บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9 ข้อดีของการไม่ได้เป็นอะไรกัน

(Part อดีต)

@ โรงแรมแห่งหนึ่งในภูเก็ต

“แล้วฉันจะไปรั้งเพื่อนได้ไง เทียร์มันเป็นพวกลุยดะอยู่แล้วด้วย” หญิงสาวนั่งอยู่ที่ปลายเตียงในห้องพักขนาดใหญ่ แอบโมโหนิดหน่อยที่ไม่มีห้องแยก เข้ามาก็เป็นเตียงนอนเลย

ชาลิสาที่สวมเสื้อสูทของธิทัตคลุมปิดชุดนักศึกษาเธอไว้ เพราะมีคนบอกว่า ไม่อยากโดนสื่อจับจ้องว่าหิ้วเด็ก เพราะเธอเหมือนมาก

“ก็ทำให้ได้สิ ถ้าทำได้ เรื่องที่เราติดค้างกัน ถือว่าจบสิ้น”

“จบสิ้น!?”

“ใช่ ไม่มีเรื่องราวระหว่างเธอกับฉันอีกต่อไป”

“พูดจริงหรอคะ”

“ก็จริงนะ ฉันไม่เคยพูดเล่น”

ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อถืออีกฝ่ายได้มากน้อยแค่ไหน คนที่เมาอยู่ โดนพามาในที่แปลกหูแปลกตา ถึงกับสร่าง ดีที่เขายังสวมเสื้อผ้าครบ ไม่งั้นเธอคงสติกระเจิง

ชาลิสากำลังคิดอยู่ว่าเธอจะทำได้อย่างไรนะ ขนาดพี่ชายยังทำไม่ได้ แล้วเทียร์จะฟังเพื่อนอย่างเธอหรอ

ความเหม่อลอย ใจปล่อยไปตามความคิด ความสงสัยและการมองหาหนทางรอดสำหรับตัวเอง มีอะไรที่จะเรียกให้เทียร์สนใจเมืองไทยบ้าง

“นี่!!!...ถอดเสื้อทำไม” ชาลิสาตกใจกับภาพตรงหน้าที่จู่ๆ ก็กลายเป็นผู้ชายโชว์เนื้อหนังขึ้นมาเฉย

“ทำไมล่ะ ก็ห้องฉันนี่”

“แล้ว...ฉันล่ะ”

“อ่อ ถ้าจะถอดด้วย ก็ไม่ว่าอะไร อยากดูอยู่พอดี”

“จะบ้าหรอคะ”

“ไม่บ้าหรอก มากกว่านั้นก็เห็นมาแล้ว”

“หยุดคิดบ้าๆ เลยนะ”

“ฉันหรอที่คิด...ไม่เลยนะ ฉันแค่จะถอดเสื้อผ้า เพราะวันนี้เดินทางทั้งวัน แต่เธอน่ะ...จู่ๆ ก็มาถาม แถมยังนั่งแบบนั้น ไม่เรียกว่าโชว์จะให้เรียกว่าอะไร”

ชาลิสารีบหุบขาตัวเอง เธอลืมตัวว่าใส่กระโปรงนักศึกษาสั้น แล้วเสื้อสูทตัวใหญ่นี้มันดันร่นขึ้นมาเผยให้เห็นสามเหลี่ยมที่หว่างขา หญิงสาวหน้าแดงไปหมด

“คิดจริงๆ ด้วยสินะ ชาลิ เธอไม่เปลี่ยนไปสักนิด ถ้าอยากก็บอกนะ...ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรกับใครมานานแล้ว ได้ปลดปล่อยบ้างก็ดี”

“พี่จะทำ หรือไม่ทำ ก็เรื่องของพี่เถอะ”

“ทำไมล่ะ...ของเคยๆ”

“ไม่...เคย...ค่ะ”

คนกำลังจะเถียง...รีบเก็บคำพูดตัวเองลงไป...เธอเคยแล้ว กับเขา...แม้จะจำอะไรไม่ได้เลยก็เถอะ แต่หลักฐานมันชัดเจนโจ่งแจ้ง

ชาลิสามองเวลา...

“เพื่อนต้องเป็นห่วงฉันแน่ๆ” หญิงสาวเพิ่งคิดขึ้นได้ เธอหายมานานแล้วหรือยังนะ อยู่กับคนนี้ใจเธอเต้น สมองเธอวิ่ง ทุกอย่างมันปั่นป่วนไปหมด เธอต้องหาเรื่องพูดฆ่าเวลาไป ก็เพื่อไม่สนใจกับคนที่ยืนโชว์ซิกแพ็คอยู่ตรงหน้า

“เพื่อนเธอหรอ...หรือแฟน” เขาถอดนาฬิกาข้อมือวางลงที่โต๊ะเล็กตรงหัวนอน

แม้คนตัวเล็กจะไม่อยากมองอีกฝ่าย แต่มันอดระแวงไม่ได้จริงๆ

“เพื่อนค่ะ” เธอตอบ

“เธอมีแฟนมั้ย”

“ถามทำไม”

“แค่อยากรู้” น้ำเสียงที่ดูซอฟต์ลงทำร่างบางอยากเห็นสีหน้ายามเขาพูด แต่ความกลัวผู้ชายคนนี้ทำให้ไม่กล้าหันไปอยู่ดี

“ไม่มี” เธอตอบสั้นๆ

“อ่อ” เขาทำเสียงยานคางเหมือนล้อเลียน

“อ่อ อะไร!?!?” เสียงหวานหางสะบัดพร้อมสายตาที่หันขวับไปหาด้านหลัง

“หรืออาจจะเป็นแบบเน้นเย็บ ไม่เน้นผูกพัน” ชายหนุ่มเปลี่ยนที่ยืนจากหัวเตียง เดินไปที่กระเป๋าเดินทาง หยิบสายชาร์จแบตมือถือมาเสียบ แล้วกดดูนั่นนี่ไม่สนใจคนที่นั่งหมุนคอ หมุนตัวตามเขาไปทุกตำแหน่งก้าวเดิน

“จะบ้าหรอ ฉันไม่ใช่พี่นะ”

“เธอรู้หรอว่าฉันเป็นยังไง”

“พี่ก็คงเอาไปทั่วนั่นแหละ” ชาลิสาตัดสินให้ เพราะเจ้าของร้านเหล้าก็คงเป็นแบบนั้นแหละ

“และใช้ยาด้วย ฉันชอบเสพยามากๆ แล้วยิ่งในที่แคบๆ ก็จะยิ่งมีอารมณ์ สั่งคนขับลงข้างทาง เพราะฉันชอบขึ้นไง” คนพูดเสียงกลั้วหัวเราะปนความเยาะเย้ยถากถางอีกฝ่าย เล่าเป็นฉากเหมือนรื้อฟื้น

ร่างบางหน้าแดง อายกับวีรกรรมที่ทำให้เธอต้องตกเป็นเบี้ยล่างคนอย่างเขา

“อันที่จริงก็ดีนะ...ไม่เสียตังค์ด้วย นอนกับคนเคยๆ เนี่ยดีที่สุด”

ธิทัตเตะเสื้อที่กองที่พื้นให้พ้นการเดินของเขา คนอกเปลือยเดินมาหาหญิงสาวที่นั่งอยู่ปลายเตียง ชาลิสาเริ่มเลิกลั่ก ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี ห้องก็ใหญ่ แต่ร่างกายดันไม่ขยับหนี

ฟุบ!!

ชายหนุ่มกดร่างบางนอนจมไปกับเตียง ความเร็วที่พุ่งเข้าหานั้นทำคนตกใจนอนหงายใต้ร่าง หายใจแรง ดวงตาเบิกกว้างมองอีกฝ่าย

เสื้อสูทของชายหนุ่มกลายเป็นผ้าปูที่นอนโดยปริยายเมื่อเธอหงายตัวนอนทับไว้ ธิทัตปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของเธอออกด้วยมือเดียว

“ฉันว่านะ...เรามานอนคิดด้วยกันดีกว่า ว่าจะทำยังไงให้เทียร์เปลี่ยนใจ ไม่ไปต่างประเทศ ฉันจะทำให้เธอสมองโล่ง เผื่อจะเติมไอเดียใหม่ๆ ให้พวกเรา”

“พี่...จะ...ทำอะไร” มือเล็กรีบจับสาบเสื้อนักศึกษาปิดเข้าด้วยกัน

“ทำอะไรล่ะ...ในโรงแรมแบบนี้ ชงเหล้าเล่นมั้ง” สองมือเท้ากับฟูกเตียง มองอีกฝ่ายราวกับจะหลอมละลายด้วยเพลิงราคะที่พลุ่งพล่านลามเลียไปทั่ว

ปากอวบอิ่มรีบเม้มแน่น พอๆ กับมือที่กระชับอกเสื้อตัวเองไว้

“ฉันไม่อยากทำนะ”

“ให้ฉันข่มขืนเธอคืนบ้างมั้ยล่ะ”

“เรื่องตอนนั้น…ฉะ…ฉะ…ฉัน...ขอโทษ”

ชาลิสาพนมมือไหว้คนโตกว่า หวังว่าเขาจะรับคำขอโทษของเธอ

ชายหนุ่มขยับตัวทีร่างบางสะดุ้ง แต่เขาแค่ส่งมือมาจับมือที่พนมอยู่นั้นลากลอยขึ้นมาจนจรดริมฝีปาก

จุ๊บ!

“ขอโทษหรอ...คนสำนึกผิดเลยหนีมาไกลยันภูเก็ตอ่ะนะ ฉันว่าเธอแค่เปลี่ยนที่ทำมาหากิน”

“ไม่ใช่นะ...ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายามันมาอยู่ตัวฉันได้ไง” เธอรีบปฏิเสธ หัวใจเต้นโครมครามแรงจนเกรงว่าจะหลุดออกจากร่าง พร้อมวิญญาณของเธอเองด้วย ไม่รู้ว่าเขามาไม้ไหน แต่การทำแบบนี้ด้วยใบหน้าหล่อๆ มันทรมานใจเธอมาก ที่ต้องอดทนไว้ไม่คล้อยตาม

ธิทัตจับหงายข้อมือแล้วจูบลงอีกครั้ง ผิวคนที่นอนตัวสั่นอยู่ใต้ร่างเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อขึ้นมาทันที

“ตั้งแต่มาอยู่นี่ เธอมีไปกี่คนแล้วล่ะ ฝรั่งแบบที่ชอบ หรือเจอลูกครึ่ง หรือเอาเด็กถิ่น” เขาถาม พลางจูบเลื่อนขึ้นตามเรียวแขนเธอไปเรื่อยๆ

“ไม่ใช่เลยนะ...ฉันไม่ได้...ทำอะไรกับใครนะ อย่ามาพูดจาทุเรศๆ…นะ” ความรู้สึกหลากหลายประเดประดังตีกันวุ่น สมองเริ่มติดขัดที่จะพูด ร่างกายก็ปั่นป่วนไปหมด

“คนที่ถึงขนาดมีถุงยางอยู่ในรถ พร้อมรบขนาดนั้น จะไม่เคยเลยหรอชาลิ ตลกไปมั้ย”

“ถุงยาง!? ในรถ!?”

“จำไม่ได้หรอ รถไอ้ดีนไง เธอเตรียมพร้อมตั้งแต่วัยนั้น มาตอนนี้ที่ทำได้แล้ว ไม่ยิ่งต้องตอบสนองความอยากของตัวเองหรอ” เขาเริ่มย่อตัวลง ซุกไซ้สูดกลิ่นกายสาวที่ข้างซอกคอจนหญิงสาวย่นคอหนี เพียงได้กลิ่นภาพคืนนั้นก็ส่งตรงมายังสมอง ฮอร์โมนกระตุ้นเร้า อารมณ์มาเต็มจนปวดหนึบที่หว่างขา

“ถ้า…ถ้าฉันตกลงช่วยพี่เรื่องเทียร์ พี่จะไม่ยุ่งกับฉันใช่มั้ย”

.

.

.

เมื่ออยู่ใต้ร่างของเขา คำพูดของชาลิสาที่เอ่ยถาม ช่างไร้น้ำหนัก

ช่วงที่ผ่านมาเขาไร้อารมณ์ เพราะชีวิตว่างหรือสมองไม่มีเรื่องให้ปวดหัว เขารู้สึกอยากทำอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร แม้จะยังไม่รู้คำตอบ ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่ต้องตามหา

เพราะไม่ใช่แค่สมองที่คิดเรื่องราวข้ออ้างได้ไว แต่ร่างกายก็เกิดมีอารมณ์อยากทำขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นหน้าคนนี้ โดยไม่ใช่เพราะการกระตุ้นเร้าจากภายนอกอย่างการเล้าโลมที่มักมีหญิงอื่นทำให้ แต่เป็นข้างในตัวเขาเอง ชายหนุ่มจึงโยนชีวิตน่าเบื่อที่กรุงเทพฯไว้ แล้วตั้งใจบินมาเล่นกับคนตรงหน้าแทน เจ้าลูกแมวของเขา…ที่หนีหางจุกตูดมาไกล

“ไม่…ฉันเปลี่ยนใจแล้ว เรื่องเทียร์ฉันว่า ฉันหาทางจัดการได้” ธิทัตพูดพลางแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่

“ไม่ๆๆ ให้ฉันจัดการให้ดีกว่า เพื่อนพูด ต้องดีกว่าพี่พูดอยู่แล้ว” ชาลิสาที่รู้สึกเหมือนตัวเองคือกวางที่บาดเจ็บ นอนรอเสือมาตะครุบกิน เธออยากหนีเพื่อเอาชีวิตรอด

“ชาลิ…คราวที่แล้วตอนเธอทำฉันน่ะ เจ็บมากนะ”

“จะ…เจ็บ…หรอ!?!?” จู่ๆ คนพูดก็ทำตัวน่าสงสารขึ้นมา จนชาลิสารู้สึกผิดขึ้นมาเลย

“ใช่สิ ทำคนไม่มีอารมณ์ มันเจ็บนะ แถมเธอมีพลังเยอะ ขย่มฉันตั้งกี่รอบ

คืนนี้ขอเอาคืนสักหน่อยได้มั้ยล่ะ”

“มะ…มะ…ไม่ได้ ฉัน…ฉันไม่พร้อม”

“แต่ฉันทำให้เธอพร้อมได้นะ”

“เรา…ไม่ได้เป็นอะไรกันนะ”

“ข้อดีของการไม่ได้เป็นอะไรกัน คืออะไรรู้มั้ย”

“……..”

“ไม่ผูกมัดไง…เธอฟิน ฉันฟิน จบ แค่นั้น”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel