บทนำ ไฟรักทะเลหวาน
ร่างระหงใช้แฟ้มเอกสารบังศีรษะวิ่งตัวปลิวเข้ามายืนตัวลีบใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างชายคาบ้านหลังสีขาวเมื่อสายฝนกระหน่ำลงมาหนักกว่าเดิม กิ่งดาวผ่อนหายใจเบา ๆ พลางลูบหยาดน้ำฝนที่ติดตามใบหน้าและเรียวแขนออก ก่อนหันไปกดกริ่งที่รั้วบ้านแล้วยืนรอเจ้าของบ้านออกมาเปิดประตูรั้วบ้านให้
อึดใจเดียวเท่านั้นประตูรั้วที่กันด้วยไม้ระแนงทาสีเขียวอ่อนจึงเปิดออกกว้าง หญิงสาวจึงรีบก้มหน้าก้มตาก้าวเท้ายาว ๆ แทรกตัวเข้ามาในบริเวณบ้านทันที
“ขอบคุณค่ะลุงปอง แย่จังที่หนูมาหาตอนวันฝนตกพอดี” กิ่งดาวบอกด้วยน้ำเสียงสำนึกผิดเล็กน้อยที่มารบกวนขณะเดียวกันเธอได้ย่อตัวปลดสายรองเท้าส้นสูงออกจากข้อเท้าเนียน...
หากเงยหน้าขึ้นสบตากับคนเปิดประตูรั้วให้ สีหน้าขาวซีดเพราะเปื้อนหยาดฝนจึงเปลี่ยนเป็นร้อนผ่าวขึ้นมา อำนาจบางอย่างในดวงตาคู่สวยสีน้ำทะเลลึกทำให้หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวกระตุกวูบ...
เสมือนมีกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ ไหลเวียนไปทั่วทั้งร่าง!!
พรึบ!
แฟ้มเอกสารซึ่งถือไว้แนบอกตกสู่พื้น แต่กิ่งดาวยังคงมองอีกฝ่ายไม่ละสายตา อาจเรียกว่าไม่สามารถถอนสายตาออกจากฝ่ายนั้นก็คงไม่ผิด
ทั้งนี้เป็นเพราะคนที่เธอเรียกแจ้ว ๆ ว่า ‘ลุงปอง’ กลับกลายเป็นชายชาวต่างชาติแปลกหน้า ร่างสูงใหญ่เกินมาตรฐานชายไทย ซ้ำเขายังจับจ้องวงหน้าเธอตาไม่กะพริบ
แต่ที่ทำให้กิ่งดาวสะดุดตาจนส่งผลให้หัวใจกระตุกวูบตามไปด้วยเห็นจะเป็นความหล่อแปลกตาของชายผู้นี้นี่ล่ะ
‘หล่อยังกับเจ้าชาย หลุดออกมาจากเทพนิยายเรื่องอะไรหนอ’ หญิงสาวเพ้อในใจ เผลอคิดอะไรฟุ้งซ่าน แต่นึกได้ว่าตนเองทำแฟ้มเอกสารหล่น เธอจึงสลัดเรื่องไร้สาระออกจากสมอง
“I’m sorry” เธอรีบขอโทษขอโพยพร้อมค้อมศีรษะให้จากนั้นจึงย่อตัวเก็บแฟ้มเอกสาร แต่ร่างสูงไวกว่า เพียงก้มตัวลง แฟ้มเอกสารของกิ่งดาวก็อยู่ในมือชายหนุ่มเรียบร้อย
ดวงตาคมคายประดับด้วยแพขนตาหยุดที่วงหน้าหวานชวนมองอีกครั้ง เขาสำรวจหญิงสาวอย่างรวดเร็วราวจะบันทึกภาพเธอเอาไว้ในความทรงจำ
เส้นผมสลวยยาวประบ่าลีบแบนติดกรอบหน้าเพราะเปียกหยาดน้ำฝนเสริมให้วงหน้าหวานนั้นดูเย้ายวน โดยเฉพาะริมฝีปากจิ้มลิ้มเคลือบลิปสติกสีส้มอ่อน ๆ นั้นน่าประทับจุมพิตเป็นที่สุด
“เข้าบ้านเถอะ เดี๋ยวไม่สบาย” สำเนียงไทยที่ไม่ชัด แต่ฟังได้ศัพท์ทำเอาหญิงสาวเลิกคิ้วขึ้นสูงมองอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ
อะไรบางอย่างในดวงตาสีน้ำเงินเข้มคล้ายสีของน้ำทะเลลึกทำให้กิ่งดาวหายใจไม่ทั่วท้อง เสน่ห์แห่งเพศที่ลงตัวกับความงามอย่างไม่มีที่ติของชายหนุ่มปริศนานี่ล่ะ ก็ทำให้หญิงสาวเผลอจ้องหน้าอีกฝ่ายตาไม่กะพริบคล้ายต้องมนต์สะกด
เหมือนเวลาหยุดหมุนเมื่อชายหนุ่มทอดสายตาคมเฉียบมายังเธอ...
ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดเข้าห่อหุ้มหัวใจ... แต่ไม่สามารถตอบตนเองได้ว่า เคยรู้จักเขาคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
กิ่งดาวนิ่งเป็นอึดใจจนลมเย็นเยือกลูบไล้ผ่านเรือนกาย ทว่าแก้มนวลก็แดงซับเลือดขึ้นมาอีก เมื่อเจ้าของดวงตาสีน้ำทะเลลึกหยุดสายตาไว้ที่เสื้อเชิ้ตสีหวานซึ่งเปียกหยาดน้ำฝน กิ่งดาวรีบดึงแฟ้มเอกสารจากมือฝ่ายนั้นมาบังหน้าอกของตัวเองทันที
“มองอะไรยะ?” เธอถามเสียงเขียวด้วยความไม่พอใจ
คนถูกถามไม่ตอบ เขาไหวไหล่และยิ้มกรุ้มกริ่มโดยหยุดสายตาไว้ที่ร่องอกซึ่งตอนนี้ถูกแฟ้มเอกสารบังอยู่ กิ่งดาวจึงหน้าแดงซ่านกว่าเดิม
“ทะลึ่ง!” หญิงสาวแยกเขี้ยวพร้อมถลึงตาใส่ ก่อนสะบัดก้นเข้าบ้านทันทีโดยไม่หันกลับไปเหลียวมองคนเปิดประตูรั้วให้อีก
เสียงปิดประตูดังโครมที่ดังมาในเสี้ยววินาทีทำเอาชายหนุ่มระบายเสียงหัวเราะหึหึออกมาจากลำคอ ดวงตาสีน้ำทะเลลึกมีแววปรารถนาฉายชัดออกมากว่าเดิมรวมทั้งรอยยิ้มพึงพอใจ นานมากแล้วที่เขาไม่รู้สึกแบบนี้กับสาวคนไหน น่าแปลก... แค่เห็นหน้าเธอเท่านั้น เขาก็ตื่นตัวขึ้นมา
“กิ่งดาว สิริวรรณ” ชายหนุ่มรำพันชื่อหญิงสาวแผ่วเบา ก่อนจากไปเงียบ ๆ ท่ามกลางสายฝนซึ่งสาดเทลงมาหนักกว่าเดิม...
