3
คนน้องก็ไม่รอให้เสียเวลาพูดเข้าเรื่องทันที
“เรื่องที่ตกลงกับอุ๋มไว้ คุยกันให้เคลียร์เลยนะคะ”
“งั้นคุณก็ให้เขาสองคนคุยกันที่ออฟฟิซ ส่วนคุณรอทางนู้นดีกว่าไหมครับ”
ปุญญ์ตอบโต้ออกไปทันควัน เขาบอกจบก้มศีรษะน้อยๆท่าทางเหมือนจะมีมารยาท แต่พิชชาอรมองแวบเดียวก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้เหลี่ยมจัดนัก เผลอๆจะมากกว่านาวินเสียอีก
อย่างอมิตาจะไปมีปากมีเสียงอะไร หากอยู่กันสองคนคุยกันสองคนไม้แคล้วได้เสียเปรียบอีกแบบทุกที เธออยากอยู่เจรจาด้วย แต่แล้วคนเป็นพี่กลับหันมาสบตากับเธอ บอกเสียงแผ่ว
“ขออุ๋มคุยกับคุณวินเองนะกี๋นะ”
พิชชาอรอ้าปากค้างคล้ายจะไม่ยอม แต่ก็หุบฉับลง เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคน บางทีถ้าได้คุยกันจนเคลียร์แล้วอมิตาอาจตัดใจจากฝั่งนั้นได้
แล้วจึงยอมเดินตามชายหนุ่มที่เชื้อเชิญให้เธอย้ายไปอีกห้อง
ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อทำงานที่เขาคงถอดสูทตัวนอกออกแล้ว ดูเหนื่อยล้าแม้เพียงแค่มองจากทางด้านหลังของเขา กลิ่นน้ำหอมของเขาที่เหลือกลิ่นเพียงจางๆผสมกับกลิ่นภายในของร้านทำให้อีกฝ่ายดูแปลกแยกโดยสิ้นเชิง
เธอจำหน้าเขาได้เพราะเคยเห็นควงลูกสาวคุณหญิงคุณนาย ที่เป็นลูกค้าของสถานเสริมความงามที่เธอทำอยู่ออกงานบ่อยๆ ครั้งที่เห็นปุญญ์แรกๆ ยังนึกชมชอบเขาอยู่เลยค่าที่ว่าดูบุคลิกดี มาดมั่น ภูมิฐาน และที่สำคัญใบหน้าของปุญญ์ดูหล่อเหลา สะอาดสะอ้านแบบผู้ดีอย่างไรอย่างนั้น
แต่พอมาเห็นว่าอีกฝ่ายอยู่กับนาวิน ระดับความนิยมชมชอบในตัวเขาก็ตกวูบลงในทันที
พิชชาอรยอมเดินตามออกมาเพื่อให้สองคนนั่นได้จัดการธุระให้เรียบร้อย พอหย่อนก้นลงนั่งไม่ถึงครึ่งนาที ปุญญ์ก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่สุภาพ
“ดื่มอะไรไหมครับ”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ดื่มในที่อโคจรแบบนี้” พิชชาอรบอกปัดแล้วนั่งหันข้างให้เขา เธอกอดอกบอกด้วยท่าทางว่าไม่อยากเสวนาด้วย แต่อีกฝ่ายทำเพียงยิ้มน้อยๆลอบมองเธออย่างประเมิน
ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยชอบใช้วิธีแบบนี้เรียกร้องความสนใจจากผู้ชายทั้งนั้น
ทำเหมือนไม่ชอบ ไม่อยากคุย แต่ในใจคงลุ้นให้เขาตื้อจะแย่ ปุญญ์เองก็ผ่านสมรภูมิด้านนี้มาไม่น้อยเช่นกัน เขารู้ว่าหากเซ้าซี้เธอไปก็เท่านั้น เผลอๆอาจพาลไม่ชอบใจเขาขึ้นมาจริงจังจนพูดคุยด้วยยากขึ้นกว่าเดิม นี่แค่เห็นเขาเป็นพวกกับนาวินก็เชิดจนคอแข็งขนาดนี้แล้ว ปุญญ์รู้ว่าสถานการณ์ลักษณะนี้ เขาควรทิ้งช่วงไว้ก่อนแล้วหาทางให้เธอดิ้นเข้ามาหาเองแบบนั้นจะง่ายกว่า ก็อย่างที่บอก เขาผ่านมาหมดแล้ว
โธ่...จะแค่ไหนกันเชียว ปุญญ์นึกเยาะอยู่ในใจ
นานราวสามสิบนาที กว่าที่นาวินและอมิตาจะกลับเข้ามา และท่าทีของทั้งสองคนก็ทำเอาคนที่รอคอยอยู่ไม่สบอารมณ์ขึ้นมาในทันที
นาวินเดินจูงจับมือมากับอมิตาไหนจะท่าทางของพี่สาวที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตางุดๆ นั่นอีก นี่ไม่ใช่ว่า… ยังไม่อยากคิดในแง่ร้ายไปกว่านั้น แต่แล้วคนเป็นพี่ก็บอกขึ้นว่า
“กี๋...คืนนี้เราพักที่นี่ก่อนได้ไหม พรุ่งนี้ค่อยกลับกัน”
“มีอะไร ยังคุยกันไม่จบอีกเหรอ” พิชชาอรถามด้วยน้ำเสียงคาดคั้น ทั้งยังส่งกระแสความไม่สบอารมณ์ออกไปอย่างไม่เกรงใจใครทั้งนั้น
“พรุ่งนี้คุณวินจะเคลียร์ให้น่ะ”
“งั้นก็กลับ เดี๋ยวค่อยมาใหม่”
“กี๋จะขับรถไหวเหรอ”
“ทำไมจะไม่ไหว กรุงเทพพัทยา ใกล้แค่นี้เอง อีกอย่างพรุ่งนี้ก็วันหยุดเราแล้ว ตื่นสายได้”
