บท
ตั้งค่า

พ่อจะพาพี่ชายเจ้ากลับมา

เพียงไม่นาน พ่อบ้านก็วิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน เขาคุกเข่าลงตรงหน้าของจื่อหาน เนื้อตัวสั่นเทาหวาดกลัวยิ่งนัก

“นายท่าน เจอรถม้าขอรับ แต่ไม่พบร่างของคุณชาย”

“ฮือออออ” เสียงร้องของมารดากับแม่นมถิงดังขึ้นมาพร้อมกัน

“ท่านแม่!!!” ต้าเหนิงประคองมารดาเอาไว้ ยามนี้นางตกใจจนหมดสติไปแล้ว

“ไปตามหมอมา!!!” เขาเสียบุตรชายไปแล้ว จะเสียภรรยาอีกไม่ได้

“แล้ว...จะให้ข้าน้อยจัดการเช่นใด” ตอนนี้เรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่มีผู้ใดรู้ แม้ชาวบ้านที่เห็นรถม้าของเสิ่นเฉิงตกลงไปก็ไม่รู้ว่าเป็นรถม้าของผู้สูงศักดิ์ท่านใด

“ปิดข่าวไว้ จัดการให้เรียบร้อย ทิ้งคนให้ออกตามหาโดยรอบ หากตายต้องเห็นศพ หากเป็นต้องเห็นคน” จื่อหานถอนหายใจออกมา ในเมื่อไม่เห็นร่างของบุตรชายในรถม้า ย่อมต้องมีความหวัง ไม่แน่อาจจะมีคนช่วยเหลือบุตรชายเอาไว้ก็ได้

“เหนิงเออร์ เรื่องนี้อย่าเพิ่งพูดออกไป เจ้าอยู่ดูแลท่านแม่ของเจ้า พ่อจะออกไปจัดการเรื่องพี่ชายของเจ้าก่อน”

“ท่านพ่อ พี่ชาย...ท่านจะพาพี่ชายกลับมาใช่หรือไม่เจ้าคะ” ดวงตาของนางเอ่อคลอไปด้วยน้ำ ก่อนจะไหลออกมาราวกับไข่มุกเม็ดงามที่ร่วงหล่นไม่ขาดสาย

“ใช่ พ่อจะพาพี่ชายเจ้ากลับมา” จื่อหานลูบหัวบุตรสาวอย่างรักใคร่ ก่อนจะเดินหายออกไปจากห้อง

ตอนนี้นางทำได้เพียงแค่ดูแลมารดาเพื่อไม่ให้นางเป็นอะไรไปอีกคน

จื่อหาน เมื่อออกจากจวนเสิ่นไปแล้ว เขามุ่งหน้าไปที่จวนตระกูลหลิว จวนของท่านพ่อตา หลิวกุ้ย อย่างไรเรื่องที่เสิ่นเฉิงหายไป ผู้ที่จะช่วยเขาออกตามหาและจัดการเรื่องที่จะตามมาได้ก็มีเพียงท่านพ่อตาเท่านั้น

“ท่านพ่อตา ท่านมีความเห็นเช่นใดบ้างขอรับ” หลิวกุ้ยที่ยังไม่ฟื้นคืนสติ นั่งใบหน้าซีดขาว สายตาของเขาพร่ามัว หูแทบจะไม่ได้ยินในสิ่งที่จื่อหานถามเลยสักนิด

จื่อหานเองก็ไม่ได้เอ่ยเร่งขอคำตอบ เขานั่งรออย่างใจเย็น แม้ภายในอกกำลังลุกไหม้เป็นผุยผงไปแล้วก็ตาม

“ข้าจะส่งคนออกตามหาอาเฉิงอีกแรง ส่วนเหนิงเออร์...” เขาเว้นช่วงไปหลายอึดใจ อย่างทำใจยอมรับไม่ได้ “ทำตามที่เจ้าว่า แต่เรื่องนี้อย่างไรก็ต้องปิดเอาไว้ก่อน จนกว่าจะพบอาเฉิง” ผู้เฒ่าหลิวก็มีความคิดเช่นบุตรเขยเช่นกัน อย่างไรก็ต้องให้เห็นกับตาว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

หลิวกุ้ยโบกมือให้จื่อหานกลับไปดูภรรยา เขาไม่อาจรั้งตัวไว้ได้นานยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเร่งจัดการ แม้แต่ภรรยาของเขาหรือบุตรชายก็ไม่อาจให้เรื่องนี้หลุดรอดออกไปได้

จื่อหาน แบกหัวใจที่หนักอึ้งกลับมาที่จวนเสิ่น เขาไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องที่คิดเอาไว้ให้ภรรยากับบุตรสาวเข้าใจได้อย่างไร แต่หากไม่ทำตามที่คิดเอาไว้ หากเสิ่นเฉิงยังมีชีวิตอยู่ อนาคตภายหน้าของเขาจะเป็นเช่นใด หากมิได้มีเพียงหลิวจินเหริน เป็นภรรยาเพียงผู้เดียว เขาคงคิดอ่านได้ง่ายกว่านี้

“ท่านพี่” เสียงสะอื้นที่เอ่ยเรียกทันที หลังจากที่เดินก้าวเข้ามาในเรือนหลักของหลิวจินเหริน ทำให้จื่อหานใจกระตุก

“สงบใจก่อนเถิดอาเหริน ท่านพ่อตาจะช่วยออกตามหาอีกแรง ในเมื่อยังไม่เห็น...อย่างไรย่อมมีหวัง” จินเหรินรู้ว่าสามีไม่พูดคำนั้นออกมา ย่อมหมายถึงร่างของบุตรชายนาง นางจะสงบใจเช่นที่เขาพูดได้อย่างไร

“ข้า ข้าจะเชื่อท่าน” ในเมื่อยังมีหวังแม้เพียงหนึ่งส่วนนางก็จะเชื่อว่าสามีจะพาบุตรชายกลับคืนมาให้นาง

“ข้ามีอีกเรื่องที่ต้องบอกเจ้า”

ต้าเหนิงเห็นว่าบิดามีเรื่องสำคัญจะพูดกับมารดา นางจึงคิดที่จะเดินเลี่ยงออกไปอย่างรู้ความ แต่ถูกผู้เป็นบิดาเอ่ยรั้งให้นั่งลง เช่นเดียวกับแม่นมถิง นางก็ต้องอยู่ด้วย

“ทะ ท่าน ท่านพ่อ ท่านว่าอย่างไรนะ” ต้าเหนิงไม่อยากจะเชื่อหู แม้แต่จินเหรินและแม่นมถิงก็ตกใจกับความคิดของจื่อหานเช่นกัน

“ได้ยินไม่ผิด พี่ชายเจ้าจะเข้าสอบจิ้นซื่อในอีกสามเดือนข้างหน้า เจ้าต้องปลอมตัวเป็นพี่ชายของเจ้า”

“เหลวไหล!!! ท่านพี่ เหนิงเออร์นางเป็นสตรี ท่านจะให้นางทำเช่นนี้ได้อย่างไร”

“ฟังข้าก่อน ยามนี้แม้คลื่นลมในราชสำนักจะสงบ แต่อาเหริน เจ้ารู้ใช่หรือไม่ ฝ่าบาทมีความเช่นใดกับข้า” จื่อหานมองภรรยาอย่างลึกซึ้ง

มิใช่ว่านางไม่รู้ว่ายามนี้ฮ่องเต้ ต้องการให้สามีนางรับจ่างกงจู่เข้าเป็นฮูหยินรอง จ่างกงจู่ หลี่อิน เป็นน้องสาวของฮ่องเต้ ที่ถูกส่งตัวไปแต่งเชื่อมสัมพันธ์กับแคว้นต้าโจว แต่เมื่อสองปีที่แล้ว ฮ่องเต้ทำสงครามกับแคว้นต้าโจวจนรวมเข้าเป็นหนึ่งกับแคว้นต้าหลี่

น้องสาวที่แต่งออกไปในยามนั้นจึงถูกรับตัวกลับมา คงจะเป็นความรู้สึกผิดในใจของฮ่องเต้ที่มีต่อน้องสาวผู้นี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมานางเอ่ยปากขอให้ฮ่องเต้ช่วยทำให้นางสมหวังกับเสิ่นจื่อหาน ด้วยนางลุ่มหลงจื่อหานมาตั้งแต่ที่ยังไม่ถูกส่งไปแต่งงาน

แต่เพราะเสิ่นจื่อหาน มีภรรยาที่รักใคร่ปรองดอง ทั้งยังมีบุตรชายหญิงเพียบพร้อม ไหนจะบ้านเดิมของหลิวจินเหริน ที่ฮ่องเต้ยังต้องไว้หน้า คำสาบานของจื่อหานในวันที่สู่ขอเป็นเครื่องย้ำเตือนว่าเขาจะไม่ยอมมีสตรีอื่นนอกจากหลิวจินเหริน เรื่องนี้จึงถูกปฏิเสธไป หากการหายตัวไปของเสิ่นเฉิงล่วงรู้ไปถึงวังหลวง ย่อมต้องเป็นข้ออ้างให้จื่อหานรับนางเข้าจวนอย่างแน่นอน

จ่างกงจู่ นับว่าเป็นเรื่องยากที่ตระกูลเสิ่นจะรับนางเข้ามาในจวนได้ ไหนจะนิสัยที่ร้ายกาจเจ้าคิดเจ้าแค้นของนาง หากรับเข้ามาจินเหรินจะต้องถูกรังแกเป็นแน่ ต่อไปผู้ใดจะรู้เล่า ว่าเผือกร้อนหัวนี้ที่ฮ่องเต้ยัดเหยียดมาให้เขามันจะไม่ลวกมือ

อย่างไร ตระกูลเสิ่นก็ต้องมีผู้สืบทอด แม้จื่อหานจะเห็นว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญก็ตาม น้องชายทั้งสองคนของเขายังมีหลานชายให้เขาอยู่หลายคน หากเสิ่นเฉิงเคราะห์ร้ายจริง เขาย่อมเลือกเด็กสักคนมาจดชื่อในผังตระกูล

“แล้วข้าเลือกได้หรือไม่เล่า” จินเหรินยิ้มออกมาอย่างอ่อนแรง ความรักที่สามีมีให้นางเป็นของจริง แต่นางก็ปวดใจที่ต้องให้บุตรสาวต้องทำในสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ของนาง

“เชื่อข้า อีกไม่นานอาเฉิงต้องกลับมา เหนิงเออร์ พ่อรู้ถึงความลำบากใจของเจ้า แต่เจ้าเข้าใจพ่อกับแม่ใช่หรือไม่”

ต้าเหนิงพยักหน้ารับน้อยๆ นางรู้ดีว่าบิดาไม่ต้องการแต่งสตรีอื่น เพียงแต่นางยังตกใจเรื่องของพี่ชายไม่หาย ยังต้องมารับรู้เรื่องที่นางต้องปลอมตัวเป็นพี่ชายอีก จะให้นางเข้าใจในทันทีเห็นจะไม่ใช่

“ท่านพ่อ ท่านรู้ใช่หรือไม่ว่าข้า...ไม่เก่งเท่าพี่ชาย”

เสิ่นเฉิง เฉลียวฉลาดตั้งแต่เด็ก เพียงห้าขวบเขาก็นั่งคัดตำราอย่างมุ่งมั่น ลายมือดีเสียกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก พอแปดขวบกลอนอวยพรในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะที่จวนตระกูลหลิวก็สร้างชื่อให้เขาแล้ว

“อย่าได้ดูแคลนตัวเอง เจ้าก็มีความเก่งไม่ต่างกับพี่ชาย พ่อไม่หวังให้เจ้าสอบได้จอหงวน แต่หวังเพียงเจ้าช่วยให้ตระกูลเสิ่นผ่านช่วงเวลาทุกข์ยากไปได้ก็พอ” จื่อหานเดินเข้ามาลูบหัวต้าเหนิงอย่างปวดใจ

หากมีหนทางอื่น เขาย่อมไม่เลือกหนทางนี้

จินเหรินสวมกอดบุตรสาวเอาไว้แน่น ตอนนี้นางทำได้เพียงแค่รอฟังข่าวการค้นหาตัวของบุตรชาย ตระกูลเสิ่นและตระกูลหลิวย่อมไม่อาจเคลื่อนไหวอย่างวู่วามได้ แม้จะร้อนใจแต่เรื่องทั้งหมดจะต้องสืบหาอย่างค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel