Ep.4
สองผัวเมียหันหน้ามายิ้มให้กันทันทีอย่างยินดี ดีใจที่จะได้เงินก้อนโต พอที่จะทำบ้านหลังใหม่สักหลัง และมีเงินไปใช้หนี้เกือบแสนที่ติดค้างเจ้าหนี้เอาไว้สองสามปีมาแล้ว เงินที่เหลือนอกจากนั้นก็จะเอาไปปรนเปรอลูกสาวสุดที่รักและเป็นทุนในการเข้าบ่อนต่อ
น้ำผึ้งนั่งฟังการสนทนาของทั้งสี่คนจนจบด้วยหัวใจที่หดหู่ ไม่เคยคิดเลยว่าผู้มีพระคุณของเธอทั้งสองคนจะใจร้ายใจดำกับเธอถึงเพียงนี้ เหลือเวลาอีกสามวันเธอก็จะต้องตกไปเป็นเมียบำเรอของตาแก่ตัณหากลับคนนี้จริงๆ หรือ เธอจะไม่มีหนทางไหนที่จะหนีพ้นขุมนรกที่เธอกำลังจะเผชิญในอีกสามวันข้างหน้านี้เลยหรือไร แล้วเธอจะกล้าเป็นคนเนรคุณคนที่เลี้ยงดูเธอมาถึงสิบปีได้หรือเปล่า
มาร์คุส เดมินอฟ มหาเศรษฐีหนุ่มแห่งดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน เขาเป็นจิตรกรอันดับต้นๆ ของโลก เขาเดินทางมาเมืองไทยเพื่อแสดงผลงานศิลปะภาพวาดของตนเองในช่วงหน้าหนาว และจิตรกรหนุ่มก็เดินทางมาถึงเมืองไทยล่วงหน้าก่อนจะมีงานแสดงภาพศิลป์ประมาณหนึ่งอาทิตย์ เพื่อต้องการมาเที่ยวชมงานพฤกษาชาติที่จังหวัดเชียงใหม่ และมีความปรารถนาแรงกล้าที่จะวาดรูปหญิงไทยสักคนที่สวยถูกใจ ท่ามกลางมวลบุปผชาตินานาพรรณ
“ฟาคัส นายโทรไปจองบ้านพักในรีสอร์ตที่ดีที่สุดให้ฉันหนึ่งหลังนะ ส่วนที่พักของพวกนายก็แล้วแต่จะจัดการกันเอง”
มาคุสหันไปสั่งหนึ่งในบอดี้การ์ดฝีมือดีให้ไปจัดการกับที่พักเพื่อพักผ่อนที่เชียงใหม่ล่วงหน้าก่อนที่เขาจะเดินทางไปชมงานพฤกษาชาติในตัวจังหวัด ที่สำคัญนอกจากเขาจะหาผู้หญิงสวยๆ สักคนมาเป็นแบบวาดรูปให้ได้แล้ว เขายังมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญมากที่ได้รับมอบหมายมาและมันเป็นความตั้งใจของเขาด้วยที่จะทำให้การมาเชียงใหม่หน้าหนาวปีนี้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจเอาไว้ทั้งสองอย่าง
“ผมจะรีบไปจัดการให้ครับเจ้านาย” ฟาคัส น้อมรับคำสั่งแล้วหมุนตัวเดินเลี่ยงออกไปจากห้องพักของเจ้านายทันที
ก๊อกๆ
“เข้ามาได้”
เมื่อได้ยินเสียงอนุญาต บอดี้การ์ดอีกคนที่ชื่อเบนก็พาหญิงสาวสวยคนหนึ่งมาส่งมอบให้เจ้านายตามที่เขาได้สั่งเอาไว้ ผู้หญิงที่พามาให้เจ้านายคือหมอนวดสาวที่ทางโรงแรมจัดมาบริการสำหรับลูกค้าวีไอพีที่ต้องการการบริการเป็นพิเศษ คือสามารถที่จะให้หมอนวดสาวทั้งนวดและนาบได้ในเวลาเดียวกัน
ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรกรีกที่ดูเข้มดุดันนิดๆ กับชุดสีเข้มที่สวมใส่เสริมให้จิตรกรหนุ่มดูน่าเกรงขามระคนดูมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ ดวงตาสีน้ำทะเลลึกสบตาสีน้ำตาลอ่อนของหญิงสาวรูปร่างสะโอดสะองในชุดไทยสีหวาน ที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เขาด้วยท่าทางเอียงอาย
แต่ชายหนุ่มก็รู้ว่ามันคงเป็นแค่จริตมารยาของพวกสาวบริการเท่านั้น ไม่ใช่วิสัยธรรมชาติจริงๆ ของพวกหล่อนหรอก เพราะเขาผ่านผู้หญิงจำพวกนี้มาเยอะแล้ว แต่ก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด เพราะอาชีพทุกอาชีพที่ไม่ได้เบียดเบียนใครย่อมมีเกียรติทั้งนั้น
“สวัสดีค่ะมิสเตอร์ ลินดายินดีรับใช้ค่ะ”
ลินดาเป็นพนักงานอาบอบนวดของโรงแรมชื่อดังแห่งนี้ เธอทำงานที่นี่มาหลายปีแล้วและเธอเป็นมืออาชีพมากที่สุด ด้วยรูปร่างที่ยั่วยวนใจชาย การนวดแผนโบราณชั้นครู และพูดได้หลายภาษา ทำให้เธอถูกคัดเลือกมาเพื่อบริการจิตรกรระดับแถวหน้าของประเทศนอร์เวย์ในวันนี้
“ผมกำลังเมื่อยอยู่พอดี ช่วยนวดตัวให้ผมหน่อยนะ ตามผมเข้ามาได้”
จบประโยคพนักงานสาวสวยก็เดินตามร่างสูงสง่าเข้าไปยังห้องนอนของเขา และวางอุปกรณ์การนวดลง เมื่อร่างสูงเริ่มถอดชุดที่เกะกะการนวดออกจนเหลือเพียงอันเดอร์แวร์ผืนเดียวที่ปกปิดความเป็นชายของเขาเอาไว้
หญิงสาวก้มหน้าเอียงอาย ทั้งๆ ที่อยากจะมองใจแทบขาด แต่ก็ต้องรักษามารยาทหญิงไทยเอาไว้ และเมื่อร่างกายเกือบเปลือยที่แสนเพอร์เฟคถูกผ้าขนหนูสีขาวผืนเดียวพันรอบขอบเอวหนาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว พนักงานคนสวยจึงได้เงยหน้าขึ้นสบตาคมกล้าคู่นั้นอย่างชื่นชมหลงใหล
มาคุสนอนคว่ำหน้าลงกับที่นอน ปล่อยให้พนักงานสาวสวยนวดคลายเส้นบนแผ่นหลังไปเรื่อยๆ หลายครั้งที่ชายหนุ่มรู้สึกว่าลินดาพยายามจะยั่วเขา
“ผมต้องการให้คุณนวดอย่างเดียว อย่างอื่นไม่ต้อง”
เจ้าของเรือนร่างแข็งแรงกำยำบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชาค่อนไปทางดุดัน เพราะเวลานี้ชายหนุ่มที่เพิ่งอิ่มเอมในรสรักเมื่อสามวันก่อนกับคาร่าคู่ควงคนล่าสุดของเขายังไม่ต้องการหญิงใดมาปรนเปรอสวาทให้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่รู้สึกต้องการในเรื่องอย่างว่า แต่เขาเลือกผู้หญิงที่จะนอนด้วยต่างหาก ซึ่งถ้าหากไม่ถูกใจจริงๆผู้ชายอย่างมาคุสไม่มีทางนอนกับผู้หญิงคนไหนง่ายๆ
พนักงานสาวรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ไม่มีโอกาสได้บริการเสริมให้มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อคนนี้ แต่หญิงสาวก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรหรอก อาจแค่ได้ทิปน้อยลงเท่านั้น แต่ระดับผู้ชายตัวโตมาดผู้ดีมีเงินคนนี้คงกระเป๋าหนักไม่น้อย เพราะราศีความร่ำรวยมันแผ่ขยายออกมารอบตัวชายหนุ่มจนเห็นได้ชัด
“พอแล้วล่ะลินดา” เสียงทุ้มเอ่ยบอกเบาๆ
“ค่ะ”
ร่างหนาลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วล้วงหยิบเอาธนาบัตรสีม่วงให้พนักงานสาวหลายใบ ลินดายิ้มกว้างกับทิปที่ได้รับ
“ขอบคุณมากค่ะ มิสเตอร์”
ร่างสะโอดสะองค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเมื่อเอ่ยคำขอบคุณลูกค้าชาวต่างชาติมาดเข้ม ร่างสูงเพียงมองด้วยสายตานิ่งๆ เท่านั้น จนพนักงานสาวเดินออกไปพ้นประตูห้อง ชายหนุ่มจึงหยิบรูปเล็กๆ ในกระเป๋าสตางค์อีกช่องหนึ่งขึ้นมาดู รูปเด็กผู้หญิงร่างอวบอิ่มอายุประมาณสิบสองขวบ มีนัยน์ตากลมโตสีเขียวมรกต มีผมสีน้ำตาลเข้มเป็นลอนยาวสลวย ผิวขาวดุจหิมะ สวมชุดกระโปรงสีหวานแขนตุ๊กตายาวถึงเข่า กำลังนั่งยิ้มอย่างมีความสุขท่ามกลางสวนดอกไม้ที่กำลังแข่งกันออกดอกหลากสี ช่างดูน่ารักสดใสยิ่งนัก ‘หวังว่าฉันคงจะได้เจอเธอนะสาวน้อย’
เนิ่นนานทีเดียวกว่าจุมพิตที่แสนตราตรึงจะผละออก ดวงตาสีเขียวมรกตในชุดชุดกระโปรงสีหวานแขนตุ๊กตายาวถึงเข่าจึงค่อยๆ ลืมขึ้นมามองยอดชายในฝันของเธอด้วยประกายตาหวานฉ่ำ
“ฉันก็ชอบเธอนะฮันนี่ รีบโตไวๆ นะ เจ้าสาวของมาคุส”
เด็กสาวยิ้มแก้มแทบปริกับคำพูดดุจน้ำทิพย์ชโลมใจที่ชายหนุ่มตรงหน้ามอบให้ เธอหลงรักเขามานานแล้ว เด็กน้อยคิดแบบนั้น
“เอาล่ะเราวาดรูปเสร็จแล้ว ทีนี้เรามาทำอะไรต่อดีจ๊ะ”
“เรามาถ่ายรูปกันดีไหมคะ พี่มาคุส”
“ถ่ายรูปเหรอ อืม...ก็ดีนะ”
“งั้นรอฮันนี่อยู่ตรงนี้นะคะ เดี๋ยวฮันนี่จะไปเอากล้องมาให้ค่ะ”
จบประโยค สาวน้อยร่างกระปุ๊กลุกก็ไม่เสียเวลารอคำตอบ ร่างเล็กวิ่งผลุบหายเข้าไปในบ้านทันที และไม่กี่นาทีต่อมาร่างกระปุ๊กลุกนั้นก็หอบเอากล้องถ่ายรูปเครื่องเล็กติดมือมาแล้วยื่นให้ร่างสูงทันที
“พี่มาคุสถ่ายรูปให้ฮันนี่ก่อนนะคะ เดี๋ยวฮันนี่จะถ่ายรูปให้พี่มาคุสเปลี่ยนกัน”
“จ้ะ”
แสงแฟลชที่พุ่งเข้าตาทำให้ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก สาวน้อยสั่นสะท้านไปทั้งร่างเพราะผ้าห่มร่นลงไปกองที่ปลายเท้า แต่คนตัวเล็กก็นอนไม่หลับอีกแล้วเมื่อนึกได้ว่าพรุ่งนี้แล้วที่ตาแก่ฝรั่งนั่นจะมาสู่ขอเธอ หญิงสาวลุกขึ้นนั่งชันเข่า แขนสองข้างกอดเข่าเอาไว้แน่นเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตัวเอง สมองก็คิดไปเรื่อยเปื่อยนึกถึงหนทางแก้ไขปัญหา
อากาศในคืนนี้ช่างเหน็บหนาวนัก ร่างบางสั่นสะท้านมากขึ้นเมื่อพยายามคิดหาหนทางแก้ไขปัญหา แต่นาทีนี้คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก
“น้าสายใจ น้าวีระ ทำไมน้าทั้งสองคนถึงได้ใจร้ายกับน้ำผึ้งแบบนี้”
สาวน้อยกอดเข่าน้ำตาไหลพราก เมื่อสัมผัสได้ถึงความเหงาเปล่าเปลี่ยวที่ตนเองไม่มีใคร ไม่มีพ่อไม่มีแม่เหมือนคนอื่น ทั้งที่พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ว่าเธอเคยมีพ่อแม่กับเขาด้วยหรือ แล้วทำไมถึงได้โหยหาอ้อมกอดของพวกเขามากมายขนาดนี้
