ตอนที่ 2
“เมญา...ลูก...”
“ลูกของฉันเองค่ะ พ่อเขาไม่อยู่ ออกไปทำงาน”
เธอรีบกลบเกลื่อนแต่เมื่อลุกขึ้นยืนและกำลังจะเดินกลับออกไปกลับถูกคาวีรั้งแขนเอาไว้ เขากดเสียงต่ำลงว่า
“พ่อของเด็ก...เขาทำงานอะไร”
“เขาทำงาน...เขาก็ทำงานข้างนอก”
“ไม่ใช่...ตอนนั้นที่คุณบอกผมว่า...”
“เราจะไม่พูดเรื่องนั้นที่นี่ค่ะ”
คราวนี้หญิงสาวเค้นเสียงออกมาแต่พยายามให้เสียงนั้นเบาที่สุด แววตาของเธอเจ็บปวดแต่แน่วแน่มากพอจะทำให้คาวีรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาทั้งตกใจและแน่ใจอย่างเหลือเกินกับอะไรบางอย่าง ชายนุ่มโน้มใบหน้าลงไปใกล้และเอ่ยเบาราวกระซิบ
“เมญา...ผมพยายามตามหาคุณนะ”
“เราออกไปคุยกันข้างนอกเถอะค่ะ เดี๋ยวลูกหม่อนจะตื่น”
“เขาเป็นลูกของผม”
“บอกว่าให้ไปคุยข้างนอกไงคะ”
“ได้...เราจะไม่คุยในนี้ แต่คุณบอกผมสิว่าไม่ได้มีผู้ชายคนไหนเป็นพ่อเด็ก พ่อของลูกคือผม”
“ฉันจะไม่ขอตอบอะไรตอนนี้”
“ผมไม่ได้บังคับคุณ...ให้ตายเถอะ...มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม”
เขาเค้นเสียงลึก เมญาหันไปมองลูกน้อยที่หลับในที่นอนเล็กทั้งน้ำตา เธอกำลังอ่อนแอและทุกอย่างกำลังหมุนวนกลับไปยังจุดเดิมใหม่
จุดที่เธอเดินผ่านมันมาเมื่อกว่าสองปีที่แล้ว ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเป็นฝ่ายดึงมือคาวีออกไปที่หน้าบาร์ขนม ร่างเล็กบางผละห่างและพูดเสียงเครือ
“ลูกหม่อนเป็นลูกของฉันค่ะ ไม่ใช่ลูกของคุณ”
“แต่คุณท้องกับผม...เมื่อสองปีที่แล้ว”
“ฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับคุณอีกต่อไปแล้วนะคะ คุณคาวี สุริยวัตร เรื่องนั้นมันผ่านไปนานมากแล้ว”
“ก็ไม่นานมากพอที่ผมจะลืมได้ว่าครั้งหนึ่งผมกับคุณเรามีอะไรกันและคุณก็เป็นคนบอกผมเองว่าคุณท้องกับผม”
“และคุณก็ให้เงินฉันสามล้านบาทเพื่อที่จะให้ฉันเอาเด็กออก”
“ผมไม่ตั้งใจ”
“คุณตั้งใจ”
เมญาพยายามสะกดอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นมาเต็มที่ ช่างโชคดีเหลือเกินที่ในเวลานั้นไม่มีลูกค้าประจำเข้ามาในร้าน หญิงสาวแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้
มันพาลจะไหลออกมาจนเธอต้องรีบยกมือขึ้นปาดออกจากใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม คาวีนิ่งอึ้งไปชั่วขณะก่อนที่เขาจะเอ่ยออกมาเสียงเย็น
“เมญา...เรื่องวันนั้นผมขอโทษ หลังจากที่ผมให้เช็คคุณไปรู้ไหมว่าผมนอนไม่หลับแม้แต่คืนเดียว”
“ถ้าคุณจะแค่รู้สึกว่ามันเป็นบาปติดตัวคุณก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะคะ ฉันไม่ได้ทำร้ายเลือดเนื้อของฉันและก็ไม่ต้องการเรียกร้องอะไรมากไปกว่านี้ด้วย”
“เมญา...”
บทที่ 2
เลือดเนื้อที่รัก
เสียงของคาวีแห้งหายเมื่อได้ยินเสียงเด็กน้อยร้องขึ้นมาอีกครั้งและเมญาก็มีสีหน้าตกใจ เพราะคราวนี้เสียงหนูน้อยดังมากกว่าเก่า
หญิงสาวรีบวิ่งกลับไปหลังบาร์ขนมและยกร่างของลูกสาวขึ้นจากเปลเล็ก โอบอุ้มเอาไว้และนั่งบนเก้าอี้อย่างระมัดระวัง
เธอต้องรีบแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตเพื่อให้นมลูกโดยนั่งหันหลังให้คาวีที่เดินตามเข้ามาและหยุดยืนนิ่งมองภาพนั้นด้วยความสะท้อนใจ และเมื่อจะก้าวเข้าไปก้ต้องหยุดชะงักเมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“หนูเมญา...ป้ามารับขนมแล้วลูก”
หญิงวัยกลางคนในชุดผ้าลูกไม้ก้าวเข้ามาในร้านแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นชายหนุ่มแปลกหน้าแทนที่จะเป็นเจ้าของร้าน คาวีหันไปมองและยิ้มให้
“สวัสดีครับ”
“สะ...สวัสดีจ้ะ...ไม่ทราบว่าหนูเมญาอยู่ไหม ฉันมารับขนมที่สั่งไว้”
“อ้อ...เอ้อ...ครับ...เมญาเขาให้นมลูกอยู่น่ะครับ”
“เหรอจ๊ะ...แล้วนี่พ่อหนุ่มเป็นใครกัน มาช่วยหนูเมญาขายขนมเหรอจ๊ะ”
“ผมเป็น...เอิ่ม...สามีของเมญาครับ”
“ห๊า! ว่าไงนะ”
เสียงนั้นแสดงความตกใจและใช่แต่คุณป้าที่เพิ่งเข้ามาจะประหลาดใจแต่เมญาที่กำลังเอาลูกเข้าเต้าก็เหลียวมามองคาวีด้วยสีหน้าตระหนกเช่นกัน สักครู่คุณป้าขาประจำร้านก็หัวเราะร่วน
