บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 ผ้าห่มผืนเดียวในคืนหนาว

ตอนที่ 1

ผ้าห่มผืนเดียวในคืนหนาว

เสียงลมเหนือยามค่ำคืนหวีดหวิว พัดพาไอเย็นจัดแทรกซึมผ่านร่องหน้าต่างไม้เก่าของบ้านเดี่ยวหลังเล็กในซอยเงียบสงบ ปลายเดือนพฤศจิกายนหอบเอาอากาศหนาวเหน็บราวกับจะแช่แข็งทุกสิ่งให้จมดิ่งลงในอุณหภูมิต่ำ

แพรไหมกระชับเสื้อคลุมไหมพรมเนื้อบางที่สวมทับชุดนอนลายลูกแมวน่ารัก เธอขดตัวนั่งกอดเข่าอยู่ปลายโซฟายาวตัวเก่าที่วันนี้กลายเป็นที่นอนชั่วคราวสำหรับเธอ ความหนาวเย็นกัดกินไปถึงกระดูกสันหลังจนต้องยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกความอบอุ่น

“หนาวเหรอ”

เสียงของชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบ้านดังขึ้น จากทางด้านหลังห้องครัว อาคลื่นเดินออกมาพร้อมแก้วน้ำอุ่นที่ส่งไอร้อนระอุ ควันกรุ่นๆ ลอยจางๆ ขึ้นมาในอากาศ ร่างสูงโปร่งในเสื้อยืดสีดำเรียบๆ กับกางเกงวอร์มสีเทาเข้ม ดูเรียบง่ายแต่กลับแฝงไว้ด้วยเสน่ห์อันน่าค้นหาของชายวัยสามสิบปลายๆ ที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน ดวงตาคมกริบใต้คิ้วเข้มจ้องมองมายังเธออย่างอ่อนโยน

“นิดหน่อยค่ะ อากาศเปลี่ยนกะทันหันเลย” แพรไหมเงยหน้าขึ้นสบตาเขา รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากอย่างเกรงใจ ทว่าแฝงไว้ด้วยความอุ่นใจอย่างประหลาดที่ได้เห็นเขาอยู่ใกล้ๆ

“ผ้าห่มล่ะ?” เขายื่นแก้วน้ำอุ่นให้เธอ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวเล็กใกล้ๆ สายตาสำรวจไปรอบๆ ตัวเธอ

“ไม่มีค่ะ หนูไม่ได้เอามาเอง... ไม่กล้ารื้อของคุณอาด้วยค่ะ กลัวจะรบกวน” เธอตอบ รู้สึกผิดเล็กน้อยที่ต้องมาเป็นภาระให้เขา

“บ้านนี้มีแค่ผืนเดียว”

อาคลื่นว่าเรียบๆ พลางลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าห่มผืนหนาสีเทาเข้มที่วางพับเรียบร้อยอยู่ปลายเตียงในห้องนอนใหญ่ของเขา ก่อนจะเดินกลับมาแล้วโยนมันมาให้เธออย่างไม่ตั้งใจนัก “เอาไปใช้เถอะ เดี๋ยวคืนนี้ฉันเปิดฮีตเตอร์ก็ได้”

แพรไหมจับผ้าห่มที่ยังคงอวลด้วยกลิ่นสะอาดของผงซักฟอกและกลิ่นอ่อนๆ คล้ายกลิ่นกายของเขา เธอลังเลเล็กน้อย

“ไม่เป็นไรค่ะ อาใช้เถอะ เดี๋ยวหนูนอนซุกๆ เอาเองก็ได้” เธอรีบปฏิเสธ เกรงใจเขาเกินกว่าจะรับไว้

อาคลื่นถอนหายใจในลำคอแผ่วเบา มือหนาเดินเข้าใกล้ แพรไหมชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเขายื่นมือมาแตะเบาๆ ที่ไหล่เธอ ดวงตาคมมองลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ หย่อนตัวลงนั่งข้างๆ บนโซฟาที่คับแคบลงถนัดตา ร่างกายที่เคยเกร็งเริ่มผ่อนคลายลงเมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่จากกายเขา

“ถ้าไม่รังเกียจ งั้นก็แชร์กัน ผืนมันใหญ่พอ...” น้ำเสียงต่ำทุ้มของเขาเอ่ยขึ้นช้าๆ ชวนอบอุ่นจนหัวใจดวงน้อยของแพรไหมเต้นระรัว

หญิงสาวชะงักไปทั้งตัว ราวกับเวลาหยุดนิ่ง หัวใจของเธอเต้นตึกตักอยู่ในอกดังชนิดที่เธอรู้สึกว่าเขาเองก็น่าจะได้ยิน เธอไม่เคยคิดเลยว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะพูดแบบนี้ เขาเป็นเพื่อนสนิทของพ่อที่อายุห่างกันเกือบยี่สิบปี เป็นคนที่เธอเคารพและรู้สึกปลอดภัยยามอยู่ใกล้เสมอมา

ทว่า...ในวินาทีนี้ กลับรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างประหลาด ความรู้สึกวูบวาบก่อตัวขึ้นในช่องท้องอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“อาแน่ใจเหรอคะ... หนู...” เสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน

“นอนกันคนละมุม ฉันไม่ได้กินเธอสักหน่อย” เขายักคิ้วให้ทีหนึ่ง มุมปากหยักยกยิ้มบางๆ อย่างขบขัน ดวงตาคมกริบคู่นั้นจับจ้องมาที่เธออย่างไม่ตั้งใจล้อเล่น ทว่าสายตาที่เขามองกลับทำให้แพรไหมรู้สึกร้อนวูบไปทั่วทั้งใบหน้าอย่างห้ามไม่ได้ ราวกับดวงตาของเขากำลังสำรวจทุกตารางนิ้วบนตัวเธอ

แพรไหมไม่กล้าสบตานาน ได้แต่พยักหน้าเบาๆ พลางหลุบตาลงมองมือตัวเองที่กำชายผ้าห่มไว้แน่น

“ก็ได้ค่ะ... แบ่งคนละครึ่งก็พอ”

คืนนั้น ทั้งสองนอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันบนโซฟายาวคับแคบ แพรไหมซุกตัวอยู่ปลายเท้าของเขา พยายามหดตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาคลื่นนอนตะแคงหันหลังให้เธอ ไม่มีบทสนทนาใดๆ เกิดขึ้นอีก มีเพียงเสียงลมหายใจที่แผ่วเบาของทั้งคู่ และเสียงจิ้งหรีดที่ร้องระงมอยู่นอกหน้าต่าง

แต่นั่นเอง... ที่ทำให้เธอเริ่มรู้สึก

เธอรู้สึกถึงกลิ่นกายของเขา... กลิ่นสบู่จางๆ ที่ติดอยู่บนเสื้อยืดสีดำผสมผสานกับกลิ่นกาแฟที่เขาดื่มเมื่อหัวค่ำ กลิ่นหอมกรุ่นที่แสนเป็นธรรมชาติ กลิ่นแบบที่ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำให้เธออยากเข้าใกล้ขนาดนี้มาก่อน ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมฉุนๆ หรือกลิ่นบุหรี่ แต่เป็นกลิ่นที่บอกถึงความเป็นตัวตนของเขา กลิ่นที่ทำให้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ และรู้สึกถึงความปลอดภัยที่ซ่อนเร้นความปรารถนาบางอย่างเอาไว้

ในขณะเดียวกัน... อาคลื่นก็รู้ดีว่าเด็กสาวที่นอนอยู่ข้างหลังไม่ได้หลับ ดวงตาของเขาปิดสนิท แต่สัมผัสจากปลายเท้าที่อยู่ห่างออกไปเพียงคืบทำให้เขารับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของเธอ เธอกำลังขยับตัวเล็กน้อย หัวเข่าเล็กๆ นั่นแตะต้นขาเขาเบาๆ เพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะผละออกอย่างรวดเร็วราวกับตกใจ

เขาหลับตาแน่น พยายามสะกดอารมณ์ ห้ามใจตัวเองไว้...

แต่ร่างกายกลับทรยศความตั้งใจ ใต้กางเกงวอร์มเนื้อบางที่สวมอยู่ ความแข็งขึงเริ่มปูดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพียงเพราะสัมผัสจากเธอ... สัมผัสที่แสนบริสุทธิ์ทว่ากลับจุดชนวนไฟราคะในตัวเขาอย่างห้ามไม่ได้

“โว้ย... เด็กสิบเก้านะเว้ยคลื่น! ตั้งสติ!” เขาสบถในใจเบาๆ พยายามข่มอารมณ์ที่พุ่งพล่านให้สงบลง

“อา...” เสียงเรียกเบาๆ ดังขึ้นจากข้างหลัง ผสมกับลมหายใจอุ่นๆ ที่รดต้นคอของเขา

“ว่าไง” เขาไม่หันกลับไป แต่ยังคงหลับตาแน่น พยายามควบคุมลมหายใจของตัวเองให้เป็นปกติ

“ถ้าอาหนาว... หนูอนุญาตให้กอดก็ได้นะคะ”

น้ำเสียงของเธอสั่นเล็กน้อย แต่กลับเปี่ยมไปด้วยความจริงจังที่ทำให้อาคลื่นใจกระตุก

อาคลื่นลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ หันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอ ดวงตาคมกริบสบเข้ากับดวงตาของแพรไหมที่เปล่งประกายภายใต้แสงสลัวๆ ของโคมไฟข้างเตียง

“เธอรู้ไหมว่าเธอกำลังเล่นกับไฟ...” เสียงของเขาพร่าเล็กน้อย เต็มไปด้วยความปรารถนาที่พยายามเก็บซ่อน

แพรไหมยิ้มบางๆ สายตาของเธอสั่นระริกทว่ากลับเปี่ยมไปด้วยความมั่นคง และความกล้าหาญที่ไม่คาดคิด เธอเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เขาอีกเล็กน้อยจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากผิวเธอจางๆ

“อาอยากลองไหมล่ะคะ... ว่าจะร้อนแค่ไหน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel