยิ้มเยือกเย็นเยาะเย้ยเขาแน่ๆ

ตูม!!

ครึก! ครืน!!

ผนังห้องด้านหลังเป็นรูโหว่ ก่อนจะพังทลายลงจนมองเห็นห้องอื่นๆ บนคฤหาสน์ชัดเจน หากแต่คนที่ถูกโจมตีซึ่งๆ หน้ากลับลอยตัวอยู่เหนือศีรษะของเขา กอดอกมองดูผลงานอย่างพอใจ

“ไม่! นี่ไม่ใช่ร่างจริงของมัน ไม่มีเงาทอดลงบนพื้นหรือผนัง นี่มันเรื่องตลกชัดๆ!”

เมอร์เดสคิดอย่างตื่นตระหนก ผงะไปข้างหลังเมื่อรูโหว่ของผนังห้องนั้นขยายใหญ่ขึ้น พร้อมๆ กับที่ใบหน้าขนาดมหึมาปรากฏขึ้นเคียงคู่เฮเซล มันเป็นใบหน้าของมนุษย์ หากแต่ดวงตากลับแดงฉานปูดโปนออกมานอกเบ้า ไม่มีใบหู ริมฝีปากหนากำลังบริกรรมคาถาขมุบขมิบ

“นี่แก!! แกเลี้ยงปีศาจไว้ใช้งานด้วยเรอะ!!”

“นี่คือพ่อมดวาเลรี่แห่งจอร์จิน่า เจ้าควรจะรู้จักไว้หากต้องการเพิ่มพลังให้แข็งแกร่งขึ้น เขาสามารถช่วยเจ้าได้” เฮเซลผายมือไปยังใบหน้าขมึงถึงน่ากลัวซึ่งกำลังท่องคาถาไม่หยุด

“คิดว่าข้าจะแพ้เจ้างั้นเรอะ!! ต่อให้เป็นพ่อมดข้าก็ไม่กลัว!” เมอร์เดสทุ่มพลังเข้าใส่ใบหน้าน่าเกลียดน่ากลัวนั้นด้วยความเกลียดชัง

ตูม!!

เปรี๊ยะ!

ครืน!!! ครืน!!!

พลังมหาศาลของเมอร์เดสระเบิดห้องทั้งห้องจนแหลกเป็นจุล คฤหาสน์รับรองหลังนี้พังครืนลงในพริบตา ฝุ่นและเขม่าควันลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า เปลี่ยนแสงสว่างให้กลายเป็นกลุ่มก้อนดำทะมึน ในขณะที่เขาหอบจนตัวโยนเพราะฝืนร่างกายมากไป

ดวงตาของเขาเบิกโพลง! เมื่อมองเห็นร่างของเฮเซลและพ่อมดวาเลรี่ยังคงลอยอยู่ที่เดิมด้วยสภาพที่สมบูรณ์ไร้ซึ่งรอยขีดข่วนใดๆ แม้ว่าตึกทั้งหลังจะกลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว!

“เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอกเมอร์เดส เพราะกายกับจิตของเจ้าไม่สัมพันธ์กัน ดวงจิตของข้าควบคุมดวงจิตของเจ้าอยู่ รวมถึงพลังอันมหาศาลของเจ้าด้วย มาสิ! มารับพลังที่ยิ่งใหญ่ที่พ่อมดวาเลรี่จะมอบให้ แล้วเจ้าก็จะเป็นหนึ่งในแผ่นดินนี้ มีอำนาจเช่นเดียวกับอสูรสงคราม!”

เอรอสสะดุ้ง! เมื่อจิตของเขาสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความเกลียดชังมหาศาลที่ถูกใครบางคนปล่อยออกมาจนทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ ชายหนุ่มผูกม้าและลากเกวียนไปแอบใต้ต้นไม้ใหญ่เช่นเคย อีกไม่นานจะถึงหมู่บ้านเคอร์เซอร์ เขาจะต้องไปตรวจดูให้แน่ใจเสียก่อนว่าที่นั่นปลอดภัยพอที่จะพาคารินไปพัก ก่อนจะสืบสาวหาต้นตอของพลังนั้นและกำจัดเสีย

"รออยู่ตรงนี้เงียบๆ นะ ข้าจะเข้าไปดูที่พักในหมู่บ้านก่อน”

“อึก!...ฮื้อ” หญิงสาวดึงแขนเสื้อของเขาไว้ เมื่อเอรอสทำท่าจะผละไปและทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียว

“ข้าไปไม่นานหรอก” เขาปลดมือเธอออกแล้วกระโดดขึ้นไปยืนบนยอดไม้ มองทัศนียภาพเบื้องหน้าด้วยความพอใจ ไม่ไกลจากตรงนี้คือหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดของเกาะ ผู้คนที่เหมือนมดตัวเล็กๆ เดินขวักไขว่อยู่บนถนน บ้างก็ลากเกวียนไปมา กลุ่มควันที่ลอยขึ้นมาแสดงว่าพวกเขากำลังหุงหาอาหารกันแล้ว

เอรอสเลือกที่จะกระโดดลอยตัวไปตามยอดไม้เพื่อหลบหลีกสายตาคน และใช้เวลาน้อยกว่าการวิ่งบนพื้นดิน จนกระทั่งไปยืนอยู่บนหลังคาบ้านที่สูงที่สุด เขาก็กระโดดลงไปยืนบนพื้นอย่างรวดเร็ว

หมู่บ้านนี้คึกคักพอสมควร ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย พวกเขาดัดแปลงบ้านทำชั้นล่างให้เป็นร้านค้าในตอนกลางวัน ตกกลางคืนก็เก็บโต๊ะเก้าอี้และใช้ห้องเป็นที่หลับที่นอน มีบ้านหลายหลังที่เขียนป้ายติดไว้ว่ามีห้องเช่าราคาถูก เหตุเพราะเป็นเมืองศูนย์กลางของเกาะ ขบวนพ่อค้าจะต้องแวะเวียนสัญจรผ่านมาพักเป็นประจำ

เขาเดินเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้า เลือกชุดสีดำสำหรับตัวเองชุดหนึ่งและชุดสีขาวสำหรับคารินอีกชุดหนึ่ง รวมทั้งรองเท้าสำหรับเธอและเขาอีกอย่างละคู่ เพราะรองเท้าของเขานั้นเริ่มจะขาดแล้ว ส่วนของเธอนั้นมันพังไปแล้ว อีกข้างที่ตกอยู่ก็ไม่ได้เก็บมาด้วย เขาจึงหยิบเอาข้างที่เหลือมาเทียบขนาด

จากร้านขายของ ชายหนุ่มสะพายย่ามไปบ้านหลังใหญ่ที่เปิดให้พ่อค้าเข้าไปเช่าพักค้างแรม ชั้นล่างเป็นห้องอาหาร ส่วนชั้นสองและชั้นสามแบ่งให้แขกเช่าพักชั้นละสามห้อง เขาจึงเช่าห้องที่มีเตียงคู่ไว้หนึ่งห้องและจ่ายเงินมัดจำไว้ก่อน เมื่อเสร็จธุระเรื่องที่พัก เขาก็แบกสัมภาระกลับไปหาหญิงสาวด้วยวิธีการเดิม

มาถึงจุดพัก เขาตรงดิ่งไปที่ม้าและเกวียน ทว่า...ในตอนนี้ไม่มีร่างของเธออยู่บนนั้นแล้ว!!

“คาริน! คาริน! ยังอยู่หรือเปล่า?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel