บทที่ 2 แม่บ้านคนใหม่ (3)
ชายหนุ่มพยายามทัดทานปฏิกิริยาทางธรรมชาติสุดกำลัง มือหนึ่งดันไหล่บางของหญิงสาวซึ่งนั่งคร่อมร่างเขาออก ขณะที่มือหนึ่งขยุ้มผ้าปูที่นอนขาวสะอาดไว้พร้อมกัดฟันกรอด ๆ จนหน้าหล่อเหลาเหยเกเพื่อระงับอารมณ์ปรารถนาที่เกิดขึ้น หากแต่แม่สาวจอมยั่วยังไม่หยุดแค่นั้น เธอคงเดินหน้าเพื่อเติมเชื้อเพลิงปรารถนาต่อไป
ไม่ต้องมีใครบอก กิ่งดาวก็รู้ได้ทันทีว่าคนในห้องกำลังทำอะไรกัน ดังนั้นเธอจึงหันหลังกลับทันที
ทว่า...ความรีบร้อนและไม่ทันระวังตัว เสียงของวัตถุหล่นแตกทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้งเฮือก
กิ่งดาวหลับตาปี๋ก่อนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ พอเหลียวหลังกลับไปมองผลงานของตนเอง สีหน้าแดงของหญิงสาวจึงเปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันที
“ใบนี้กี่แสนล่ะเนี่ยยัยกิ่ง”
หญิงสาวพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก หากจะชิ่งหนีก็ไม่ทันกาลเสียแล้ว เพราะประตูห้องถูกเปิดออกกว้างเสียก่อน ชายหนุ่มร่างโตที่ถูกสาวผมทองปลุกปล้ำจึงก้าวออกมาเผชิญหน้ากับเธอ!
##### บทที่ 3
ว่าที่เจ้าสาวจำเป็น
ความเครียดและความอึดอัดถาโถมเข้ามา ประหนึ่งว่าเธอคือผู้ที่เด็ดผลของต้นไม้แห่งความรู้ดีรู้ชั่วจากสวนเอเดน...
หญิงสาวหันไปยิ้มแหยให้อีกฝ่ายด้วยพูดอะไรไม่ออกเพราะจำนนต่อหลักฐาน และทันที่สบตากับฝ่ายนั้น หัวใจดวงน้อยซึ่งเต้นระทึกกับสถานการณ์ตึงเครียดก็หล่นไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะชายหนุ่มชาวต่างชาติที่เธอเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้ เป็นคนคนเดียวที่เธอเคยพบหน้าที่บ้านลุงปองเมื่อสามวันก่อน!
โลกกลม หรือว่าโชคชะตาเล่นตลกกับเธอนะกิ่งดาว...
“เอ่อ คือ... ฉัน”
กิ่งดาวอึกอัก มือไม้ดูเก้งก้างทีเดียวเมื่อถูกสายตาคมคายจับจ้องชนิดไม่ละสายตา จากนั้นรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์จึงพร่างพรายเต็มใบหน้าคมเข้ม ซึ่งรอยยิ้มสนิทสนมที่ชายหนุ่มจงใจมอบให้นั้นราวกับรู้จักเธอมาเป็นชาติเลยทีเดียว
“มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ที่รัก มานี่เลย ผมมีเพื่อนจะแนะนำให้คุณรู้จัก”
ภาษาไทยไม่แข็งแรงแต่พอจับประเด็นได้ของชายหนุ่ม ไม่ทำให้กิ่งดาวงุนงงเท่ากับกิริยาสนิทชิดเชื้อของเขา ยิ่งสรรพนามที่บ่งบอกฐานะ ‘คนรัก’ ยิ่งทำให้เธองงงวย
“คะ?”
กิ่งดาวมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ แต่ไม่มีคำอธิบายใด ๆ นอกจากชายหนุ่มคว้าต้นแขนเธอให้มาเผชิญหน้ากับแม่สาวผมทองแสนเซ็กซี่ที่เพิ่งก้าวออกมาจากห้อง
“ลีน่า นี่คือกิ่งดาว คู่หมั้นของผมเอง”
ชายหนุ่มแนะนำด้วยเสียงทุ้มชวนฟัง มือหนาเลื่อนมากุมไหล่บางของหญิงสาวเอาไว้หลวม ๆ เพื่อแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ทว่าคำแนะนำนั้นก็ทำให้กิ่งดาวอึ้งไปชั่วขณะ พอตั้งสติได้เธอจึงหันไปทำหน้ายักษ์ใส่ชายหนุ่ม
“จะบ้าหรือไงคุณ!”
กิ่งดาวตวาดเสียงใส่ชายหนุ่มที่เขาแนะนำเธอแบบนั้น พร้อมรีบแกะมือหนาที่กุมไหล่เธอออกทันที แต่ชายหนุ่มไม่ยอมง่าย ๆ ซ้ำยังเลื่อนมือมากระชับเอวบางให้แน่นหนา แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น
“คุณทำแจกันของผมแตก ถือว่าละครฉากนี้เป็นการชดเชยค่าเสียหาย” ไม่บอกอย่างเดียว ชายหนุ่มยังยักคิ้วให้ด้วย ซึ่งคนถูกมัดมือชกถึงกับตาวาวกับความเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันที
“คุณกำลังแบลกเมล์ฉันอยู่นะ” กิ่งดาวแยกเขี้ยวใส่ด้วยความไม่พอใจ เขากล้าดียังไงถึงได้แนะนำเธอไปอย่างนั้น ถึงเธอจะผิดที่ซุ่มซ่ามไม่ระวังทำแจกันเขาแตก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอต้องชดใช้เขาด้วยวิธีนี้นี่ ทว่าชายหนุ่มกลับยิ้มเจ้าเล่ห์ตาพราว
“เลือกเอาก็แล้วกัน แจกันใบนั้นผมสั่งตรงมาจากจีน ราคาแค่... เจ็ดแสนเท่านั้น”
“เจ็ดแสน!” หญิงสาวอุทานตาโตเอามือทาบอก และนิ่งงันอยู่อย่างนั้น...
‘งานเข้าแล้วไง’ กิ่งดาวรำพันในใจ เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างอยากลำบาก
งานการก็ยังไม่มีทำเป็นหลักแหล่ง ซ้ำยังแบมือขอเงินพ่อใช้ ครั้นพอได้งาน ก็ดันซุ่มซ่ามก่อเรื่องขึ้นมาอีก แล้วจะเอาเงินเจ็ดแสนจากที่ไหนมาชดใช้ค่าเสียหายให้เจ้าของแจกันนี่ล่ะ ในเมื่อเงินเก็บสะสมของเธอถูกแฟนหนุ่มหยิบยืมไปหมด...
