บท
ตั้งค่า

บทนำ

"เฮ้ยพี่!!"

เสียงร้องตะโกนตามแผ่นหลังของหญิงสาวผมยาวสลวย ที่กำลังเดินจ้ำอ้าวห่างออกไปจากกลุ่มเพื่อนด้วยท่าทางสุดแสนจะเบื่อหน่าย ลูกหมาที่กำลังวิ่งหูชี้ตาชันหางตั้งตามหลังออกมา

"อะไรอีกอะ?"

"พูดจริงๆ นะ"

"ไม่!!"

ตะคอกตอบกลับคนน้องไปด้วยความหงุดหงิด ไอ้เด็กบ้าคนนี้มีดีแค่หล่อมาก และยังตามตอแยเธอให้สอนบางอย่างไม่เลิกราสักที พานทำให้คนพี่แทบจะทนต่อปากต่อคำกับเขาไม่ไหว อยากหยุมน้องสักตั้งสองตั้งให้หายบ้า แต่ก็นะเห็นแก่ความหล่อของเบ้าหน้าที่พระเจ้าปลุกปั้นประทานลงมาเป็นลูกรักของทวยเทพ

"เถอะนะ"

"ไม่ไง!"

"สอนหน่อยครับ จริงจังนะ"

นิ้วยาวยกขึ้นเกาะกุมกันที่หว่างอก เพื่ออ้อนวอนให้คนพี่เมตตาลูกหมาตาดำๆ แต่โคตรหล่ออย่างเขาเสียที นี่ต้องให้เขาตามก้นต้อยๆ อีกนานแค่ไหนถึงจะยอมใจดี เปิดทางให้ของดีประจำคณะวิศวะบ้าง

"ดูปากนะ...ว่าไม่! เข้าใจไหมเจเลอร์?"

"โธ่พี่พลัมก็เค้ายังไม่รู้อะ พี่สาวสอนหน่อยดิ๊ นี่พี่รู้ไหมว่าพี่โชคดีแค่ไหนได้ของดีประจำคณะ หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีกนะ"

"ถามก่อนไหมว่าอยากได้หรือเปล่า? ถ้ามันดีขนาดนั้นก็ไปให้คนอื่นดิวะ"

ใบหน้าหล่อยังตีหน้าซื่อ ด้วยท่าทางออดอ้อนน่าสงสาร แต่ทว่าคนพี่กลับขนโรงไฟฟ้า ช็อตแล้วช็อตอีก จนแทบไหม้หมดทั้งหัวใจแล้วเนี่ย

"ไม่เอา เค้าให้พี่ช่วย เถอะนะไหว้ละ"

"โน! โน! โน! เข้าใจไหม?"

"นี่พี่...ถึงหน้าเค้าจะไม่หวาน แต่เค้าตัวท็อปเลยน๊า"

ความต้องการและใจอยากลอง ต่อให้พี่สาวช็อตกันด้วยโรงไฟฟ้าทั้งโรง ขนมาทั้งดาบสายฟ้าของเทพซุส จนใจไหม้แล้วไหม้อีกก็ไม่สะทกสะท้าน เพราะคนน้องถือคติน้ำหยดลงหินทุกวัน ยังไงหินก็กร่อน ไล่แค่ไหนก็ยังหน้าด้านอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือรุกแรงขึ้นเป็นสิบเท่า

"เฮ้อ! ปวดหัววะ"

"ของแรร์ประจำคณะ ดีกรีเดือนคณะวิศวะเลยนะเว้ย ไม่เอาจริงดิ?"

ระดับเสียงยิ่งทวีคูณขึ้น ด้วยท่าทางสุดฮึกเหิมราวกับจะไปออกรบในสงครามโลกครั้งที่สอง แม้ใบหน้าจะหล่อออร่าพุ่งแต่ปัญญายังอ่อนอยู่มาก ยิ่งพี่สาวเห็นยิ่งเอือมระอากับท่าทางของคนน้องจนสุดจะทน

"แล้วไง?"

"หล่อไง!"

"ถุ้ย! ไปเถอะคนหล่อ ไปม่อที่อื่น"

นิ้วเรียวเล็กเร่งปัดไปมา ไล่กลิ่นอายของความหล่อออกไปให้ไกล แม้ใจจะรำคาญแต่ทว่าในส่วนลึกก้นบึ้งของใจยังแอบเอ็นดูความเมาะแมะของลูกหมาตาดำตัวนี้ไม่ไหวอยู่ดี

"เฮ้ยพี่!! วันนี้ไม่เห็นค่า วันหน้าเดี๋ยวมาใหม่อีกนะ"

"เฮ้อ! ไม่ต้องมาแล้ว ไม่อยากเห็นหน้า รำคาญ"

"ไม่อะ เค้าจะรอจนพี่จะยอมสอน หรือต้องให้เปิดไฟเขียวเหมือนแท็กซี่ไหม ถึงจะรู้ว่าเค้ายังผุดผ่องอยู่แค่ไหนอะ อิอิ"

นิ้วยาวทั้งสองข้างเปิดเบ่งบานออก อังไว้ใต้คางอย่างกับดอกทานตะวัน พลางฉีกยิ้มกว้างข้างๆ แก้มเนียนของคนพี่ด้วยท่าทางสุดแสนจะออดอ้อน จนน่าหมั่นไส้

"ไม่มีวัน"

"โห่ พี่ใจดำวะ"

"เออดำมาก"

ท่าทางสุดแสนจะรำคาญใจที่แมลงหวี่แมลงวันตัวนี้ไล่ราวกับตอมขี้ ทั้งเอ็นดูทั้งรำคาญจนพี่สาวเริ่มสับสนกับความรู้สึกตัวเองเหมือนคนบ้า

"ที่บ้านเค้ามีแมวนะ สนใจปะ?"

"ไม่ชอบแมว ขี้เหม็น!"

"เฮ้ย! บู้บี้น้องเหรอ?"

แววตา และสีหน้าเศร้าสร้อยลงราวกับว่าน้อยเนื้อต่ำใจที่แมวน้อยสุดน่ารักไม่ได้รับความรักความเมตตาจากพี่สาวเช่นเดียวกับลูกหมาสองขาที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ แต่มีหรือที่สุดหล่อ หัวใจสุดดื้อรั้นจะยอมแพ้

"เชอะ!"

"ถ้าเธอไม่ชอบแมว ชอบหมาแบบเรามั้ย โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!"

คนพี่ไม่ชอบแมว ไม่ได้ทำให้คนใจง่ายอย่างเจเลอร์ยอมแพ้ใจอ่อนให้กับความใจหินของพี่สาวได้ ไม่ชอบแมว กลายร่างเป็นหมาให้ไว เพื่อเซาะใจพี่สาวให้กร่อนลงสักนิดก็ยังดี

"โอ๊ย! ไม่เว้ย อย่ามายุ่งได้ไหม?"

"เธอไม่มีใจ?"

"เออ!"

คิ้วหนาตกวูบลง แววตาเจิ่งนองไปด้วยหยาดน้ำเต้นสั่นระริกๆ จวนจะไหลลงมา แต่ทว่ามันกลับไหลย้อนกลับเข้าไปในรอบลึกของดวงตาราวกับว่าโดนสายยางดูดกลับไปได้อย่างง่ายดาย เมื่อใจมันยังอยากลองต่อ

"เธอไม่มีใจ แต่เรามีตังค์นะ สนบ้างเหอะ"

"ปวดประสาท พาไปศรีธัญญาทีดิ"

พี่สาวเริ่มทนไม่ไหว ขยี้ผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด ให้กับคนตรงหน้าที่ไม่ยอมลดละเลิกวุ่นวายกับชีวิตของเธอเสียที แม้ร่างกายจะเป็นคนดี เลวสุดแค่เคยใช้เท้าปิดพัดลม แต่ใจเริ่มก้าวร้าวขึ้นจนแทบอยากไปวางมวยกับน้องที่ศรีธัญญา

"พาไปได้แต่ห้องงะ ถึงใจเรานั้นจะง่าย แต่ได้กับเรานั้นก็ไม่ยากเหมือนกันนะ ปิ้ว ปิ้ว ปิ้ว"

"ใครก็ได้เอาอีนี่ออกไปไกลๆ กูที ขอร้อง!!"

"เฮ้ยพี่!!"

สิ้นประโยคนั้นร่างเล็กรีบเร่งวิ่งตาลีตาเหลือกหนีห่างจากน้องไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ตัวเองจะเป็นบ้าเอาจริง ๆ แค่โรคเข้าสังคมยากยังยากจะรักษา ต้องมาปวดประสาทกับคนบ้าแต่หน้าหล่อแบบนี้ ทั้งหงุดหงิดใจ ทั้งหัวใจพองโต บ้าไปเองโดยไม่รู้ตัว สุดท้ายใครกันที่ต้องไปศรีธัญญา นอกจากลูกพลัมคนดีคนเดิม

Talk

เฮ้อ หลุดมาจากไหนวะ เหนื่อยวะ 55555

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel