บทที่ 1
ดนัยภัทรจูงมือคนรักมาที่สวนของบ้านที่ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านเท่าไหร่ เขาอยากพูดบางอย่างกับเธอตามลำพังโดยไม่มีใครมาขัดขวาง บางอย่างที่คิดแล้วว่าจะต้องเป็นเพลงขวัญเท่านั้นที่เหมาะสมกับคำๆ นี้
“แต่งงานกับผมนะครับขวัญ…”
“เราเลิกกันเถอะค่ะภัทร!” ทว่าประโยคของทั้งสองคนที่เอ่ยขึ้นพร้อมกันนั้นกลับไปคนละทาง และคนที่ตกใจมากกว่าเห็นทีจะหนีไม่พ้นชายหนุ่มที่หวังจะขอคนรักแต่งงาน แต่แล้วเขากลับได้คำบอกเลิกเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบสามสิบสองจากเธอแทน คำว่าตกใจยังน้อยไปกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
“ขวัญ! คะ…คุณพูดอะไร”
“ขวัญมาคิดๆ ดูแล้ว ขวัญว่าเราสองคนเหมาะที่จะเป็นแค่เพื่อนกันมากกว่า เราไม่มีอะไรเหมือนกันเลยสักอย่าง ขวัญชอบป่าเขาส่วนภัทรชอบทะเล ขวัญไม่ชอบอยู่กับที่ส่วนภัทรก็ต้องสานต่องานที่บ้าน อยู่กันไปคงไม่มีความสุข คุณเป็นคนดีนะคะภัทร ขวัญผิดเองค่ะ” ใช่ว่าเธอจะไม่เสียใจกับการบอกเลิกคนดีๆ อย่างดนัยภัทร แต่เพราะเธอเองก็มีความฝัน ฝันที่อยากจะไปเที่ยวในที่ต่างๆ ฝันที่อยากจะใช้ชีวิตของตัวเองให้คุ้มค่า ซึ่งฝันของเธอมันช่างต่างจากฝันของเขาโดยสิ้นเชิง เพราะเขามีธุรกิจของพ่อที่ต้องสานต่อ และเธอคงทนไม่ได้ที่จะหยุดกับที่เพื่อสร้างฝันนั้นของเขา ในเมื่อต่างคนต่างมีความฝันที่เข้ากันไม่ได้ ฝืนต่อไปก็คงไร้ประโยชน์อยู่ดี
สู้ให้เรื่องทุกอย่างมันจบเสียตั้งแต่วันนี้จะดีกว่า
“ผมเปลี่ยนเพื่อคุณได้นะครับขวัญ ขวัญอยากให้ผมทำอะไรขวัญบอกผมสิ ผมทำเพื่อคุณได้ทุกอย่าง ขออย่างเดียวเราไม่เลิกกันได้ไหมขวัญ” ดนัยภัทรเอ่ยขึ้นอย่างเว้าวอน เขาไม่มีวันให้เรื่องทุกอย่างมันต้องจบลงแบบนี้แน่ ตลอดเวลาที่คบหันเขาหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงมาโดยตลอด ไม่เคยคิดเผื่อใจเลยว่าวันนี้จะมาถึงวันที่เธอเป็นฝ่ายเดินมาขอเลิกกับเขาเอง
“ขวัญขอโทษค่ะภัทร ขวัญขอโทษจริงๆ” ทว่ากลับไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนใจเธอไปได้ เธอกล่าวเพียงสั้นๆ ก่อนตัดสินใจเดินจากกันไปอย่างเงียบๆ
“ขวัญ”ทิ้งไว้แต่คนรักที่เรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่คล้ายคนจะหมดแรง
บัวบูชาไม่ได้ตั้งใจจะแอบดู เธอกำลังเดินตามหาเพื่อนรักอย่างสกาวใจจนกระทั่งได้ยินคำบอกเลิกของเพลงขวัญเข้าถึงได้หยุดดูอย่างคนไร้มารยาท ยอมรับว่าลึกๆ แอบดีใจแต่พอได้เห็นสีหน้าเจ็บปวดของพี่ภัทรของเธอเข้า ความรู้สึกก่อนหน้าก็ค่อยๆ หายไปกลายเป็นความสงสารแทน
“แกมาทำอะไรตรงนี้ยัยปิ่น!”
“ชูว์ เงียบหน่อยสิดาว เดี๋ยวพี่ภัทรก็ได้ยินหรอก” สกาวใจมองตามมือของเพื่อนรักไปถึงได้เห็นภาพของรุ่นพี่ที่เธอนับถือกำลังทรุดกายนั่งลงไปกับพื้นหญ้า ครั้นจะเอ่ยปากถามเพื่อนอีกฝ่ายกลับเฉลยออกมาซะก่อน
“พี่ขวัญเพิ่งบอกเลิกพี่ภัทร…”
“แกว่ายังไงนะ! บ้าน่า! แกหูฝาดไปรึเปล่า คนอย่างพี่ภัทรเนี่ยนะจะถูกบอกเลิก จ้างให้ฉันก็ไม่เชื่อ” แม้สภาพของคนที่พวกเธอกำลังกล่าวถึงอยู่ตอนนี้จะชวนให้เห็นเป็นแบบนั้นก็เถอะ แต่มันก็ยังยากที่จะเชื่ออยู่ดี ผู้หญิงคนนั้นต้องสมองเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ
“ฉันได้ยินกับหู ได้เห็นกับตาตัวเอง พี่ขวัญเพิ่งบอกเลิกพี่ภัทรจริงๆ ฉันสงสารพี่ภัทรจังเลยดาว” บัวบูชาไม่เคยมีความลับกับเพื่อน กับคนอื่นเธอคงไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อเขาออกไปแบบนี้ ยิ่งสถานการณ์ตรงหน้าเป็นแบบนี้ก็ยิ่งอดเศร้าตามเขาไม่ได้ เขาควรมีความสุขในวันเกิดสิ ไม่ใช่มานั่งเสียใจอยู่อย่างนี้ หากเลือกได้เธออยากเห็นเขามีความสุขมากกว่า แต่ว่าเธอจะไม่ใช่คนที่สามารถสร้างความให้เขาได้ก็เถอะ เธอยอมให้ตัวเองเจ็บเพื่อแลกกับความสุขที่เขาควรมีในวันนี้
“นี่อะไร” ทว่าเมื่อเห็นสิ่งที่สกาวใจหยิบออกมาจากกระเป๋าถือแล้วส่งให้บัวบูชาก็อดที่จะเอ่ยถามเพื่อนรักไม่ได้ ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังยื่นให้กัน
