๓ คลางแคลงใจ (๓)
หิ้วท้องรอเขานานพอสมควร พออาหารมาเสิร์ฟจึงได้กินอย่างรวดเร็วจนอิ่ม พอได้เห็นราคาก็ยิ้มแหยะ ไม่รู้เมื่อก่อนกินเข้าไปได้อย่างไร สั่งแค่สองอย่างแต่ราคาเกือบพัน
ต่อจากนี้ขอกินข้าวแกงข้างทางหรือทำอาหารกินเองดีกว่า...
โดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าคนที่ผิดนัดเธอไม่ได้ติดงานอย่างที่พูดเอาไว้ เขามารับประทานอาหารที่บ้านของคนสำคัญ แอบปลีกตัวมาโทรศัพท์บอกหล่อนเมื่อเห็นว่าเลยเวลานัดไปหลายชั่วโมง เธอก็คงคอยใจจดจ่อ
พอวางสายก็แสยะยิ้มมีความสุขที่ได้ทำให้หญิงสาวต้องเป็นฝ่ายคอยบ้าง สิ่งที่เขาทำมันเล็กน้อยที่เทียบไม่ได้กับเรื่องในอดีตด้วยซ้ำ และตนจะไม่มีทางหยุดอยู่แค่นี้แน่
“มีอะไรหรือเปล่าโมกข์ คุณต้องไปไหนหรือเปล่า” มือปริศนาเอื้อมมาแตะที่ไหล่เขา ทำให้โมกข์ตื่นจากภวังค์แล้วหันมองหล่อน ก่อนยิ้มให้แล้วเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเหมือนเดิม
“ไม่หรอก แค่โทรศัพท์จาก...เพื่อนเก่า” ยิ้มให้เธอแล้วควงกันเดินกลับเข้ามาในบ้าน
เขาวางสีหน้าปกติแล้วยิ้มให้ผู้ใหญ่ในช่องที่มารวมตัวกันอยู่บ้านหลังใหญ่ นั่งลงที่โต๊ะอาหารตัวยาวซึ่งทุกคนกำลังพูดคุยปราศรัยกันอย่างออกรส ข้างกายของตนคือภวิกาบรรณาธิการสาวสวยซึ่งเป็นข่าวว่ากำลังคบหาดูใจกัน
“กินข้าวสิคะ เพิ่งเลิกกองน่าจะหิวไม่ใช่เหรอ”
“ครับ” พยักหน้าแล้วรับประทานอาหารอย่างไม่ค่อยรู้รสเท่าไหร่ สายตาของบิดาหล่อนจับจ้องเขาไม่คลาดเคลื่อน ทราบดีว่าตนเองไม่ใช่คนที่ท่านอยากให้รักกับบุตรสาวเพียงคนเดียว ด้วยชาติกำเนิดที่มีแม่เป็นเพียงครูชนบท แม้ตอนนี้เขาจะเป็นดาราดังมีชื่อเสียงเงินทอง
แต่ก็ไม่ใช่คนจากตระกูลผู้ดีอย่างที่ท่านอยากเกี่ยวดองด้วย...
“ทำไมกินน้อยนักล่ะ ไหนบอกว่าหิวไง”
“กินมาบ้างแล้วเลยอิ่มเร็วกว่าปกติ ผมกลับก่อนนะครับนี่ก็ดึกแล้วไม่อยากรบกวนเวลาของคุณมากกว่านี้” พูดจบก็รวบช้อนส้อมแล้วดื่มน้ำ ไม่อยากรบกวนเวลาของคนข้างกายอีกต่อไป พร้อมกันนั้นก็อึดอัดกับพ่อของเธอที่จ้องเหมือนจะจับผิดตลอดเวลา
“ค่ะ”
หญิงสาวยอมตามใจแล้วรอเขาไหว้ลากับผู้ใหญ่ในครอบครัวเธอ ก่อนจะเดินออกมาส่งที่หน้าบ้าน โดยไม่ลืมเขย่งปลายเท้าเพื่อจุมพิตแก้มสากทั้งสองข้าง พร้อมยิ้มหวานให้ชายหนุ่มเป็นการปิดท้าย
“จุ๊บ กลับดีๆ นะคะ”
“ครับ” ยิ้มอ่อนให้เธอแล้วค่อยขึ้นรถเพื่อขับกลับบ้านด้วยใจร้อนรน
เขาไม่ได้กลับห้องตัวเองแต่เลือกจะมาที่ห้องเช่าซึ่งตอนนี้มีจิรัศยาครอบครอง เปิดประตูเข้ามาก็เห็นหล่อนนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาห้องรับแขกด้วยชุดเดรสตัวเก่ง จึงค่อยนั่งลงที่พื้นแล้วมองดวงหน้าสวย ไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่ากำลังยกยิ้ม กระทั่งเห็นตัวเองผ่านเงาสะท้อนของโต๊ะกระจกจึงรีบหุบยิ้มอย่างรวดเร็ว
“ไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ...อย่าใจอ่อนนะไอ้โมกข์” เดินเข้าห้องน้ำพร้อมย้ำกับตัวเอง
เขากลัวใจเหลือเกิน
ว่าจะโอนอ่อนให้อสรพิษมากด้วยเล่ห์อย่างจิรัศยา!
