ตอนที่ 5 ของของผม
คฤหาสน์หลังใหญ่หรูหรา
รถคอมมูเตอร์แล่นเข้ามาพร้อมกับรถของบอดี้การ์ดสองคันประกบหน้าหลัง คิมหันต์รูดซิปกางเกงขึ้นเหล่มองมือเรียวดึงผ้าถุงขึ้นปิดบังหน้าอกผิวขาวขึ้นรอยลากแดงและฟันกัดบริเวณเต้านมอวบอิ่ม ลิ้นสากดุนกระพุ้งแก้มยังสนุกกับการลิ้มลองสาวน้อยเดียงสารสหวานอยากกระแทกกระทั้นซ้ำ ๆ มือสากลูบไล้เรียวขาขาวแทรกเข้าใต้ผ้าถุงลากนิ้วร้ายกรีดเกลี่ยความอวบอูมนุ่มลื่นกลางหว่างขาเรียว ร่างบางนอนนิ่งมองหลังคารถกำขอบผ้าถุงมือเกร็งน้ำตาไหลพราก
“แย่หน่อยนะหนูดี คืนนี้เธอคงไม่ได้นอน” รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อดวงตาคมกริบกะลิ้มกะเหลี่ยหลงใหลคลั่งไคล้ของใหม่สด ๆ ซิง ๆ ทิ้งคราบเลือดไว้บนแก่นกายของเขา
“หนูเจ็บ....” เสียงหวานสะอื้นไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบมองคนตัวโตที่นั่งอยู่ปลายเท้า คิมหันต์แทบไม่ได้สนใจคำพูดเธอกลับหลบตาลงเม้มปากมันเขี้ยวร่องอวบอูมที่นิ้วลากผ่านแล้วกดแทรกนิ้วแกร่งเข้าไปในช่องทางรักของคนตัวเล็กที่ผวาเฮือกหวาดกลัวจนตัวสั่น
“อย่าขัดใจ ฉันซื้อเธอมาแล้วจะทำยังไงก็ได้” เสียงทุ้มกังวานทรงอำนาจชวนให้ขนลุก มือน้อยกำผ้าถุงแน่นร้องไห้โฮเกินกลั้น คิ้วเข้มขมวดถอนนิ้วแกร่งออกจากกายสายหงุดหงิดกระฟัดกระเฟียดกับท่าทางหวาดกลัวนั้นเต็มทีการร่วมประเวณีกับเขามันน่ากลัวน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรือไง
“ลงมาจะได้ไปต่อที่ห้อง” สายตาคมกริบจ้องมองขึงขังก่อนจะเปิดประตูรถลงเดินจากรถคอมมูเตอร์ซึ่งมีบอดี้การ์ดสี่คนยืนรอต้อนรับอยู่หน้าบ้าน หนูดีถอนหายใจยาวค่อย ๆ ยันตัวลุกนั่งพอเห็นว่าผู้ชายหลายคนยืนอยู่หน้าประตูรถก็รีบก้มหน้างุดอับอายมีแค่ผ้าถุงนุ่งกระโจมอกผืนเดียว เมฆามองผิวขาวแดงไปทั่วก็สงสารหยิบสูทที่แขวนไว้หน้ารถมายื่นให้เธอปิดบังร่างกายหนูดีรับไว้น้ำตาคลอ คิมหันต์ยืนมองกลอกตาเบื่อหน่ายไม่ชอบเห็นใครทำอะไรเชื่องช้าน่ารำคาญ หนูดีสวมสูทแล้วค่อย ๆ เขยิบตัวก้าวเท้าลงจากรถคอมมูเตอร์คันใหญ่ทันทีที่เท้าเรียวเหยียบยืนบนพื้นกระเบื้องหน้าบ้านร่างบางก็เจ็บแปลบใจกลางความสาวเพิ่งรุกล้ำรุนแรงพรหมจรรย์ฉีกขาดอย่างไม่ปรานี
“โอ๊ย!” หน้าสวยนิ่วหน้าเจ็บปวดขาอ่อนแรงจะทรุดนั่งแต่เมฆาคว้าแขนเธอไว้ทันกำลังจะอ้อมแขนประคองร่างบางให้ยืนดี ๆ แต่คิมหันต์ปรี่มากระชากมือของเมฆาออกจ้องมองเคือง เมฆาผงะรีบถอยห่างคนโมโหร้ายดูคล้ายกำลังหวงของ
“สำออย จะเดินไปเองหรือให้ลากไป!” คิมหันต์ก้มมองหญิงสาวตาเขม็ง หนูดีหลบตาเลี่ยงการปะทะพยายามฝืนก้าวเดินทั้งที่เจ็บแปลบ คนตัวโตหันขวับเดินลิ่วเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่พอหันกลับมามองเห็นหนูดีเดินเชื่องช้าก็ตวาดเร่งเข้าไปอีก
“เร็ว ๆ อย่าลีลา”
“หนูเจ็บค่ะ” หนูดีช้อนตามองน้ำตารื้นเบะปากจะร้องไห้ คิมหันต์เดินกลับมาหัวกระฟัดกระเฟียดปากก็พร่ำบ่นไม่หยุดเกิดมาไม่เคยต้องสนใจใครขนาดนี้แม้แต่แม่ของตัวเอง
“มันจะเจ็บอะไรนักหนาวะ ห๊ะ!” เสียงตะคอกใส่หน้าด้วยความเกรี้ยวกราดทำให้คนร่างเล็กที่น้ำตาปริ่มกลายเป็นไหลตกใจขวัญเสียมาตั้งแต่บนรถคันหรู เขาถอนหายใจก่อนจะย่อลงช้อนอุ้มคนเดินช้าขึ้นพาดบ่าทันที หนูดีหน้าเหวอไร้แรงดีดดิ้นหัวห้อยอยู่ข้างหลังเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากตามน้ำ เอวิตาหญิงสาวสวยพี่สาวคนเดียวของคิมหันต์เดินออกมาจากห้องทำงานหลังจากได้ยินเสียงน้องชายอาละวาด
“คิมของขึ้นอะไรอีก” เอวิตาเดินมาเอ่ยถามเมฆาที่ยืนอยู่ปลายบันได
“หงุดหงิดคนรับใช้ใหม่ครับ” เมฆาหันมองยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะโน้มหน้าลงให้กับนายหญิงใหญ่ของบ้าน เอวิตานิ่วหน้ามองขึ้นไปยังบันไดของคฤหาสน์เห็นน้องชายกำลังหิ้วผู้หญิงคนหนึ่งพาดบ่าไปอย่างชิว ๆ
“เอามาถูกกฎหมายหรือเปล่า?” เอวิตาแคลงใจท่าทางหิ้วสาวเหมือนไปบังคับเขามา
“คุณคิมจ่ายเงินซื้อมาจากบ้านบริพักพิบูลย์ครับ” เมฆาตอบทันควัน นั่นทำให้เอวิตาชะงักไม่รู้ว่าน้องยังติดต่อกับครอบครัวเพื่อนพ่อ
ภายในห้องนอนกว้างแบ่งเป็นโซนรับแขกและห้องนอนกว้างใหญ่สมฐานะลูกชายคนเดียวของชลวัต กายหนาก้าวเดินเข้ามาในห้องโยนร่างเล็กลงบนที่นอนกว้างก่อนจะบิดคอไปมาเมื่อยล้าแบกคนขึ้นบันไดมาทั้งคน หนูดีรีบลุกนั่งถอดตัวชิดหัวเตียงอย่างประหม่าไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรกับเธออีก
กายหนานั่งลงข้างขอบเตียงนอนเอื้อมมือหยิบซองบุหรี่กับไฟแช็กจุดบุหรี่สูบคลายเซ็ง ควันขาวถูกพ่นออกมาโขมงในห้องนอน หนูดีนิ่วหน้าจามหลายครั้งไอคอกแค่ก
“ดัดจริต”
“หนูแพ้ควันบุหรี่” เสียงหวานขาดช่วงไอหนักขึ้นจนหน้าแดงคิมหันต์กระตุกยิ้มไม่เชื่อหันมาพ่นควันบุหรี่อัดเข้าหน้าหนูดีที่โบกมือไปมาพยายามกลั้นหายใจ เขาหัวเราะร่วนชอบใจได้แกล้งคนเรื่องเยอะแต่ไม่นานนักหนูดีก็ไอหนักจนตัวโยนทำให้คิมหันต์ตกใจรีบดับบุหรี่ในมือแล้ววิ่งไปเปิดประตูระเบียงห้องระบายอากาศหันมองหนูดีที่ยังไอแรงอยู่บนเตียงนอน
“อย่าพึ่งตาย ยังเอาไม่คุ้ม!” หน้าคมเครียดจัดทำตัวไม่ถูกรีบวิ่งไปเปิดประตูห้องนอนแล้วผงะสุดตัวเมื่อเห็นเอวิตายืนอยู่หน้าห้อง
“คิมยังติดต่อคนบ้านบริพักพิบูลย์อยู่อีกเหรอ” เอวิตาเอ่ยถามน้องทันทีแต่คิมหันต์กลับคว้ามือพี่สาวดึงให้เข้ามาดูหนูดีกำลังไอเสียงดัง เอวิตาตกใจรีบเดินลิ่วไปนั่งบนเตียงนอนจับไหล่หญิงสาวจนกระโชกหน้าแดง
“เป็นหอบหืดหรือเปล่า พกยามามั้ย”
“ไม่ได้เป็นหอบหืดค่ะ แพ้ควันบุหรี่” เสียงหวานติดขัดตกแดงรู้สึกแสบเคือง เอวิตารีบลุกขึ้นดึงสาวน้อยให้ลงจากที่นอนทันที
“ออกไปจากห้องนี้ก่อน” เอวิตาประคองสาวน้อยเดินเข้าไปในห้องนอนรับรองข้าง ๆ แล้วให้หญิงสาวเข้าไปอาบน้ำล้างหน้าเอาควันบุหรี่ติดตามเส้นผมและร่างกายออกให้หมด จากนั้นก็ให้กินยาแก้แพ้
“เป็นยังไงบ้าง” เอวิตามองหญิงสาวไอน้อยลง
“ดีขึ้นแล้วค่ะ หนูขอบคุณนะคะ” หนูดีเสียงแหบแห้งระคายคอนิดหน่อย มือเรียวยกขึ้นไหว้เอวิตาหญิงสาวสวยใบหน้าคมคล้ายคิมหันต์ดูอบอุ่นใจดีกว่าคิมหันต์แต่มีรังสีความน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย
“เธอดูดีนะ ทำไมถึงตัดช่องน้อยแต่พอตัวยินยอมให้เขาเอาซื้อขายกัน” เอวิตากวาดสายตามองสาวน้อยตั้งแต่เห็นสภาพในห้องจนถึงตอนนี้ช่างงดงามหวานหมดจดยกเว้นผิวตัวข้อมือที่มีรอยแดงและเริ่มช้ำเขียว
“หนูไม่ได้เลือกค่ะ ผู้ใหญ่ตกลงกันแล้วขายหนูให้คุณคิม” หนูดีช้อนแววตาสั่นระริกมองหญิงสาวคนสวยตรงหน้าซึ่งไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร
“พ่อแม่เธอยอมเหรอ”
“หนูเป็นเด็กกำพร้าที่คุณท่านกรุณาเลี้ยงดูไว้ค่ะ”
“ขายเด็กที่เลี้ยงมาได้ลงคอ คงร้อนเงินกันน่าดู” เอวิตาแค่นหัวเราะราวกับรู้จักครอบครัวนี้ดีแต่ไม่อยากสุงสิงด้วยเพราะความบาดหมางเก่าก่อน ด้านคิมหันต์เปิดประตูเดินดุ่มหน้าตึงเข้ามาไม่เคาะประตูห้องขออนุญาต
“ผมมาพาหนูดีกลับห้อง”
“ให้พักอยู่ห้องนี้ก่อน คิมก็ไม่ต้องเข้ามายุ่มย่ามด้วย”
“ได้ไง ผมซื้อมายังกินไม่อิ่ม” เขาเสียงแข็งราวกับเด็กเอาแต่ใจ
“ออกมาคุยกับพี่หน่อย” เอวิตาพ่นลมหายใจก่อนจะลุกเดินไปหาน้องชายที่ยืนหน้างอตาแข็งเมื่อถูกขัดขวางเหมือนจะไม่ยอมแต่ก็เดินตามหลังพี่สาวออกไปข้างนอก
“คิมทำร้ายร่างกายเด็กคนนั้นตัวแดงช้ำไปหมด ทำไมต้องโหดร้ายกับเด็กด้วยหรืออยากเป็นคนซาดิสม์ชอบเห็นคู่นอนเจ็บปวดทรมาน” เอวิตากอดอกมองเคืองน้องชายทำตัวดิบเถื่อนเป็นนักเลงตั้งแต่วัยรุ่นทำตัวเป็นเด็กบ้านแตกพี่สาวต้องไปตามตัวกลับมาให้อยู่ในร่องในรอย
“เปล่าครับ”
“แล้วทำทำไม ไม่สงสารเขาเหรอ” เอวิตามองดุไม่ว่าจะโตแค่ไหนน้องของเธอก็ชอบทำอะไรตามความพอใจเหมือนเด็ก
“ก็...ตัวเล็ก ๆ ผิวนิ่ม ๆ น่ามันเขี้ยว” คิมหันต์ตอบนิ่งๆ ไม่สะทกสะท้านในสิ่งที่ทำ
“หัดเบามือหน่อย ถึงยังไงก็เป็นเพศเดียวกับพี่ ถ้าพี่มีสามีทำให้พี่เจ็บแบบนี้คิมจะโอเคมั้ย”
“ใครทำพี่ผมจะฆ่ามัน!” เสียงทุ้มกดต่ำแววตาดุดันห่วงพี่สาวยิ่งกว่าสิ่งใด หากใครกล้าทำให้พี่สาวเขาเจ็บอย่าหวังว่าจะได้อยู่ดี
“นั่นแหละความรู้สึกของคนที่รักเด็กคนนั้นเขาโกรธแน่ถ้ารู้ว่าคิมรุนแรงเกินเหตุ” เอวิตากระตุกยิ้มมุมปากรู้จุดอ่อนของน้องชาย คิมหันต์นิ่งคิดหน้าบึ้งก่อนจะเดินเลี่ยงผ่านพี่สาวเข้าไปในห้องนอนรับรอง
“คิม พี่บอกว่าอย่าเข้าไปยุ่งไง” เอวิตาหันขวับมองดุน้องทำเดินเนียนเข้าไปหาหญิงสาวในห้องรับรอง
“ของของผม ผมซื้อมา” คิมหันต์หันมายักไหล่ให้พี่สาวแล้วปิดประตูห้องทันที เอวิตาส่ายหน้าหน่ายเด็กดื้อที่เธอรู้ดีว่าไม่เคยห้ามได้…..
