ตอนที่ 8 ตาม
(Part อดีต)
@ ภูเก็ต
สายลม แสงแดด กิจกรรมมหาวิทยาลัย และการเรียนสายศิลปะที่ดูเหมือนจะง่าย แต่ไม่ง่ายนั้นทำเอาคืนวันของรั้วนักศึกษาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับชีวิตที่ลืมเลือนเรื่องแสบซ่าเมื่อหลายปีก่อน
ในร้านเหล้าเล็กๆ หลังมหาวิทยาลัย
“งานเยอะฉิบหาย” เพื่อนบ่น
บัคเก็ตใหญ่ถูกเลื่อนส่งต่อกันมาให้ทุกคนได้กินด้วยกัน
“มึงเมาอ่อ” เพื่อนหันมาถาม เมื่อเห็นชาลิสาคนสวยทำตาง่วงๆ แก้มแดง จิ้มหน้าลงในกระป๋องที่เต็มไปด้วยเหล้าผสมหลากหลายชนิดมีน้ำแข็งกับโซดาอัดแน่นช่วยเพิ่มปริมาณของเหลวให้ซู่ซ่า
“ยิ่งกว่าเมา คือกูจะอ๊วก” ชาลิสาพูด
“มึงจับหัวอีสาขึ้นก่อนเลย อิห่า เสียของ” เพื่อนๆ ช่วยกันดึงหัวจุกขึ้นเจ้าตัวร้องดังลั่น
“อีดอกๆๆๆ เจ็บ”
“สร่างเลยมั้ยมึง”
“เดี๋ยวกูมา ขอไปรับลมแป๊บ” คนเมาค่อยๆ ลุกขึ้นเดินออกจากร้าน ข้ามถนนเล็กๆ ไปหาที่นั่งใกล้หาด
มหาวิทยาลัยที่ห่างไกลจากตัวเมือง ตั้งอยู่แยกจากชุมชน เรียกว่ากลางป่าดงพงพี ร้านรวงรอบๆ เปิดปิดตามเวลาชีวิตของนักศึกษา และมีหลายคนที่ชอบมาเมากันริมหาด แต่ป้ายเตือนจากเจ้าหน้าที่ประกาศชัดเจน เพราะหาดฝั่งนี้ไม่ใช่หาดทราย แต่เป็นโขดหิน ถ้าเมาแล้วเกิดลื่นล้มก็ตายได้เหมือนกัน
น้ำทะเลซัดเข้าฝั่งกระเซ็นเป็นฟองฝอยกระจายจนใบหน้านักศึกษาสาวเปียกไปด้วย เธอหัวเราะออกมา เพราะเพิ่งรู้สึกตัวว่าเดินมาใกล้ทะเลมากไป
รถเก๋งคันใหญ่ขับมาจอดที่ริมฟุตบาท คนขับมองไปยังหญิงสาวที่จู่ๆ ก็อยากมาเจอเฉยๆ หลังลูกน้องบอกพิกัดปัจจุบันว่าเด็กที่ติดตามอยู่ไหน ผู้ชายที่แวะมาทำงานที่ร้านนิดๆ หน่อยๆ ก็ขับรถพุ่งมาหาเป้าหมาย
“มาได้จังหวะดีจริง” ธิทัตพูดคนเดียว
คนโตก้าวลงจากรถ เดินเลียบทางไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่ไม่เหมาะกับคนเมามานั่ง แต่ชาลิสายังตั้งท่าเหมือนคนนั่งหลับ ก้มหัวลงต่ำ รอให้ตัวเองอาเจียนออกมา
ธิทัตเดินไปใกล้ๆ จนแน่ใจว่าอีกฝ่ายคือ ยัยเด็กเพื่อนน้องสาวของเขา มือหนาคว้าแขนคนที่ทำท่าจะหกคะเมนคว่ำหน้าลงโขดหิน
“นั่งทำไร เดี๋ยวก็หัวกระแทกหินตายห่าหรอก”
“แม่ง ใครวะ ปากหมาฉิบหาย”
คนเมาค่อยๆ หันหน้ามาหา แต่เพราะความมึนทำให้เห็นภาพซ้อนไม่ชัดเจน
ชายหนุ่มดึงแขนให้เธอลุกขึ้นยืนดีๆ
คนโดนหิ้วลุกตามแรงอีกฝ่ายช้าๆ สายตาไม่ละไปจากใบหน้าคนที่เข้ามาหา
“ใครวะ”
“ไม่เจอกันแป๊บเดียว ปากกล้าขึ้นอีกแล้วนะ” ธิทัตพูด
ดวงตากลมโต ค่อยๆ หรี่สายตาจ้องมองอีกฝ่าย จากริมฝีปากเขา ปลายจมูก จนขึ้นไปถึงดวงตานั่น มือเล็กส่งมาลูบกรอบหน้าช้าๆ
“คนไทย...”
“Hmm..sorry I’m not your type.” ถึงไม่ได้ตั้งใจจะจำ แต่เขาดันนึกขึ้นมาได้ ที่น้องสาวเคยบอกว่า ชาลิสาชอบลูกครึ่ง และเขาไม่ใช่สเปคของเธอ พอเห็นอีกฝ่ายทักว่าเขาคือคนไทย เลยตอบกลับไปด้วยสำเนียงเด็กเรียนนอกเหมือนกันเพราะหมั่นไส้ที่ลืมกันง่ายเหลือเกิน
“ปล่อยแขนกูนะ”
“ปล่อยก็ล้ม”
“กูยืนได้ มึงเป็นใคร”
“อย่าบอกนะ เล่นยามาอีกแล้วน่ะ”
“เล่นยาพ่องมึงสิ”
“โอ้โหแฮะ...เล่นพ่อกูเลยหรอ”
หญิงสาวค่อยๆ แกะมืออีกฝ่ายให้หลุดออกจากแขนเธอ พอยืนมั่นคงและไม่มีใครจับแขนเธอแล้ว
พึ่บ!!!
คนตัวเล็กวิ่งหนีทันที ความเมาทำร่างโซซัดโซเซเหยียบหินได้บ้าง ลื่นบ้าง ทุลักทุเลน่าดูแต่วินาทีที่ได้ยินเสียงชายหนุ่มนั้นเธอจำได้แม่น แต่ตั้งหลักไม่ทัน เลยตีเนียนว่าเมามาก
“หืม ยัยตัวแสบ” ธิทัตมองดูคนวิ่งหนีสภาพเดินหน้าห้า ถอยหลังสอง เขาไม่ต้องรีบตามให้เหนื่อย ขายาวๆ นั้นก้าวไม่กี่ครั้ง ก็แทบจะคว้าไว้ได้แล้ว แต่ระดับเขาไม่จำเป็นต้องไล่ล่าหรอก
“เหมือนคนหนีคดีเลยนะ” เขาพูดเสียงดังขึ้น คลอไปกับเสียงคลื่นทะเลที่ซัด
หญิงสาวยืนก้มหนามือเท้าหัวเข่าตัวเองด้วยความเหนื่อย พยายามมองเป้าหมาย ร้านเหล้าอยู่ไม่ไกล แค่ข้ามถนนก็พอ
เท้าเล็กก้าวลงจากฟุตบาท ไม่มองซ้ายขวาใดๆ รู้แต่อยากไปหาเพื่อนให้ไวที่สุด
ปิ๊น!!!!!!!!!
ฟิ้ว!!!
“ว้าย!!!!”
“ไม่ต้องว้าย เดี๋ยวก็ตายหรอก”
ร่างสูงคว้าแขนเธอไว้ได้อีกครั้ง รถกระบะบรรทุกของเต็มด้านหลังวิ่งลงเนินมาแรงไม่ทันมองเห็นคนข้ามถนนที่เกือบกลายเป็นศพหากไม่มีคนมาดึงตัวไว้
“พี่ธิ”
“หนีทำไม”
“มะ...ไม่ได้หนี”
แววตาฉ่ำเพราะแอลกอฮอล์ เสื้อนักศึกษาบางจนเห็นลายบราเซียร์เซ็กซี่ กระโปรงสั้นแค่คืบกับรองเท้าผ้าใบขนาดเล็กหุ้มข้อเท้าเธอ
“ถ้าไม่ได้หนี ก็ไปด้วยกัน”
“ไปไหน...ไม่ไป”
“ไม่ได้เจอผัวตั้งนาน ไม่คิดถึงหรอ”
“ไม่ๆๆๆ พี่ไม่ใช่ผัวฉัน”
“ร้องให้คนช่วยสิ”
“ไอ้บ้าๆๆๆ ปล่อยฉันนะ”
“นี่คงไม่ใช่เพราะฤทธิ์เหล้าหรือยาหรอกสินะ ดูท่าจะเป็นความแค้นฝังใจ”
“ไม่ๆๆ ปล่อยกูนะ”
“ปล่อยกูเลยหรอ นี่พูดแบบนี้กับฉันเลยหรอ”
“มึง ไอ้หมาบ้า”
“ฉันเป็นหมาหรอ ชอบ role play ด้วยหรอ เธอมีรสนิยมหลายอย่างที่เซอร์ไพรส์ฉันนะ”
“ไอ้หมาบ้ากัดไม่ปล่อยเลยนะ อุตส่าห์หนีมาไกลแล้ว”
“หนีเก่งนักหรอ”
ตุ่บ!
คนตัวเล็กถูกจับโยนใส่รถที่เบาะหลัง ธิทัตเท้าแขนกับหลังคารถยนต์ของตัวเอง เขาก้มหน้าเข้ามาภายใน สายตาจับจ้องอีกฝ่ายกำราบให้สงบลง
“อย่าคิดหนี ไม่งั้นเธอจะได้กลับกรุงเทพฯ ไปกับฉัน”
“ปะ..ไปทำไม”
“ขึ้นศาลไง”
“ขึ้นศาลทำไม!?!?!?”
“ข้อหาข่มขืนผู้ชาย”
“ไอ้บ้า”
“ชาลิ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยพอดี” พอรู้สึกว่าแกล้งแล้วสนุกก็เผลอหัวเราะออกมา เพราะหน้าตาตอนตกอกตกใจที่รู้ว่าตัวเองต้องถูกดำเนินคดี
“เรื่องอะไร”
“เดี๋ยวไปคุยที่โรงแรม”
“ไม่ไปนะ”
“หรือจะในรถเลยล่ะ เธอจะพ่นน้ำใส่รถฉันทุกคันเลยหรอ”
“.......” เด็กสาวกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดวงหน้าเห่อร้อนเพราะความอาย หนีมาไกลขนาดนี้ เขาก็ยังตามเจออีก แล้วนี่เขาจะคุยอะไร ทำไมต้องไปโรงแรม
