ความเจ้าเล่ห์
10 นาทีผ่านไป
ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มด้วยความสบายใจ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนที่เขาว่ากันว่ามันสบายสำหรับเธอ ก็ไม่เท่าห้องนอน และเตียงนุ่มๆ ของตัวเอง แต่ทว่าความคิดสุดจะวุ่นวายใจก็ซัดกระหน่ำเข้ามาเบียดเนื้อสมองเธออีกจนได้
"ไอ้เด็กบ้า! แสบดีนักรออยู่ข้างล่างนั่นแหละ รอจนเหงือกแห้งก็ไม่ลงไปหรอกบอกเลย"
"ถ้ารอไม่ไหวก็กลับไปเลย ไม่ได้บอกใครมานั่งรอสักหน่อย"
เสียงบ่นพึมพำกับตัวเองอยู่คนเดียวภายในห้องเงียบๆ ด้วยท่าทางสะใจที่ได้เอาคืนคนน่ารำคาญ แต่หารู้ไม่ว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างน้องนี่หรือจะปล่อยให้พี่สาวแกล้งกันอยู่เพียงฝ่ายเดียว ถ้าแค้นนี้ไม่ได้ชำระอย่ามาหาว่าเขาเป็นคนกระจอก
ติ่ง!!
จังหวะที่กำลังนั่งดื่มด่ำกับขนมในมืออย่างใจเย็น ความวุ่นวายที่พยายามสะบัดมันออกไปก็วิ่งกลับเข้ามาชนผนังกั้นหัวใจของคนสวยตากลมดังโป๊ะ! เข้าอีกจนได้ เมื่อเสียงข้อความไลน์เด้งขึ้น ไกลๆ
ดึงสติลูกพลัมให้หันกลับไปจ้องมองยังมือถือที่ว่างอยู่บนโต๊ะคอมอย่างนึกพิจารณา
Line MM
MM : "มึงไปถอดปลั๊กถึงดาวพลูโตหรือเปล่า นานเกินไปแล้ว"
LP : "เออ รอก่อน"
ลึกๆ ในใจก็คิดว่าคงใช่สาวหล่อที่เธอคุ้นเคย พอคว้ามือถือขึ้นมามันดันใช่จริงๆ ด้วย มาเร่งกันเร่าๆ ไม่พอยังมีเหน็บแนมกันอีก เห็นได้ชัดๆ
MM : "ทำไร? อย่าบอกนะว่ามึงจับเดือนคณะกูปู้ยี่ปู้ยำแล้วอะ"
LP : "ปัญญาอ่อนมาก สมองขี้เลื่อยคิดอะไรลามกแบบนั้น"
คิดแล้วก็อดด่าไม่ได้ สมองอันน้อยนิดคิดได้แต่เรื่องลามก ใครเขาจะทำอะไรแบบนั้นกัน แต่ถ้ามายั่วบ่อยๆ ในอนาคตก็อาจจะไม่แน่!
MM :"ใครๆ ก็อยากได้มันทั้งนั้น มึงเองยังเคยอยากได้เลย"
LP : "เดี๋ยว! กูบอกมึงตอนไหนอีแก่ อย่างมามั่วนะมึง"
MM : "ตอนมึงเมาไง"
นิ้วเรียวเล็กที่เบียดกันหยุดชะงักลงทันที รีบวางมือถือลงที่พื้นเตียงนุ่ม คิ้วเรียวผูกกันเป็นปมจนโบท็อกซ์จะยื้อไว้ไม่ไหว นั่งเฝ้าครุ่นคิดว่าตอนไหนที่ตัวเองเมาแล้วหลุดพูดคำนั้นออกมา ทั้งที่นับครั้งได้เลยที่ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนเก่าๆ สมัยเรียนมัธยม
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
แต่ยังไม่ทันที่จะคิดอะไรออก ความซวยหรือความโชคดีไม่มีทางรู้ ตรงเข้ามาเคาะประตูห้องเสียงดังลั่น พลันดึงสติเธอให้หันไปมองด้วยความตกใจ เมื่อไม่เคยมีใครมาเคาะได้นอกจากเพื่อนที่มีคีย์การ์ดขึ้นมาข้างบนได้เอง
"ใครวะ?"
หัวใจดวงเล็กเต้นสั่นเร็วกว่าเดิม ด้วยความหวาดระแวง ร่างเล็กรีบเร่งเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปส่องตาแมว แต่แล้วความอันตรายในรูปแบบคนโคตรหล่อกลับยืนทำหน้าสลอนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าบานประตู
"เชี่ย! ขึ้นมาได้ไงเนี่ย?"
ด้วยความตกใจ และไร้สติ จนลืมชั่งใจเร่งเปิดประตูห้องออกกว้าง
อ้าปากค้างจะด่าน้องสักหน่อย แต่ทว่าลูกพลัมกลับช้ากว่าเดอะแฟลช ที่พุ่งตัวเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว ถ้าน้องเป็นฆาตกรโรคจิตปานนี้พี่สาวคงโดนฆ่าหมกส้วมไปแล้ว ใจง่ายเกิน!
"เฮ้ย!"
ปัง!!
ตัวที่เข้ามายืนยิ้มหน้าบานอยู่ในห้อง รีบเร่งปิดประตูเข้าเสียงดังสนั่น ไม่พอยังล็อกห้องให้พี่สาวเสร็จสับ อย่างกับพาสาวมาห้องตัวเอง หรือคนน้องกำลังสับสนว่านี้คือห้องของลูกพลัมไม่ใช่ห้องของตัวเอง ทุกๆ การกระทำ ทำให้คนพี่อึ้งและงุนงงยิ่งกว่าเดิม ได้แต่ยืนเปิดตากว้าง อ้าปากค้าง จ้องมองเขาที่ยืนอยู่ตรงหน้า
"ขะ เข้ามาได้ ยะ ยังไง? เนี่ย"
สติที่หายไปคงยังหักลำกลับมาไม่ทัน ความมึนงงที่ได้รับ ฉุดคิ้วหนาเร่งขมวดเข้าหากัน พลางกะพริบตาปริบๆ กับคำถามของพี่สาวที่ตั้งใจจะพูดอีกอย่าง แต่ก็พูดออกมาอีกอย่างทั้งที่ตัวเองเป็นคนเปิดประตูให้น้องเข้ามาเอง
"เฮ้ย! ขึ้นมาได้ยังไง?"
"ไม่เห็นจะยากเลยครับ"
"เดี๋ยว! เดี๋ยวนะ!"
ความลนลานของพี่ไม่ได้ทำให้น้องหยุดเคลื่อนไหวตามคำสั่งของเลยสักนิด เท้าทั้งสองข้างเร่งถอดรองเท้าและเดินเข้ามามองสำรวจห้องของลูกพลัม ทำอย่างกับห้องของตัวเอง ไม่มีแม้ความเกรงใจกันเลยสักนิด
"นี่เจเลอร์ออกไปนะ ขึ้นมาได้ยังไง?"
"ทำไมอะ? ก็ขึ้นมาตามพี่ไงให้เค้ารอข้างล่างนานเกินไป เค้าเลยขึ้นมานี่ไง"
"แล้วขึ้นมาได้ยังไง? เธอไม่มีคีย์การ์ดนิ"
ความสงสัยมาพร้อมกับความตื่นกลัว เห็นหน้าหล่อๆ แบบนี้ไว้ใจไม่เคยได้ นึกว่าจะรอดแล้ว ที่ไหนได้เหมือนล่อเสือเข้าถ้ำ รอแค่วันที่เสือจะขย้ำตายคาถ้ำตัวเองดีๆ นี่เอง
"เค้าก็ขึ้นมาพร้อมกับคนอื่นที่อยู่ชั้นนี้ไง"
"เอ้า! แล้วรู้ได้ไงว่าพี่อยู่ชั้นนี้ แล้วก็ห้องนี้ด้วย?"
"ถามเฮียไง ง่ายๆ จบมะ"
"ฮะ?"
มันน่าไหมละ ไอ้สาวหล่อตัวแสบ อนุญาตให้น้องรหัสตัวเองมาสร้างความวุ่นวายในใจกันไม่พอ ยังบอกคนน้องอีกว่าห้องเธออยู่ชั้นไหน ห้องไหนอีกด้วย คิดแล้วพี่สาวก็โมโหพลางกำหมัดแน่นรีบเบือนหน้าหันไปมองมือถือตัวเองในขณะที่ลูกหมาชิวาวากำลังเดินสำรวจภายในห้องของเธอยกใหญ่
"หอมจัง!"
"อะไรอีก?"
"ห้องพี่หอมจัง"
ในวินาทีนี้ที่มายืนอยู่ในห้องของคนที่ตนเองแอบรักมานานหลายปี เขายอมรับว่าที่ผ่านมาเวลาไปห้องสาวๆ มากหน้าหลายตามาไม่เคยเจอห้องใครสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีกลิ่นหอมแบบนี้มาก่อนเลย บางคนห้องรกมาก บางคนห้องเหม็นอับมาก บางคนห้องหอมแต่เศษขยะ ถ้วยจานไม่ยอมล้างวางไว้เต็มตา จนหนอนขึ้นสุดจะน่าขยะแขยง คิดแล้วก็แทบอยากจะอ้วกออกมา
"หอมเหมือน..."
เท้าเร่งเดินเข้ามาใกล้พี่สาวจน ร่างเล็กต้องรีบถอยหลังกรูออกห่างจากน้องในทันทีที่ใบหน้าหล่อนั้นเคลื่อนตัวเข้าดมกลิ่นเธอใกล้ๆ
"เฮ้ย! จะ จะทำอะไร?"
"ดมกลิ่นพี่ไง"
"โรคจิตปะเนี่ย ออกไปได้แล้วไป รู้แล้วว่ามาตามจะลงไปแล้ว"
ฝ่ามือเร่งสะบัดไล่คนน้องออกไปให้ไกล แต่ไฉนแทนที่จะเดินตรงไปยังบานประตูทางออก ทิศทางของเท้าเปลี่ยนเป็นตรงเข้าไปยังห้องนอนของเธอแทน
พรึบ!!
"เฮ้ยเจย์!!"
"เฮ้อ! สบายจัง"
ร่างใหญ่ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มของคนพี่ ราวกับเตียงของตนเอง พร้อมกับหลับตาพริ้มลงแต่ใบหน้าหล่อกลับเผยยิ้มระเรื่อส่งให้พี่สาวอยู่บนเตียงหน้าดื้อๆ
"ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยนะใครอนุญาตให้เธอขึ้นมานอนบนเตียงพี่"
ความบ้าบิ่นเกินมนุษย์มนาไม่เพียงพอ ไอ้หน้าหล่อนี่ยังไม่คิดจะสำนึกเลยว่านี่ห้องของพี่สาว และนี่ก็เตียงของพี่สาว มีหน้ามาดึงผ้าห่มของเขาคลุมตัว และกอดเอาไว้แน่น นอนหลับตาพริ้มไม่สนใจเสียงของเจ้าของห้องอีกต่างหาก
"ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยนะเจเลอร์"
"เค้าง่วงครับ พี่ให้เค้านั่งรอข้างล่างตั้งนาน ปวดหลังหมดแล้วเนี่ย"
ตาหลับแต่หน้ายิ้มหวานมีอยู่จริง และจะยิ้มหน้าหวานเยิ้มอะไรขนาดนั้นได้ยังไง ถ้าไม่ไม่ใช่ว่าแรงปรารถนาเดียวของตัวเองกำลังเข้าใกล้มากขึ้นกว่าเดิม
"ง่วงก็กลับไปนอนบ้านเธอดิ จะมานอนห้องคนอื่นได้ยังไงก่อน? นอนยังกับห้องตัวเองเลย"
"ขอนอนหน่อย ที่นี่หอมมาก หอมเหมือนเค้านอนอยู่ในทุ่งดอกไม้เลยอะ"
"มโนเก่งมาก"
คิ้วบางผูกกันเป็นโบว์ ด้วยท่าทางหวานระแวง ให้ตายยังไงก็ไม่มีทางที่เธอจะเข้าไปดึงลูกหมาตัวนี่ออกจากเตียงแน่ ๆ ยิ่งอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงแบบนี้ยิ่งน่าขนลุก
ปึก! ปึก! ปึก!
"มานอนกับเค้ามา เค้าไม่ทำอะไรพี่หรอก จนกว่าพี่จะยอมสอนเค้าดีๆ"
นิ้วยาวเร่งตบลงพื้นเตียง เป็นสัญญาณเรียกให้คนพี่ขึ้นมานอนด้วย แต่ใครเขาจะอยากสอนเรื่องอย่างว่าในเวลาสุดล่อแหลมแบบนี้ แม้จะรู้แต่ใจมันวอแวอยากให้พี่สาวยอมใจอ่อนเสียที แต่ก็คงเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน เมื่อสีหน้าและท่าทางของเธอแสดงออกอย่าชัดเจนจนน่าหมั่นไส้ ว่าเธอจะไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่ๆ
"ไม่มีทาง"
"หึ!"
นั่นไง คิดไว้ไม่มีผิด ดวงตาคมค่อยๆ ลืมขึ้นบางเบา พร้อมกับรอยยิ้มแสยะบนหน้าหล่อ ที่เห็นคนพี่ยืนกอดอกจ้องมองเข้าอยู่ใกล้ๆ จนมันอดที่จะเอ็นดูและหมั่นไส้ในเวลาเดียวกันไม่ได้
"หึ! ชัดเจนจังเลยแม่คุณ ทูนหัวของเจเลอร์ "
"คำพูดคำจาโบราณมาก"
ตากลมโตจ้องมองลูกหมานอนยิ้มหวานอยู่บนเตียงด้วยความหงุดหงิด พร้อมกับสายตาแห่งความหวาดระแวง ถึงแม้น้องจะบอกว่ายังบริสุทธิ์ผุดผ่องอะไรขนาดนั้น ไม่รู้จริงหรือไม่อย่างไรก็ตาม แต่น้องก็คือผู้ชาย อารมณ์กับความต้องการมันไม่เข้าใครออกใคร ความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องสอนกันด้วยซ้ำถ้ามันเกิดขึ้นมาจริงๆ ทำไม่เป็นก็ทำเป็นจนได้ เชื่อสิ
"ลุกได้แล้วจะไปไหม พี่รหัสเธอไลน์ตามแล้วนะ"
"ง่วง!"
"เฮ้อ!! เจเลอร์คิดจะไม่เกรงใจกันเลยใช่ป้ะ?"
เห็นว่าน้องนอนเพลินไปแล้ว นอนไม่เกรงใจกันเลย พี่สาวที่เอาแต่อดกลั้นความหวั่นไหวเอาไว้ รีบบ่นให้คนน้องที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ แต่เจเลอร์ยังเงียบไม่ตอบโต้อะไรเธอกลับมาทำเหมือนว่าได้เข้าเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยแล้ว
เจย์!!...เจเลอร์!!
ความเงียบที่ตั้งใจปั่นประสาทพี่สาว เริ่มทำให้เธอหงุดหงิด จึงตัดสินใจเดินไปเขย่าตัวเขาโดยไม่ทันระวัง
"เจเลอร์..."
พรึบ!!
กรี๊ดดด!!
"อื้อ!"
แรงกระชากต้นแขนที่ตั้งใจเขย่าคนน้องรุนแรงขนาดนั้น ความเจ้าเล่ห์ของสุนัขจิ้งจอกคว้าเอวคอดกดร่างเธอนอนลงที่เตียง กระชับอ้อมกอดแน่นจากด้านหลัง โดยไม่สนแม้เสียงกรีดร้องของพี่สาว
"เจเลอร์ปล่อยนะ! ปล่อยพี่!"
ต่อให้พยายามดิ้นขลุกขลักไปมา แต่ทว่าหน้าหล่อยังหน้ามึนไม่ยอมปล่อยมือออกจากการกอดรัดพี่สาว ยิ่งกอดยิ่งดิ้นไปดิ้นมา กระทั่งก้นงอนเด้งไปโดนอะไรบางอย่างที่กำลังตั้งโด่อยู่ด้านหลัง ถึงกลับทำให้ลูกพลัมชะงักนิ่งด้วยความตื่นตกใจ
'เอาแล้วไง คิดไว้ไม่มีผิดจริง ไม่น่าเข้าใกล้ตัวอันตรายนี้จริงๆ เลย อื้อ!'
"พี่ครับ พี่จะใจร้ายกับเค้าขนาดนั้นเลยจริงๆ เหรอ?"
"เจย์หยุด!"
ใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาใกล้ๆ คลอเคลียอยู่ที่ท้ายทอยขาวของคนพี่ พร้อมกับจังหวะหายใจถี่พ่นลมร้อนรดต้นคอด้านหลังของเธอ ทำให้พี่สาวขนลุกชูชันขึ้นไปทั้งตัว
"เจเลอร์หยุด! พี่ไม่เล่นนะ!"
"เค้าก็ไม่ได้มาเล่นๆ เค้าเอาจริงๆ พี่สอนเค้าหน่อยนะครับ"
"ไม่สงไม่สอนอะไรทั้งนั้น ปล่อยนะเจย์ อือ"
ยิ่งปฏิเสธเหมือนยิ่งยุให้ทำ เรียวปากหยักไล่พ่นลมร้อนที่ต้นคอของพี่สาว จนต้องรีบหดไหล่เพื่อไล่ความวาบหวิวที่คนน้องประเคนให้
"นะ!"
"ไม่!"
"พี่เป็นพยาบาลน่าจะรู้เยอะกว่าเค้า ว่าตรงไหนรู้สึกดีตรงไหนมันทำให้อีกฝ่ายชอบอะ"
"ฮะ! ไอ้...ไอ้เด็กบ้า มันไม่เกี่ยวกันเว้ย ไม่เกี่ยวกับอาชีพเลยสักนิดเดียว"
ไปเอาตรรกะนี่มาจากไหนวะ ตั้งแต่เกิดมาเธอก็พึ่งเคยได้ยิน นอกจากจะบ้าและไอ้หน้าหล่อนี้ยังหาเรื่องเซอร์ไพรส์เธอได้สุดแปลกอีกด้วย
"นะครับ เค้าจะพยายามทนให้มากที่สุดกว่าพี่จะไฟเขียว"
"ไม่เว้ย!"
"พี่ลูกพลัมครับ"
"เจย์ปล่อยพี่นะ"
ยิ่งอ้อนยิ่งดิ้น ยิ่งดิ้นยิ่งคลอเคลียหนักและรุกยิ่งกว่าเดิม แต่ทว่าต่อให้พี่สาวดิ้นแรกแค่ไหน น้องกลับไม่ยอมปล่อยมือออก
จุ๊บ!!
ด้วยความมันเขี้ยวคนพี่ เร่งกดริมฝีปากหยักลงที่แก้มเนียนของเธออีกหนึ่งฟอดหนักๆ
"อ๊ะ! จะ...เจเลอร์ ไอ้เด็กบ้า...ปล่อยนะ...ปล่อยเดี๋ยวนี้ อื้อ!"
แรงฮึดสู้เฮือกสุดท้าย เสริมให้ลูกพลัมดิ้นแรงกว่าเดิม กระทั่งคนน้องต้องยอมคลายอ้อมแขนออก ปล่อยให้พี่สาวรีบลนลานดีดตัวเป็นอิสระจากเขา ที่แม้จะเสียดายแต่ทว่าพี่สาวไม่ยอมแบบนี้ ก็ไม่มีทางเลือก ไว้ค่อยตะล่อมใหม่ทีหลังยังจะได้ผลดีกว่า
talk
ไอ้ลูกหมา พอได้รุกก็รุกแรงเกิน พี่สาวจะต้านไม่ไหวแล้วนะ ยั่วกันขนาดนี้ได้ไง
