โดดเดี๋ยวใต้ทะเลลึก 1000 เมตร

131.0K · ยังไม่จบ
Polygon
53
บท
19.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

โดดเดี่ยวไม่มีเพื่อนตอนอนุบาล พอขึ้นประถมก็โดดเดี่ยวอีก ตอนมัธยมก็ยังโดดเดี่ยว ชีวิตของเขาช่างน่าสงสาร แต่สุดท้ายเขาก็ยังคงถูกทิ้งโดยเพื่อนและครูของเขาในขณะทัศนศึกษา ให้ดิ่งสู่ทะเลลึก 1000 เมตร

นิยายแฟนตาซีนิยายแอคชั่นนิยายผจญภัย

ตอนที่ 1 ดำดิ่งสู่ท้องทะเล

ในเดือนเมษายนระหว่างปิดเทอมฤดูร้อนเวลาประมาณบ่าย 2.30 น. เซนนักเรียนชั้นมัธยมปลายปีที่สามของโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งได้ออกมาทัศนศึกษาซึ่งเป็นการท่องเที่ยวและเป็นการอำลาเพื่อนในชั้นเรียนก่อนที่ต่างคนจะต่างไปตามหาความฝันของตนเองในรั้วมหาลัย

บนรถบัสที่กำลังนำพาพวกเขาไปสู่สถานที่อันสวยงามที่เต็มไปด้วยวิวของเทือกเขาและป่าไม้ แม้ว่าจะเป็นการทัศนศึกษาเพื่ออำลากันกับเพื่อนฝูงเป็นครั้งสุดท้าย แต่เซนกลับนั่งอยู่ในที่นั่งข้างหลังสุดของรถบัสอย่างโดดเดี่ยวและมองออกไปข้างนอกผ่านกระจกรถชมวิวถนน และเงาของผู้คนอย่างเหงาๆ

เซนเป็นคนที่ถูกทอดทิ้งโดยเพื่อนของเขามาตั้งแต่อยู่อนุบาล หรือแม้แต่ตอนประถม สุดท้ายก็มาช่วงมัธยมต้นเขาก็ยังไม่มีเพื่อนสักคนเดียว แม้แต่ตอนปัจจุบันนั้นแม้เขาจะพยายามขนาดไหนก็ยังไม่มีใครต้องการเป็นเพื่อนกับเขา เนื่องจากเซนนั้นเป็นชายหนุ่มร่างเล็กผอมแห้ง หน้าตาดูธรรมดาไม่ได้มีเสน่ห์ดึงดูดใดๆ ที่แย่ที่สุดก็คือบุคลิกของเขากลับเป็นคนเงียบๆ ซึ่งเมื่อทั้งหมดมารวมกันในตัวคนเดียวแล้วทำให้นักเรียนในชั้นเรียนทั้งหมดของเขามองว่าเขาเหมือนกับพวกเก็บตัวหรือพวกโรคจิตอะไรทำนองนั้น

“หลังจากรถบัสรอดผ่านอุโมงค์ไปแล้ว ขอให้นักเรียนทุกคนเตรียมพบกับสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามได้เลย! ”

คุณครูจอร์จ แฮร์รี่เป็นครูประจำชั้นของเขา และทำหน้าที่เหมือนกับไกด์นำทัวร์ในครั้งนี้ประกาศบอกนักเรียนในชั้นของทุกคนผ่านไมค์ลอยตัวหนึ่งที่ทางรถบัสมีเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว

คำกล่าวของครูจอร์จได้เสียงตอบรับดีเป็นอย่างมาก มีนักเรียนหลายคนต่างลุกยืนจากที่นั่งตนเองและปรบมืออย่างตื่นเต้น แทบทุกคนที่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขและกอดคอเพื่อนฝูงของตนเอง มีเพียงแค่เซนเท่านั้นที่นั่งอยู่อย่างโดดเดี่ยว และครูจอร์จก็ได้สังเกตเห็นแล้ว เพียงแต่เขาไม่สนใจเท่านั้นเนื่องจากเขาไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องของนักเรียน

การมีครูประจำแบบจอร์จนั้นสำหรับนักเรียนคนอื่นๆ นับว่าเป็นเรื่องดี แต่สำหรับเซนแล้วนับว่าเป็นเรื่องบัดซบที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เขาถูกกล่าวเป็นตัวตลกในห้องเรียนอยู่หลายครั้งในคาบเช้า โดยเอาปมด้อยเรื่องร่างกายอันผอมแห้งและบุคลิกไปล้อเล่นอย่างสนุกปากเพื่อให้นักเรียนคนอื่นๆ หัวเราะเยาะเขา

อย่างไรก็ตามเซนไม่เคยเกลียดรูปร่างหน้าตาของตนเองเลยที่เกิดมาเป็นแบบนี้ เป็นเพราะว่าเขารักแม่ของเขามาก แม่ของเขามักจะพูดเสมอว่าที่ตั้งชื่อของเขาว่า"เซน"นั้นเพราะมันมีความหมายว่าของขวัญจากพระเจ้า เป็นเพราะว่าเมื่อเซนเกิดมานั้นเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขในชีวิต

“เห้อ…ไม่น่ามาเลยจริงๆ”

เซนกล่าวขึ้นด้วยเสียงกระซิบเบาๆ ในตอนแรกที่เขามานั้นเพราะหวังว่าตนเองนั้นจะได้เพื่อนบ้าง แต่มันกลับตรงกันข้าม

“ครืดๆ”

ในขณะที่รถบัสเคลื่อนที่ผ่านอุโมงค์มืดๆ นั้นตัวรถก็ได้เกิดการสั่นเล็กน้อย อาการเหมือนกับว่ามันเคลื่อนที่อยู่บนพื้นผิวถนนที่ขรุขระ มีนักเรียนหลายคนที่ยืนเล่นกันอยู่ล้มลงไปก้นกระแทกพื้นรถและสบถออกมา

ไม่ใช่แค่นักเรียนพวกนั้นแม้แต่เซนที่นั่งอยู่ก็ถูกแรงกระชากให้หลุดออกจากที่นั่งเช่นเดียวกันเนื่องจากไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย

“นักเรียนเป็นอะไรไหม? ”

ครูจอร์จดูเหมือนจะเป็นห่วงนักเรียนของเขามาก เมื่อเสียงของครูจอร์จดังขึ้นเซนคิดว่าครูประจำชั้นของเขาจะมาช่วยเหลือเขา แต่กลับไม่ใช่อย่างนั้นเพราะครูจอร์จนั้นได้เข้าไปพยุงนักเรียนหญิงที่ล้มอยู่เบื้องหน้าของเซนและมองกลับมาที่เซนด้วยท่าทางเฉยเมยก่อนที่จะเดินกลับไปที่ด้านหน้าของรถบัสเหมือนเดิม

“ฉันไม่จำเป็นต้องขอความเห็นใจจากใคร…ฉันช่วยตัวเองได้! ”

เซนกล่าวกับตนเองและพยายามพยุงตนเองให้ลุกขึ้นอย่างไรก็ตามในจังหวะนั้นเองแรงกระชากบนรถทัวร์ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้มันรุนแรงมาก ไม่ต่างกับรถพุ่งชนกับวัตถุขนาดใหญ่ด้วยความเร็วมากนัก

“ตูมมมมมมมม! ”

อยู่ๆ เมื่อรถบัสรอดออกจากอุโมงค์มืดออกพื้นที่สว่างๆ รถบัสก็ได้พุ่งตกลงไปในน้ำทันที

“กรี๊ดดดดดดด! ”

ผู้หญิงหลายคนกรีดร้องออกมาเต็มเสียงเมื่อเห็นน้ำจำนวนมากเข้ามาในรถ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่จะเตรียมตัวรับมือกับมันทัน

“อ็อก! ”

เซนถูกน้ำที่พุ่งเข้ามาทางหน้าต่างรถทัวร์สาดเข้าใส่จนสำลักน้ำออกมา และรู้สึกว่าน้ำนั้นมีรสชาติที่เค็มมาก มันคือน้ำทะเล!

“เราไปเที่ยวบนเขาไม่ใช่เหรอ!? แล้วทำไมถึงมาโผล่ที่ทะเลได้! ”

ในขณะที่ทุกคนกำลังสับสนกันอยู่นั้นอาจารย์จอร์จที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดในหมู่ของนักเรียนทั้งหมดก็ได้กล่าวขึ้นด้วยเสียงที่ดังมากๆ

“นักเรียนทุกคนรีบออกจากรถทางหน้าต่างเร็วเข้า! รถกำลังจมลงไปในน้ำแล้ว! ”

เมื่ออาจารย์จอร์จพูดจบมีนักเรียนหลายคนรีบออกไปทางหน้าต่างของรถทัวร์ในทันที

“ตูม! ”

เสียงน้ำกระเซ็นเนื่องจากคนกระโดดลงไปในน้ำดังขึ้นเป็นช่วงๆ ในขณะเดียวกันก็มีคนที่ได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกก่อนหน้านี้จำนวนมาก มีบางคนถึงขั้นหมดสติไปเลยก็มี

อาจารย์จอร์จไม่กล้ารอช้ารีบพุ่งเข้าไปพยุงนักเรียนหญิงที่หมดสติไปเพื่อรีบออกจากรถทันที ในขณะเดียวกันนักเรียนชายที่แข็งแรงหลายคนเองก็แบกคนบาดเจ็บออกไปทีละคนๆ

ในขณะที่อาจารย์จอร์จกำลังจะออกจากรถทัวร์ไปนั้น เสียงของนักเรียนชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นด้วยเสี่ยงสั่นๆ

“อาจารย์จอร์จครับ ผะ…ผมว่ายน้ำไม่เป็น”

เมื่ออาจารย์จอร์จได้ยินเช่นนั้นก็หันหัวกลับมามองด้วยความเป็นห่วงทันที แต่เมื่อพบว่าเป็นเซนนั่นเองที่กล่าวกับเขาความรู้สึกห่วงของจอร์จก็หายไปในทันที ก่อนที่จะกล่าวกับเซนว่า

“นักเรียนครูไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้ เพราะต้องแบกเพื่อนของเธอสองคนนี้ออกไปด้วย ดังนั้น…นักเรียนเธอหาคนอื่นช่วยเถอะ! ”

แขนของเซนที่ยื่นออกไปหาจอร์จสั่นเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย ชายหนุ่มยังไม่ทันได้กล่าวสิ่งใดต่อจอร์จก็ได้จากไปเสียแล้ว เซนเห็นว่าตัวเขานั้นยังพอมีหวังที่จะรอดชีวิตไปได้เพราะยังเหลือนักเรียนที่แข็งแรงอยู่ในรถอีกหลายคน

“ช่วยฉันด้วย! ฉันว่ายน้ำไม่เป็น! ”

“….”

ความเงียบถูกปกคลุมไปทั่วทั้งคันรถ แต่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่คิดจะช่วยเหลือเซน

“ช่วยตัวเองเถอะ ฉันยังต้องช่วยเหลือเพื่อนของฉัน! ”

เสียงนักเรียนชายคนหนึ่งดังขึ้นเขาแบกเพื่อนสาวที่ดูบอบบางของเขาขึ้นพร้อมกระโดดลงจากรถทัวร์ไป

“ฉันไม่ว่างโทษที…”

“ฉันว่ายน้ำไม่แข็งขืนช่วยนายมีหวังจมน้ำตายแน่ๆ”

…..

หลายๆ คนต่างอ้างหลายๆ เหตุผลพวกเขาออกจากรถทัวร์ไปทีละคนสุดท้ายแล้วก็เหลือชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งยืนอยู่ภายในรถทำสีหน้าพิจารณาบางอย่างไม่ได้มองมาที่เซนเลย

นักเรียนชายผู้หล่อเหลาคนนี้เป็นคนที่อัธยาศัยดีมากเขาเป็นถึงหัวหน้าห้องและเป็นประธานสภานักเรียนอีกด้วย ผลการเรียนดีเยี่ยมและมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี อย่างน้อยภานุคิดว่าชายหนุ่มนั้นคุยกับหัวหน้าห้องคนนี้บ่อยที่สุดหากเทียบกับคนอื่นๆในโรงเรียน

“หัวหน้าห้องๆ”

สีหน้าท่าทางของเซนร้อนรนเป็นอย่างมากพยายามเรียกอีกฝ่ายอย่างเอาเป็นเอาตาย อีกฝ่ายเหมือนจะได้สติแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมาและมองไปที่เซนพร้อมกับยิ้มและกล่าวว่า

“ทำไมนายยังไม่ออกไปอีกล่ะ รถคันนี้จะจมแล้วนะถ้าช้ากว่านี้นายได้ตายแน่ๆ”

“ฉัน…ฉันว่ายน้ำไม่เป็น! ”

เมื่อเซนกล่าวเหตุผลออกมาสีหน้าของหัวหน้าห้องก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวด้วยความตึงเครียด ก่อนที่เขาจะส่ายหัวและเหมือนจะตัดสินใจบางอย่าง

“ฉันไม่สามารถแบกคนออกไปพร้อมกันสองคนได้ มันอันตรายเกินไปฉันต้องเลือกช่วยระหว่างนายกับเธอ…”

เมื่อหัวหน้าห้องกล่าวจบ เขาก็ได้ชี้ไปที่ร่างของหญิงสาว หญิงสาวคนนี้นับว่ามีใบหน้าที่งดงามอย่างมากและยังดูสูงส่งอีกเสน่ห์ดึงดูดต่อให้นักเรียนหญิงทั้งห้องรวมกันยังไม่อาจมีทางเทียบกับเธอได้ นักเรียนหญิงคนนี้มีชื่อว่า “เอลลี่” เธอเป็นหญิงสาวที่เย็นชาที่สุดในห้องและมีเพื่อนน้อยมากๆ แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีเพื่อนเพราะหน้าตาที่ดีของเธอ

เอลลี่เหมือนจะได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ เซนสังเกตเห็นเลือดที่ไหลออกมา ดูแล้วบาดแผลน่าจะร้ายแรงไม่เบาถึงขนาดส่งผลให้หญิงสาวคนนี้หมดสติไปเลย

เมื่อหัวหน้าห้องกล่าวออกมาเช่นนั้นแน่นอนว่าเซนถึงกับเกิดอาการกังวล อย่างไรก็ตามแม่ของเขามักจะสั่งสอนเสมอว่าให้ปกป้องผู้หญิงที่ควรจะปกป้อง และภานุเห็นว่าหญิงสาวคนนี้นั้นไม่ได้เป็นคนเลวอะไร แต่เมื่อความเป็นตายอยู่ตรงหน้าขนาดนี้ มันต้องตัดสินยากเป็นธรรมดา

หัวหน้าห้องนั้นเมื่อเห็นท่าทางตึงเครียดและลังเลของเซน รอยยิ้มของเขาที่ดูเป็นมิตรก็เปลี่ยนเป็นนิ่งและเย็นชา สายตาของเขาเมื่อใช้มองมาที่ภานุนั้นไม่ต่างอะไรกับใช้มองขยะชิ้นหนึ่ง ซึ่งเซนไม่ได้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงนี้เลย

“นายชื่อเซนใช่ไหม? ”

หัวหน้าห้องกล่าวถามขึ้นทำให้ภานุที่กำลังคิดบางอย่างอยู่หลุดออกจากภวังค์ความคิดอย่างกะทันหัน หัวหน้าห้องได้เดินมาเบื้องหน้าของเซนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ก่อนที่หัวเข่าของเขาจะพุ่งกระแทกเข้าที่ท้องของเซนอย่างสุดแรง

“อ็อก! ”

เซนรู้สึกจุกเป็นอย่างมากจนคุกเข่าอย่างอ่อนแรงกับพื้น ในขณะเดียวกันเขาก็กำลังสับสนเมื่อมองไปที่ท่าทางเย็นชาของหัวหน้าห้อง แล้วเหตุใดหัวหน้าห้องต้องมาทำร้ายเขาด้วย

“ปัก! ”

คางของภานุถูกเท้าของหัวหน้าห้องกระแทกเข้าเต็มๆ จนเขาแทบจะหมดสติไปในทันที

“ฉันจะไม่ขอโทษนายหรอกนะ เพราะฉันทำไปเพื่อป้องกันไม่ให้นายทำอะไรบ้าๆ หากฉันเลือกช่วยเธอ! นายไม่ต้องถามหรอกว่าทำไมฉันถึงเลือกเธอ เพราะมันแน่นอนอยู่แล้วว่าตัวนายมันไร้ค่ามากกว่าเธอเป็นพันเท่า การช่วยเธออย่างน้อยฉันก็ได้ความประทับใจจากเธอ แล้วถ้าช่วยนายฉันจะได้อะไร? ”

“นะ…นาย…จะได้ความประทับใจจากฉัน…”

เซนพยายามเปล่งเสียงกล่าวออกมาแต่มันยังคงแผ่วเบา อย่างไรก็ตามก็มากพอที่จะทำให้หันหน้าห้องได้ยิน หัวหน้าห้องยิ้มออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่จะเหยียบไปที่มือของเซน

“อ้ากกกกกกกกกก! ”

เซนกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดและพยายามจะดิ้นรน อย่างไรก็ตามการดิ้นรนของชายหนุ่มแทบจะไร้ค่าเมื่อเทียบกับพละกำลังของอีกฝ่าย

“ความประทับใจจากนาย? อย่าพูดให้ขำหน่อยเลย…นายก็รู้ตัวเองดีว่าตัวเองนั้นไร้ค่าขนาดไหนใช่ไหม? จริงๆ แล้วฉันสามารถแบกนายกับเธอออกไปพร้อมกันได้ถึงจะเสี่ยงหน่อยก็เถอะ แต่เพราะเป็นนายฉันถึงได้ไม่ต้องการจะพาออกไป”

“รู้ไหมว่าทำไม? ”

“….”

เซนไม่สามารถกล่าวตอบอะไรได้แล้วตอนนี้เขากำลังจะหมดสติลงไปทุกทีๆ แต่คำพูดของหัวหน้าห้องยังพอฟังได้ชัดเจนอยู่ ในใจของชายหนุ่มก็รู้สึกโกรธแค้นขึ้นมา เป็นครั้งแรกที่เขาต้องการจะชกคนขนาดนี้ ถึงแม้ว่าหัวหน้าห้องจะเลือกช่วยเธอคนเดียวแน่นอนว่ายังไงเขาก็ไม่ทำอะไรหัวหน้าห้องอยู่แล้ว แต่หัวหน้าห้องกลับทำกับเขาแบบนี้

“ฉันจะตอบให้แล้วกัน! มันเป็นเพราะแกมันไร้ค่าเหมือนเศษขยะ การได้เป็นหัวหน้าห้องและต้องคอยถามไถ่และพูดคุยแกบ่อยๆ มันแทบจะทำให้ฉันอยากจะอาเจียน ทำไมไม่ลาออกไปจากโรงเรียนไปซะนะ แต่ช่างเถอะ! ยังไงวันนี้แกก็ตายอยู่ดี”

เมื่อหัวหน้าห้องกล่าวถึงตรงนี้เซนก็ได้หมดสติไปแล้วตอนนี้น้ำแทบจะท่วมมิดหัวของชายหนุ่ม หัวหน้าห้องไม่ได้กล่าวสิ่งใดต่อ นิสัยที่แท้จริงของหัวหน้าห้องน่ารังเกียจเป็นอย่างมากเขาสามารถปิดมันเอาไว้ภายใต้รอยยิ้มที่อบอุ่นตลอดๆ แต่วันนี้เซนกลับต้องมาตายพร้อมกับความแค้นที่โดนดูถูกและเหยียบย้ำจากคนเช่นนี้…

เมื่อทุกคนออกจากรถทัวร์ไปหมดแล้ว รถทัวร์เองก็ค่อยๆ จมลงลึกสู่ก้นมหาสมุทรอย่างช้าๆ โดยไม่มีใครรู้เลยว่ามันนั้นได้ลงไปลึกเพียงใด แต่ที่สำคัญก็คือมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่จะกลายเป็นตำนานได้จมลงไปพร้อมกับมันด้วย