ในบ่วงพิศวาส

54.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
36
บท
3.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะคำว่าไม่คู่ควรเธอจึงทอดทิ้งเขา โดยที่เขาไม่เคยรับรู้ถึงเหตุผล เพราะคำว่ารักปนแค้นเขาจึงยังเฝ้ารอ กระทั่งวันหนึ่งทั้งคู่ได้กลับมาพบกัน เขาเข้าหาเพื่อจะเอาคืน ส่วนเธอหนีหน้าเพื่อไม่ให้ใจตัวเองบอบช้ำ แต่สุดท้ายทั้งสองก็ไม่อาจหนีจากบ่วงพิศวาสไปได้

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานแก้แค้นพระเอกเก่งจีบเมียเก่าดราม่า

บทที่ 1

เสียงเพลงกล่อมเด็กยังคงดังขึ้นคลอเบาๆ เพื่อกล่อมให้เจ้าตัวน้อยนอนหลับฝันดี โดยข้างๆ มีพี่เลี้ยงสาวสวยนั่งดูแลอยู่ไม่ห่าง แม้นี่จะเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายที่สุดก็ตาม แต่ทรายแก้วก็เลือกที่จะนั่งอยู่ข้างๆ เด็กน้อยในการดูแลของเธอ แก้มยุ้ยๆ เวลาหลับช่างดูน่ารัก แพขนตางอนๆ รับกับดวงตา จมูกได้รูป ปากกระจับ รูปหน้าพ่อแม่ช่างปั้นแต่งออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เมื่อเดือนก่อนเธอถูกไล่ออกจากงานที่ทำอยู่อย่างกะทันหัน นั่นทำให้เธอกลุ้มใจจนเผลอร้องไห้กับตัวเองหลายครั้ง ทุกๆ วันยังคงแต่งตัวออกจากบ้านแต่เธอไม่ได้ไปทำงานแต่อย่างใด เธอเดินสมัครงานจนขาทั้งสองข้างแทบจะเดินไม่ไหว ปริญญาบัตรและเกียรตินิยมที่ได้มาแทบไม่ได้ช่วยอะไรในเวลานั้น กระทั่งเพื่อนสนิทยื่นมือมาช่วย

“น้องอายหลับแล้วหรือจ๊ะทราย”

“หลับแล้วจ้ะ” ทรายแก้วหันมาตอบมารดาของเด็กหญิงตัวน้อยพร้อมส่งยิ้มให้

“งั้นเราออกไปคุยกันที่ห้องรับแขกหน่อยสิ” ฤทัยเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำออกไปก่อน ทรายแก้วจับผ้าห่มคลุมตัวให้เด็กหญิงอีกนิดแล้วกวาดสายตามองรอบๆ จากนั้นจึงเดินตามออกไป

“มีอะไรจะคุยกับเราอย่างนั้นเหรอ” พี่เลี้ยงสาวเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นกันเอง นั่นเพราะเธอกับฤทัยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พออีกฝ่ายรู้ว่าเธอถูกไล่ออกจากงานจึงเสนอให้มาเป็นพี่เลี้ยงลูกของเธอ ทั้งๆ ที่ทรายแก้วปฏิเสธไปด้วยเหตุผลว่าเธอไม่มีประสบการณ์ แต่ฤทัยกลับไว้ใจและขอร้องให้มาลองทำงานนี้ดูก่อน บวกกับเธอเองก็ไม่ไว้ใจคนอื่นพอที่จ้างได้เช่นกัน

จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาเกือบสี่เดือนแล้วที่ทรายแก้วเข้ามารับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้ลูกสาว ซึ่งทรายแก้วก็รับผิดชอบงานของตัวเองได้เป็นอย่างดี เธอใจเย็นเวลาอยู่กับเด็กและบวกกับความรักเด็กอยู่แล้วงานที่คิดว่ายากจึงไม่ยากอย่างที่คิด

“คือ...อย่างที่เราเคยบอกทรายไปว่าคุณเมฆมีแผนจะย้ายไปทำงานที่ต่างประเทศ” ฤทัยเกริ่นนำออกไปก่อน

“อื้อ...เราจำได้” นอกจากจำได้แล้วทรายแก้วยังสนับสนุนให้ฤทัยย้ายตามสามีไปด้วย แต่ตอนนั้นเพื่อนกลับปฏิเสธเพราะกลัวจะปรับตัวไม่ได้

“เรามาลองคิดกับตัวเองดูอีกทีตามที่ทรายแนะนำ ก็เลยได้คำตอบว่าเราจะตามคุณเมฆไปทำงานที่ต่างประเทศ” คำตอบของฤทัยทำให้ทรายแก้วยิ้มออกมา

“ดีแล้ว แล้วนี่จะเดินทางเมื่อไหร่”

“อีกสองอาทิตย์ ขอโทษนะที่เรามาบอกกะทันหันแบบนี้” ฤทัยเอ่ยขอโทษออกไป ทีแรกเธอเองก็ตั้งใจจะอยู่เลี้ยงลูกรอสามีที่นี่ แต่ไปๆ มาๆ การย้ายไปอยู่ด้วยกันน่าจะดีกว่าแยกกันอยู่ โดยเฉพาะกับลูกสาวของเธอ

“ไม่เป็นไรเลย มีเวลาให้เราหางานใหม่อีกตั้งหลายวัน สบายมาก” ทรายแก้วส่งยิ้มให้เพื่อนสนิท

“ถ้าไงเราจะช่วยหางานใหม่ให้อีกแรง เพราะทรายก็เป็นพี่เลี้ยงได้อย่างดี ดีมากๆ เลยด้วย” ฤทัยเอ่ยชมจากใจ

“ขอบใจเธอมากนะฤทัย”

“เราต่างหากที่ต้องขอบใจเธอ ส่วนนี่เราให้” เอ่ยจบฤทัยก็ยื่นอะไรบางอย่างมาให้ทรายแก้ว นั่นทำให้คนตรงหน้าเกิดความสงสัยขึ้นทันที

“อะไร”

“เงินเดือนเดือนนี้กับโบนัสพิเศษ”

“ยังไม่หมดเดือนจะรีบให้เราไปทำไมแล้วเงินโบนัสพิเศษอะไรนั่นเราไม่รับได้ไหม เก็บไว้ให้น้องอายเถอะ”

“ไม่ได้ เธอต้องรับแล้วก็ห้ามปฏิเสธด้วย มันออกจะน้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่เธอทำให้น้องอาย” ฤทัยคว้ามือของทรายแก้วไว้แล้วส่งซองสีน้ำตาลให้พร้อมกำมือเพื่อนไว้แน่นเพื่อไม่ให้ปล่อย สุดท้ายทรายแก้วก็จำต้องยอมรับ

คืนนั้นหลังจากกลับมาถึงบ้าน ทรายแก้วก็ค้นหางานใหม่ในอินเตอร์เน็ตและส่งใบสมัครไปทันที รวมถึงผ่านไปที่ไหนแล้วเห็นป้ายติดประกาศรับสมัครงงานเธอก็เข้าไปสมัครอย่างไม่รีรอ ทว่ากลับยังไม่มีที่ไหนเรียกตัว บวกกับบรรยากาศในบ้านที่ไม่น่าอยู่มากขึ้นทุกวัน เธอก็ยิ่งอยากไปให้พ้นๆ

“มีเงินไหม ขอหน่อย” เอ่ยจบธิดาก็แบมือขอเงิน แม้เธออายุมากกว่าทรายแก้วสิบกว่าปีแต่เรื่องวุฒิภาวะนั้นแทบจะติดลบ

“ไม่มีค่ะ”

“ไม่มีได้ยังไง เห็นออกไปทำงานทุกวัน” เมื่อถูกปฏิเสธธิดาก็เริ่มหัวร้อน เพราะหวังเต็มเปี่ยมว่าทรายแก้วต้องให้เงินเธอใช้

“ไม่มีให้คนอื่นใช้ค่ะ” ทรายแก้วเน้นย้ำคำว่าคนอื่นจนธิดาหน้าชา ลูกติดของสามีเธอคนนี้ภายนอกดูเรียบร้อยๆ แต่คำพูดคำจาร้ายกาจไม่เบา

“อีนังทราย ลืมไปแล้วหรือไงว่ากูเป็นแม่มึงนะ” ธิดาเท้าสะเอวตะคอกใส่ทรายแก้ว ทว่าคนตรงหน้ากลับไม่ได้ให้ค่าอะไร

“แค่แม่เลี้ยงไม่ใช่หรือคะ”

“เออ...ต่อให้กูเป็นแค่แม่เลี้ยงมึงก็ต้องให้เงินกูใช้ ไม่อย่างนั้นกูจะหนีไป คราวนี้พ่อมึงได้ลงแดงตายเพราะกูไม่อยู่อีกแน่” ธิดาเอาเรื่องเก่าๆ มาขู่ เพราะเธอเคยเรียกร้องความสนใจจากสามีรุ่นราวคราวพ่อด้วยการหอบเสื้อผ้าหนีไปแล้ว สุดท้ายโกมลก็ไปตามเธอกลับมา

“เชิญค่ะ เพราะน้าก็ใช่ว่าจะรักพ่อทรายมากขนาดนั้น วันก่อนยังเห็น...”

“หยุด...มึงจะพูดอะไร หุบปากไปเลยนะ” คนตรงหน้ารีบห้าม เพราะรู้อยู่ว่าทรายแก้วนั้นเห็นและจะพูดอะไรออกมา

“ทรายจะไม่พูด แต่น้าก็อย่ามาระรานกัน พ่อทรายยังไงทรายก็จะเลี้ยง แต่คนอื่นยังไงก็คือคนอื่น”

“งั้นก็เอาเงินมา กูจะเอาไปให้พี่โกมลเอง”

“ยังไม่ถึงวันที่ทรายจะให้เงินพ่อค่ะ” ทรายแก้วเอ่ยบอกเพราะเธอให้เงินพ่อใช้เป็นรายเดือน ถ้าหมดก่อนก็ถือว่าหมดเธอไม่มีให้อีกแล้ว ถึงใครจะมองว่าเธอใจร้ายใจดำกับผู้ให้กำเนิด แต่ใครเหล่านั้นไม่ได้เป็นเธอที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้

“อีนี่”

“น้าธิดามีอะไรจะพูดแค่นี้ใช่ไหม ถ้าใช่ทรายขอตัว

ไปทำงานก่อน”

“อีนังทราย ฝากไว้ก่อนเถอะ” ธิดากระทืบเท้าเต้นเร้าๆ อยู่ด้านหลัง ส่วนทรายแก้วก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ กับชะตาชีวิตของตัวเองที่มันลุ่มๆ ดอนๆ ไม่เหมือนคนอื่น เธออยากย้ายออกไปอยู่ที่อื่นรวมถึงยิ่งทำให้คิดถึงแม่ขึ้นมาจับหัวใจ

“รออีกหน่อยนะคะแม่ ทรายกำลังเก็บเงินค่ะ” ทรายแก้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอันกว้างไกล ความฝันของเธอคือการบินไปหาแม่ผู้ให้กำเนิดที่สวีเดนสักครั้ง เพราะท่านไปทำงานที่นั่นได้หลายปีแล้วและเธอจะไปแบบไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว รับรองว่าแม่ต้องเซอร์ไพรส์มากแน่ๆ ที่เห็นเธอ